รัฐสภา 15 ก.ย. –สนช.พิจารณากระบวนการถอดถอนพล.อ.อ.สุกำพล กรรมการป.ป.ช.ย้ำแทรกแซงการแต่งตั้งปลัดกลาโหม ขณะที่เจ้าตัวยืนยันทำทุกอย่างถูกต้องตามข้อบังคับ นัดลงมติถอดถอนหรือไม่พรุ่งนี้
การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) วันนี้ (15ก.ย.) มี นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสนช.ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณาดำเนินกระบวนการถอดถอน พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมออกจากตำแหน่ง ตามที่คณะกรรมการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูล กรณีถูกกล่าวหาแทรกแซงการแต่งตั้งปลัดกระทรวงกลาโหม ซึ่งเป็นการรับฟังคำแถลงปิดสำนวนคดีของคู่ความทั้ง 2 ฝ่าย
น.ส.สุภา ปิยะจิตติ กรรมการ ป.ป.ช. กล่าวว่า การกระทำของพล.อ.อ.สุกำพลขัดต่อรัฐธรรมนูญ และไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมของข้าราชการการเมือง ก้าวก่ายแทรกแซงการแต่งตั้งนายทหารชั้นนายพล ซึ่งจะต้องเป็นไปตามโครงสร้างในการแต่งตั้งนายทหารชั้นนายพลที่แต่ละหน่วยจะต้องคัดสรรคนของตัวเองในระดับกรมขึ้นมา และต้องลงนามรับรองบุคคลที่ผ่านการคัดสรรของส่วนราชการระดับกรม แต่กลับมีการประชุมเพื่อเสนอชื่อแต่งตั้งพล.อ.ทนงศักดิ์ อภิรักษ์โยธิน ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบกเป็นปลัดกระทรวงกลาโหมในวันที่ 17 สิงหาคม 2555 ทั้งที่ยังไม่ได้เสนอชื่อตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนด จึงถือว่าการกระทำดังกล่าวไม่เป็นไปตามธรรมเนียมปฏิบัติ
“กรณีที่พล.อ.อ.สุกำพลอ้างว่าพล.อ.ทนงศักดิ์เป็นรุ่นน้องซึ่งสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่นนั้น เห็นว่าจะเป็นการทำลายความน่าเชื่อถือของพล.อ.อ.สุกำพลเอง ทั้งยังทำลายความเชื่อมั่นของประชาชน และอาจนำไปสู่การแตกความสามัคคีของข้าราชการทหาร เพราะมีการแทรกแซงการทำงานรั้วของชาติ ซึ่งถ้าแต่งตั้งเป็นไปตามระบบ ตามหน้าที่ นายทหารจะสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเต็มที่ ไม่ต้องวิ่งหาการเมือง ซึ่งกรณีนี้นับว่ามีความเสียหายยิ่งกว่ากรณีถอดถอนนายประชา ประสพดี เพราะไม่เป็นไปตามระบบของการแต่งตั้งนายทหาร ดังนั้น จึงมีหลักฐานเพียงพอที่จะเอาผิดพล.อ.อ.สุกำพลได้” น.ส.สุภา กล่าว
ด้านพล.อ.อ.สุกำพล ผู้ถูกกล่าวหา ยืนยันว่าปฏิบัติตามพ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการกระทรวงกลาโหมและข้อบังคับกระทรวงกลาโหม และตามธรรมเนียมการแต่งตั้งข้าราชการกระทรวงกลาโหมทุกขั้นตอน โดยจัดประชุม 2 ครั้งเพื่อพิจารณาแต่งตั้งปลัดกระทรวงกลาโหมตำแหน่งเดียวเพื่อให้ทันเวลา ซึ่งได้เสนอชื่อพล.อ.ทนงศักดิ์ อภิรักษ์โยธิน เป็นปลัดกระทรวงกลาโหม โดยมีพล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหมในขณะนั้นเพียงคนเดียวที่เสนอชื่อพล.อ.ชาตรี ทัตติ
พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวถึงกรณีไม่ให้พล.อ.พิณภาษณ์ สริวัฒน์ เจ้ากรมเสมียนตราเข้าร่วมประชุม เพราะเป็นเพียงผู้ช่วยเลขานุการ ไม่มีสิทธิออกเสียงในที่ประชุม และต้องการรักษาความลับการประชุมเอาไว้ ซึ่งการประชุมได้ยึดข้อบังคับว่าให้คณะกรรมการสามารถกำหนดนโยบายเพื่อให้เป็นไปตามข้อบังคับ และกำหนดให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมมีอำนาจเสนอชื่อบุคคลที่ขึ้นตรงกับกระทรวงกลาโหมได้ และสามารถเสนอชื่อใครก็ได้ ซึ่งผู้บัญชาการเหล่าทัพได้ให้ถ้อยคำต่อป.ป.ช.ว่าคณะกรรมการชุดดังกล่าวสามารถที่จะเสนอชื่อใครที่นอกเหนือจากที่มีการเสนอขึ้นมาก็ได้
“ผมขอยืนยันอีกครั้งว่าการประชุมในวันนั้นเป็นการประชุมที่ถูกต้องทุกประการ ผู้บัญชาการเหล่าทัพได้ให้ปากคำว่าการประชุมวันนั้นถูกต้องทุกประการ แต่ป.ป.ช.เพิกเฉย คำกล่าวหาของป.ป.ช.ที่กล่าวหาว่าผมแทรกแซงนั้น มีคนร่วมประชุม 6 คน ผมออกเสียงแค่เสียงเดียวเท่านั้น ไม่มีใครมีอำนาจสั่งการได้”พล.อ.อ.สุกำพล กล่าว
ส่วนเรื่องคลิปที่มีเนื้อหาว่าล้วงลูกการแต่งตั้งนั้น พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า พล.อ.เสถียรได้แอบบันทึกไว้และอาจจะเป็นการตัดต่อ ทั้งนี้ อยากให้ที่ประชุมสนช.พิจารณาการกระทำของตนมากกว่าคำพูด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเสร็จสิ้นการแถลงปิดคดี ประธานสนช.นัดลงมติว่าจะถอดถอนพล.อ.อ.สุกำพลหรือไม่ในวันพรุ่งนี้ (15ก.ย.).-สำนักข่าวไทย