จ.นครปฐม 7พ.ค.-‘สุวพันธุ์’ เปิดประชุมพระสังฆาธิการทั่วประเทศ รับปากเร่งผลักดันร่าง พ.ร.บ.การศึกษาคณะสงฆ์ ต่อที่ประชุม ครม. ที่บุรีรัมย์ ยืนยันรัฐบาลพร้อมสนับสนุนงานคณะสงฆ์ แต่การบริหารงบฯต้องโปร่งใส่ ตรวจสอบได้
นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมพิธีเปิดประชุมพระสังฆาธิการทั่วประเทศ ประจำปี2561 ที่หอประชุมพุทธมณฑล จ.นครปฐม เพื่อแลกเปลี่ยนและรับฟังความคิดเห็นด้านการปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนาจากพระสังฆาธิการทั่วประเทศตามมติของมหาเถรสมาคม (มส.) ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี
พร้อมบรรยาย ในหัวข้อแนวทางการขับเคลื่อนการปฏิรูป ว่าหัวใจสำคัญของการปฏิรูป คือเพื่อต้องการรักษาและสร้างความศรัทธาให้ยั่งยืน เนื่องจากพระพุทธศาสนาเป็นที่ยึดเหนียวและที่พึ่งทางใจของประชาชน ยืนยันว่า รัฐบาลพร้อมสนับสนุนงานปฏิรูปศาสนาทั้ง6 ด้าน ทั้งด้านการปกครอง การศึกษา การเผยแผ่ สาธารณูปการ ศึกษาสงเคราะห์ และสาธารณสงเคราะห์ ให้เป็นไปในทิศทางที่ถูกต้อง ที่ผ่านมาถือว่ามีความคืบหน้าไปมาก โดยเฉพาะการประชุมวันนี้สมเด็จพระสังฆราช ประทานพระโอวาทให้พระสังฆาธิการช่วยดูแลปกครองพระ ดูแลวัดให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ขณะเดียวกัน ย้ำว่า การใช้งบประมาณรัฐไม่ว่าจะหน่วยงานใดเป็นเรื่องที่สำคัญ ต้องยึดตามกฏระเบียบงานปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนาก็เช่นเดียวกัน พศ.และรัฐบาล ในฐานะสนองงานคณะสงฆ์ ต้องถวายความรู้แก่พระสงฆ์ ในการบริหารจัดการ ต้องโปร่งใส และตรวจสอบได้
ทั้งนี้ ยืนยันรัฐบาลพร้อมทำงานกับคณะสงฆ์ การประชุมวันนี้จะทำให้การทำงานเป็นไปในทิศทางเดียวกัน พร้อมรับปากว่า จะเดินหน้าเร่งรัดผลักดันร่างพระราชบัญญัติการศึกษาพระปริยัติธรรม ต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีที่จ.บุรีรัมย์ ให้บรรลุเป้าหมาย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรับฟังความคิดเห็นจากภาคราชการ
ส่วนความคืบหน้าการตรวจสอบเงินทอนวัด อยู่ระหว่างการตรวจสอบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง ปปป., ป.ป.ช.กรมสอบสวนคดีพิเศษ
ส่วนที่มีรายชื่อพระผู้ใหญ่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกรณีเงินทอนวัด นั้น ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการ ยืนยันทุกอย่างต้องอยู่บนพื้นฐานข้อเท็จจริง
ส่วนกรณีที่องค์กรพุทธฯ ยื่นหนังสือขอให้ตรวจสอบการทำหน้าที่ของ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนากรณี แจ้งความร้องทุกข์พระผู้ใหญ่เกี่ยวข้องทุจริตเงินทอนวัด รวมถึงการใช้งบของราชการในการเดินทางไปสังเวชนียสถานอินเดีย-เนปาลของภรรยาผอ.พศ.นั้น นายสุวพันธุ์ กล่าวว่า หนังสือดังกล่าวยังไม่ถึงตน .-สำนักข่าวไทย