สโมสรตำรวจ 6ต.ค.-“บิ๊กแป๊ะ” มอบนโยบายการทำงาน ก้าวสู่ปี 4 เก้าอี้ ผบ.ตร. ย้ำให้ตำรวจร่วมทำจิตอาสาเราทำความดีด้วยหัวใจในพื้นที่รับผิดชอบต่อเนื่อง
พลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นประธานการมอบนโยบายการบริหารราชการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) แก่ระกับรอง ผบ.ตร.จนถึงผู้บังคับการ ทุกหน่วยทั่วประเทศ รวม 485 นาย ทั้งนี้ รองผบ.ตร.ที่รับผิดชอบงานด้านต่างๆได้มอบนโยบายแต่ละด้าน ทั้งงานบริหาร งานป้องกันปราบปราม งานสืบสวน งานด้านความมั่นคง งานด้านกฎหมายและคดีและงานจเรตำรวจแห่งชาติ
จากนั้น ผบ.ตร.มอบนโยบายหลัก มุ่งเน้นการทำงานตอบสนองความต้องการของประชาชนและนโยบายรัฐบาลให้บรรลุผลอย่างเป็นรูปธรรม มีความโปร่งใส ชัดเจน ในการขับเคลื่อนระบบอย่างเต็มกำลังความสามารถ พร้อมทั้งได้กำหนดนโยบายบริหารงานให้กับทุกหน่วยในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง การกระจายอำนาจลงสู่ระดับพื้นที่สถานีตำรวจ จนเกิดผลสำเร็จตามเป้าหมายอย่างเป็นรูปธรรมในหลายด้านและมุ่งเน้นเป้าหมายการปฏิบัติงาน เพื่อเป็นหลักประกันความยุติธรรมและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ที่มีมาตรฐานสากล ยึดค่านิยมร่วมกัน พิทักษ์ชาติ ศาสน์ กษัตริย์เป็นที่รักของประชาชน
โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมสนับสนุนการพัฒนาประเทศตามกรอบยุทธศาตร์ชาติ ระยะ 20 ปี ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 12 และเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน เพื่อเป็นหลักในการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนการมอบนโยบาย พลตำรวจเอกเฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผบ.ตร.รายงานยอดจากผู้บังคับการกำลังพล จากนั้นมีการเปิดวิดิทัศน์ของ ผบ.ตร. โดยชูหลักปฏิบัติของตำรวจในปีนี้ ภายใต้แนวคิด “เป็นหลักประกันความยุติธรรมและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนที่มีมาตรฐานสากล” พร้อมย้ำ 6 นโยบายหลัก ในปีงบประมาณ 2562 คือ การงานป้องกันปราบปรามอาชญากรรม,งานความมั่นคงและกิจการพิเศษ,งานกฎหมายและคดี,งานจเรตำรวจ,งานบริหารและงานสืบสวนสอบสวนและยังคงมุ่งเน้นภารกิจตามเป้าหมาย 6 ประการที่กำหนดผลสำเร็จสูงสุดเพื่อการพิทักษ์ปกป้องและเทิดพระเกียรติ
เพื่อความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์,การรักษา ความมั่นคงและ ความสงบเรียบร้อยในสังคม,การป้องกันปราบปรามและลดระดับอาชญากรรม,การแก้ไขปัญหายาเสพติดในทุกมิติ, การเร่งรัดขับเคลื่อนกระบวนการปฏิรูปองค์กรตำรวจในยุคประชาคมอาเซียน และการเสริมสร้างความสามัคคีและการบำรุงขวัญข้าราชการตำรวจ
ในวีดีทัศน์เน้นย้ำให้ตำรวจทั่วประเทศ ร่วมทำจิตอาสาเราทำความดีด้วยหัวใจในพื้นที่ของตัวเองอย่างต่อเนื่อง ร่วมพัฒนาองค์กร พัฒนาศักยภาพของบุคลากรให้เป็นตำรวจที่แข็งแกร่ง ทักษะทางด้านสืบสวนสอบสวนปราบปราม แก้ปัญหาภาพลักษณ์ด้านลบที่ตำรวจเผชิญโดยระบุว่าตลอดกว่า 3 ปีที่ผ่านมาสามารถกู้ภาพลักษณ์ของตำรวจได้ดีขึ้น เป็นผู้นำที่สามารถประสานเป็นปึกแผ่นกับผู้บัญชาการทุกเหล่าทัพขับเคลื่อนเหล่าทัพสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล และจะนำข้าราชการตำรวจสู่ปีที่ 4 ไปด้วยกัน และเพื่อให้งานตำรวจมีประสิทธิภาพประสิทธิผลประชาชนได้รับการอำนวยความสะดวกและบริการที่รวดเร็วเสมอภาคเป็นธรรมมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินมากขึ้นมีความหวาดกลัวภัยน้อยลงเชื่อมั่นในการอำนวยความยุติธรรมและการบังคับใช้กฎหมายที่โปร่งใสสะดวกและรวดเร็วส่งผลให้สังคมประเทศชาติมีความมั่นคงและสงบสุข
นอกจากนี้มีการนำเสนอข้อมูล ตัวอย่างข่าวสารที่สะท้อนภาพลักษณ์ด้านลบของตำรวจ อาทิ การรับสินบน การวางตัวไม่เหมาะสม เมาสุรา โดยนำเสนอข้อมูลข้าราชการตำรวจที่ถูกดำเนินการทางวินัยในปีงบประมาณ 2560 รวม 3,197ราย ตามความผิดข้อร้องเรียนต่างๆให้ออกจากราชการไปแล้วถึง 265 ราย รวมถึงการร้องเรียนพนักงานสอบสวนที่ไม่สามารถบริการประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพในเรื่องต่างๆอีกด้วย.-สำนักข่าวไทย