กรุงเทพฯ 12 ก.ย.- ศาลจำคุก “ชินแสโชกุน” 871 กระทง 4,355 ปี ลวงสมัครสมาชิกอาหารเสริม หลอกพาไปญี่ปุ่น สุดท้ายลอยแพคาสุวรรณภูมิเมื่อต้นปี 60 พร้อมปรับบริษัทกว่า 435 ล้านบาท
ศาลอาญา อ่านคำพิพากษา คดีที่พนักงานอัยการคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร 2 เป็นโจทก์ฟ้อง 1 บริษัท เวลท์เอเวอร์ จำกัด และ 2น.ส.พสิษฐ์ อริญชย์ลาภิศ หรือซินแสโชกุน กรรมการบริษัทฯ, 3นางมณฑญาณ์ นิรันดร หรือ จันทร์ฉาย นาคฤทธิ์ มารดาซินแสโชกุน, 4 นายก้องศรัณย์ แสงประภา ลูกพี่ลูกน้องของซินแสโชกุน, 5 น.ส.ทัศย์ดาว สมัครกสิกรรณ์ หญิงคนสนิทของซินแสโชกุน, 6 นางประนอม พลานุสนธิ์เลขานุการของซินแสโชกุน, 7นางณิชมน แสงประภา ป้าของซินแสโชกุน และเป็นมารดาของนายก้องศรัณย์, 8 นางพารินธรญ์ หงส์หิรัญ ดัคกอร์ , 9 น.ส.สุดารัตน์ อเนกนวล และ10 นายโกวิท ช่วยสัตว์ เป็นจำเลย ที่ 1-10 ในฐานความผิดร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ตาม พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 และพ.ร.ก.การกู้ยืมเงิน ฯ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2534 และ พ.ศ.2545และข้อหาอื่น พร้อมทั้งขอชดใช้เงินให้กับผู้เสียหายรวม 871 คน พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี
กรณีระหว่าง วันที่ 25 ม.ค.-11 เม.ย.60 พวกจำเลย ชักชวนให้ประชาชนผู้เสียหายเข้าเป็นสมาชิกของบริษัทผลิตภัณฑ์อาหารเสริม บำรุงสมอง MASTERMIND อ้างว่าจะมีสิทธิได้เดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศ แต่กลับถูกลอยแพคาสนามบินสุวรรณภูมิ โดยจำเลยทั้ง 10 ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
โดยวันนี้ได้เบิกตัวจำเลยทั้งหมด มาจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และทัณฑสถานหญิงกลาง
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้ว พิพากษาให้จำคุก น.ส.พสิษฐ์ อริญชย์ลาภิศหรือ ซินแสโชกุน จำเลยที่ 2 รวม 871 กระทงๆละ 5 ปี เป็นเวลาทั้งสิ้น 4,355 ปี และปรับ 20,000 บาท ตาม พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 และและร่วมกันจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ควบคุมฉลากโดยแสดงฉลากไม่ถูกต้อง ซึ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ.2522 แต่เมื่อรวมโทษทุกกระทงตามกฎหมายแล้วให้จำคุกสูงสุด 20 ปี โดยให้ปรับบริษัท เวลท์เอเวอร์ จำเลยที่ 1 ด้วย เป็นเงิน 435,520,000 บาท และให้จำคุก น.ส.ทัศย์ดาว สมัครกสิกรรณ์ จำเลยที่ 5 , นางพารินธรญ์ หงส์หิรัญ ดัคกอร์ จำเลยที่ 8 รวม 871 กระทงๆละ 5 ปีเป็นเวลาทั้งสิ้น 4,355 ปี แต่เมื่อรวมโทษทุกกระทงตามกฎหมายแล้วให้จำคุกสูงสุด 20 ปี และศาลยังมีสั่ง ให้จำเลยที่ 1,2,5,8, ชดใช้เงินคืนกับผู้เสียหายรวม 871 คน พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีของเงินต้นสำหรับผู้เสียหายแต่ละราย นับแต่วันฟ้อง ( 6 ก.ค.60) เป็นต้นไป จนกว่าจะชำระเสร็จด้วย (มูลค่าประมาณ 51 ล้านบาทเศษ) และให้ยกฟ้องจำเลยที่เหลือ3,4,6,7,9,10 เนื่องจากไม่พบความผิดว่ามีส่วนร่วมในการกระทำความผิดจึงยกผลประโยชน์ให้ .-สำนักข่าวไทย