กรมบังคับคดี 8 ส.ค.-กรมบังคับคดี เปิดช่องทางไกล่เกลี่ยหนี้ชั้นบังคับคดี ช่วยเหลือลูกหนี้ในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม แจ้งลูกหนี้ที่มีปัญหา รีบติดต่อเพื่อเข้าสู่กระบวนการเจรจากับเจ้าหนี้ เบื้องต้นคาดว่ามีหลัก 10,000ราย
น.ส.รื่นวดี สุวรรณมงคล อธิบดีกรมบังคับคดี กล่าวว่า กรมบังคับคดี ได้จัดโครงการไกล่เกลี่ยชั้นบังคับคดีให้กับลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ในขณะนี้ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน และแบ่งเบาภาระให้กับลูกหนี้ ที่อาจประสบปัญหาขาดรายได้ หรือ มีความจำเป็นต้องใช้จ่ายเงินเพื่อยังชีพหรือซ่อมแซมที่อยู่อาศัย จนไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด
โดยลูกหนี้สามารถเข้ามาติดต่อเพื่อขอไกล่เกลี่ยหนี้ชั้นบังคับคดีได้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ตามช่องทางที่สะดวก เช่น ติดต่อได้ที่ศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท กรมบังคับคดี /สายด่วนกรมบังคับคดี หมายเลข1111 กด79 หรือ
ติดต่อด้วยตัวเองที่สำนักงานบังคับคดีทั่วประเทศ
ทั้งนี้ ต้องเป็นลูกหนี้ เดือดร้อนจริงและมั่นใจว่าไม่สามารถชำระหนี้ได้ และ อยู่ในจังหวัดที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยกระทรวงมหาดไทยได้ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติน้ำท่วมแล้วเท่านั้น ซึ่งในรอบนี้เบื้องต้น มี 2-3 จังหวัดแล้ว คือ จังหวัดสกลนคร นครพนม เพชรบุรี กาญจนบุรี ซึ่งคาดว่าจะมีลูกหนี้ที่เข้าข่ายต้องให้ความช่วยเหลือหลักหมื่นราย
สำหรับกระบวนการช่วยเหลือลูกหนี้ทางกรมบังคับคดีจะเป็นตัวกลางนัดเจรจาไกล่เกลี่ย ระหว่างลูกหนี้กับเจ้าหนี้หรือสถาบันการเงินเจ้าหนี้ เพื่อกาทางผ่อนผันการชำระหนี้ออกไปตามความเหมาะสม ซึ่งที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือจากเจ้าหนี้และสถาบันเจ้าการเงินเจ้าหนี้เป็นอย่างดี
อธิบดีกรมบังคับคดี กล่าวอีกว่า กรมได้ดำเนินการให้ความช่วยเหลือไกล่เกลีย หนี้ชั้น บังคับคดีให้กับผู้ประสบอุทกภัย มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปีที่แล้ว ซึ่งประสบผลสำเร็จอย่างดี โดยในปี 2560 ซึ่งมีพื้นที่ประสบภัยหนักในจังหวัดสกลนคร สงขลาสุราษฎร์ธานีและนครศรีธรรมราช สามารถเจรจาไกล่เกลียได้สำเร็จ 451 ราย ทุนทรัพย์ 190 ล้านบาทหรือสำเร็จร้อยละ 87.40 และต้นปี 2561 ซึ่งไกล่เกลียหนี้ ที่จังหวัดปัตตานีและสุราษฎร์ธานี สำเร็จ รวม 433 ราย ทุนทรัพย์ 87 ล้านบาทหรือสำเร็จร้อยละ 88.37 จึงได้ดำเนินการต่อเนื่องมาในรอบนี้
“จากสถานการณ์น้ำท่วมในหลายหลายครั้งที่ผ่านมาจะเห็นว่าประชาชนโดยเฉพาะลูกหนี้ที่อยู่ในชั้นบังคับคดีจะได้รับผลกระทบขาดรายได้และจำเป็นต้องนำเงินไปใช้ในการดำรงชีวิตรวมทั้งซ่อมแซมบ้าน ฟื้นฟูอาชีพ ทำให้ไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนดอาจมีระยะเวลา 1เดือน 2เดือนหรือมากกว่านั้น แตกต่างไปแต่ละราย กรมบังคับคดีจึงเข้าไปให้ความช่วยเหลือ เจรจากับเจ้าหนี้ให้และพบว่า ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีใน2 ครั้งที่ผ่านมา ครั้งนี้เมื่อเกิดภัยพิบัติน้ำท่วมขึ้นจึงดำเนินการสานต่อโครงการเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับลูกหนี้ ให้เขาลดความกังวลและสามารถดำเนินชีวิตต่อไปได้ โดยไม่ลำบากมากนัก” อธิบดีกรมบังคับคดี กล่าว.-สำนักข่าวไทย