กทม.26 ก.ย.-ผู้บริหารหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร แจงรายได้หลังถูก กทม.ตัดงบ 2 ปีติด พร้อมเผยถูกตัดน้ำแล้วแม้รัดเข็มขัด ขณะที่เงินที่มีอยู่ได้ถึงกลางปีหน้าเท่านั้น
ผศ.ปวิตร มหาสารินันทน์ ผู้อำนวยการหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เปิดให้ บริการประชาชนมาตั้งแต่29 ก.ค.2551 ได้จัดกิจกรรมทางศิลปวัฒนธรรมปีละกว่า 400 รายการ ที่ผ่านมาได้รับการสนับสนุนงบประมาณอุดหนุนจาก กทม.ร้อยละ 55 คิดเป็นเงิน 40 ล้านบาทในจำนวนนี้ 10 ล้านบาทถูกใช้ในการจัดกิจกรรมเรียนรู้ของบุคลากร ครู นักเรียนโรงเรียนสังกัด กทม.ส่วนที่เหลืออีก 30 ล้าน เป็นค่าใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภค ทั้งการรักษาความปลอดภัย ความสะอาด ซ่อมแซมอาคาร ค่าน้ำ ค่าไฟ เป็นต้น และมูลนิธิหอศิลป์ฯได้จัดหารายได้เพิ่มอีกร้อยละ45 เพื่อนำมาจัดนิทรรศการศิลปะด้านต่างๆทั้งกิจกรรมด้านดนตรี ภาพยนต์ ศิลปะ การแสดง ตามวัตถุประสงค์ของหอศิลป์
อย่างไรก็ตามเนื่องจากงบปี2561 สภา กทม.ได้อนุมัติงบประมาณให้กับหอศิลป์ 40 ล้านบาท โดยให้สำนักงานวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว กทม.เป็นผู้พิจารณาการจ่ายเงินเป็นรายกิจกรรม หอศิลป์กลับไม่ได้รับเงินเต็มจำนวน ได้เพียงค่าน้ำ ค่าไฟ 6-7 ล้านบาท ขณะที่งบปี 2562 มูลนิธิหอศิลป์ฯได้เสนอแผนขอรับเงินอุดหนุนแล้ว แต่ กทม.กลับไม่นำเสนอต่อ สภา กทม.โดยอ้างว่าสภา กทม.ไม่อนุมัติ เนื่องจากยังไม่ได้แก้ไขสัญญาโอนสิทธิ์ที่มูลนิธิหอศิลป์ฯทำกับ กทม.ในปี 2554 เนื่องจากในสัญญาระบุว่าค่าใช้จ่ายจากการบริหารหอศิลป์ เป็นความรับผิดชอบของผู้ถือสิทธิ กทม.ไม่สามารถให้งบอุดหนุนได้ สภากทม.จึงมอบหมายให้ กทม.มาแก้ไข เมื่อ ส.ค.2560 ผ่านมากว่า 1 ปียังไม่มีความคืบหน้า ทำให้ 2 ปีที่ผ่านมา กทม.ไม่อนุมัติงบเงินอุดหนุนแก่หอศิลป์ทำให้การดำเนินการของหอศิลป์ประสบปัญหาหนัก เพราะไม่มีงบในการใช้จ่ายในส่วนของการดำเนินการพื้นฐาน ด้านสาธารณูปโภค ค่าไฟ ค่าน้ำ ค่ารักษาความปลอดภัย จนทำให้วันนี้ หอศิลป์ถูกระงับการใช้น้ำประปาชั่วคราวเนื่องจากไม่มีงบในส่วนนี้
ทั้งนี้ หอศิลป์จึงมีแนวทางแก้ปัญหา โดยมาตรการรัดเข็มขัด คือการลดค่าใช้จ่ายจากเดิมปีที่ผ่านมาตั้งไว้ 81 ล้านบาท ให้เหลือเพียง 53 ล้านบาท เพื่อใช้ในการบริหารจัดการ โดยไม่รวมค่าน้ำ ค่าไฟ และการประหยัดน้ำ-ไฟฟ้า โดยการลดเวลาเปิดให้บริการ จากเดิม เปิดให้บริการ เวลา 10.00-21.00 น.เป็นเวลา11.00 -20.00 น. และปิดทุกวันจันทร์เหมือนเดิม และอาจกระทบกับการจัดนิทรรศการที่กำลังจะเกิดขึ้น โดยเฉพาะเทศกาลละครกรุงเทพฯ และเทศกาลบางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ ซึ่งหากหอศิลป์ ทำตาม 2 มาตรการนี้แล้วคาดว่า หอศิลป์ จะอยู่ได้นานขึ้น จนถึงกลางปีหน้า แต่หากปัญหาการพิจารณางบเงินอุดหนุนจาก กทม.ไม่ได้รับการแก้ไข หอศิลป์ฯ อาจจะต้องปิดตัวลง
ขณะเดียวกันเนื่องจากหอศิลป์ ยังมีงบที่เคยได้รับการอนุมัติในปีงบฯ2561 อยู่กับสำนักงานวัฒนธรรม กีฬาและการท่องเที่ยว กทม.เกือบ30ล้านบาท จึงทำหนังสือถึงผอ.สำนักงานฯ เพื่อขอให้กันงบเหล่านี้ไว้ใช้ปีหน้า แต่ส่งหนังสือไปแล้ว10 วัน กลับไม่ได้รับการตอบกลับใด ๆ จึงขอความร่วมมือประชาชนที่เข้ามาใช้บริการหอศิลป์ ร่วมบริจาคเงินช่วยเหลือเพื่อใช้ ในส่วนของค่าน้ำและค่าไฟฟ้า.-สำนักข่าวไทย