กทม. 6 พ.ค.-หลานทำร้ายญาติวัย 62 เสียชีวิตหลังมาขออาศัยบ้านย่านบางมด อ้างมีอาการป่วยทางจิต ฉุนชอบทำเสียงดัง
ส่วนผู้ก่อเหตุไม่ได้หลบหนียังอยู่ภายในบ้าน มีความสัมพันธ์เป็นหลานผู้ตาย เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวเอาไว้ เบื้องต้นให้การวกวนว่า ตนและบิดา ซึ่งมีศักดิ์เป็นน้องเขยผู้ตาย เพิ่งเข้ามาขออาศัยอยู่กับผู้ตายได้ประมาณ 7 วัน เนื่องจากบิดาตนป่วยเป็นอัมพาต ส่วนตนนั้นมีอาการป่วยทางจิต อยู่ระหว่างรักษามาประมาณ 5 ปี ก่อนเกิดเหตุตนเกิดความเครียด เพราะขาดยามาหลายวันแล้ว ประกอบกับผู้ตายชอบเปิดโทรทัศน์ เล่นโทรศัพท์เสียงดัง แถมยังไอเสียงดังตลอดเวลา จึงเข้าไปชกต่อยผู้ตาย และจับศีรษะโขกกับพื้นหลายครั้งจนเสียชีวิต
ขณะที่จากการสอบสวนของตำรวจทราบว่า ผู้ต้องหามาขอพักอาศัยอยู่ที่บ้านผู้เสียชีวิต โดยทุกวันที่มาอาศัยอยู่ด้วยนั้น ผู้ตายมักเปิดโทรทัศน์และเล่นโทรศัพท์เสียงดัง ผู้ต้องหาเกิดความคับแค้นใจที่บิดาซึ่งมีอาการป่วยเป็นโรคอัมพาตไม่ได้พักผ่อน ก่อนเกิดเหตุทั้ง 2 คนมีปากเสียงกัน เมื่อผู้ต้องหาเห็นผู้ตายเดินลงมาจากบันไดชั้นบนจึงเข้าไปทำร้ายผู้ตายจนเสียชีวิต
ด้านบุตรสาวของผู้เสียชีวิตให้การว่า เมื่อวันที่ 1 พ.ค. นายกิตติพงศ์ ซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานชายผู้ตาย พาบิดาที่ป่วยเป็นโรคอัมพาตมาขอพักอาศัยอยู่ด้วยเพื่อรักษาอาการ ก่อนเกิดเหตุเมื่อเวลาประมาณ 21.30 น. ตนเดินทางกลับมาบ้านพักหลังจากเลิกงานแต่พบว่าประตูเหล็กบานเลื่อนถูกล็อกจากด้านในจึงตะโกนเรียกนานกว่า 30 นาที ก่อนที่นายกิตติพงศ์ จะออกมาเปิดประตูให้พร้อมทั้งพูดว่า “ขอโทษ ไปดูร่างพ่อเถอะ นอนอยู่ในห้องน้ำ” จนกระทั่งพบสภาพร่างกายบิดาตนโดนทำร้ายร่างกาย จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่
เบื้องต้นนายกิตติพงศ์ถูกแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ส่วนที่อ้างว่ามีประวัติรักษาอาการทางจิตนั้น ตำรวจจะประสานญาติให้นำหลักฐานมายืนยันเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.-สำนักข่าวไทย


