อสมท 7 มิ.ย.61- อังกฤษ เป็นอีกหนึ่งทีมที่น่าจับตามองในฟุตบอลโลก 2018 โดยนัดแรกจะพบกับตูนิเซีย ทีมจากโซนแอฟริกา ในวันที่ 18 มิถุนายนนี้
นักเตะขุนพล “สิงโตคำราม” อังกฤษ อดีตแชมป์โลก 1 สมัย ในปี 1966 หรือเมื่อ 52 ปีที่แล้ว ซึ่งอังกฤษผ่านเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลก 2018 ด้วยการจบอันดับ 1 ของกลุ่มเอฟ ด้วยการโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมไม่แพ้ใคร ชนะ 8 เสมอ 2 ภายใต้การคุมทีมของ แกเร็ธ เซาธ์เกต กุนซือวัย 47 ปี โดยดาวเตะตัวความหวังของทัพ “สิงโตคำราม” ที่จะไปลุยศึกฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายนำทัพโดย แฮร์รี่ เคน หัวหอกกัปตันทีม พร้อมทั้ง เจสซี่ ลินการ์ด, ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, เดเล อัลลี่ และไคล์ วอล์คเกอร์ แม้ว่าอังกฤษมักจะถูกยกให้เป็นทีมวางต้นๆ แต่สุดท้ายมักจะทำผลงานได้อย่างน่าผิดหวัง โดยครั้งนี้อังกฤษอยู่กลุ่มจี ร่วมกับ เบลเยียม, ปานามา และตูนิเซีย
ด้าน “พญาอินทรีแห่งคาร์เธจ” ตูนิเซีย เป็นอีกหนึ่งทีมจากโซนแอฟริกา ซึ่งในรอบคัดเลือกอยู่กลุ่มเอ ร่วมกับ คองโก ลิเบีย กินี โดยพวกเขาสามารถคว้าแชมป์กลุ่มและได้สิทธิ์เข้าร่วมฟุตบอลโลกครั้งนี้ ด้วยผลงานแข่ง 6 นัด ชนะ 4 เสมอ 2 มี 14 คะแนน โดยไม่แพ้ทีมใด และเป็นครั้งที่ 5 ของพวกเขาที่สามารถเข้ามาเล่นรอบสุดท้ายได้ นักเตะชุดนี้นำทัพโดย วาห์บี คาซรี่, ซาเบร์ คาลิฟา และยังมีโยฮัน เบนาลูอาน แนวรับจากเลสเตอร์ ซิตี้ อีกด้วย ซึ่งมี นาบิล มาอาลูล เป็นกุนซือ
โดยนัดแรกตูนิเซีย จะพบกับ อังกฤษ วันที่ 18 มิถุนายน เวลา 01.00 น. และอีกคู่ในกลุ่มเดียวกัน เบลเยียม จะพบกับ ปานามา เวลา 22.00 น.-สำนักข่าวไทย