กรุงเทพฯ 1 พ.ค. – ไทยเดินหน้าเจรจาขยายโควตาสินค้าผลิตภัณฑ์สุกรแปรรูปในเวทีเจเทปา ผลักดันญี่ปุ่นพิจารณาเปิดตลาดสินค้าเพิ่ม ด้าน สศก.เผยสินค้าเกษตรไทยไปญี่ปุ่นโตร้อยละ 4.72 ต่อปี
นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยว่า สศก.เข้าร่วมการประชุมคณะอนุกรรมการร่วมว่าด้วยการค้าสินค้าภายใต้ความตกลงระหว่างราชอาณาจักรไทยกับญี่ปุ่นสำหรับความเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ (เจเทปา) ครั้งที่ 5 และการประชุมคณะอนุกรรมการร่วมว่าด้วยกฎว่าด้วยถิ่นกำเนิดสินค้า ภายใต้เจเทปาครั้งที่ 4 เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2561 ซึ่งกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศเป็นหัวหน้าคณะเจรจาการค้าสินค้าและกรมศุลกากรเป็นหัวหน้าคณะเจรจากฎว่าด้วยถิ่นกำเนิดสินค้า
สำหรับการประชุมครั้งนี้ ไทยยังคงขอขยายโควตาสินค้าผลิตภัณฑ์สุกรแปรรูป ซึ่งไทยมีศักยภาพส่งออกไปญี่ปุ่นและผลิตภัณฑ์สุกรของไทยเป็นผลิตภัณฑ์ปลอดสารเร่งเนื้อแดง นอกจากนี้ ยังเสนอให้มีการปรับโอนพิกัดศุลกากร จากปี 2545 เป็นปี 2560 ทั้งตารางการลดภาษีและกฎเฉพาะรายสินค้าเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับภาคเอกชน และจากความตกลงเจเทปาที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2550 ปัจจุบันครบรอบ 10 ปี ที่จะต้องมีการเจรจาทบทวนความตกลงเจเทปาร่วมกัน ซึ่งไทยยังคงผลักดันให้ญี่ปุ่นพิจารณาการเปิดตลาดสินค้าเพิ่มในสินค้าที่ยังไม่เคยเปิดตลาด และหากการเจรจาเป็นไปตามเป้าหมายจะมีสินค้าเกษตรไทยได้รับประโยชน์จากการเปิดตลาดเพิ่มครั้งนี้ นอกจากนี้ ไทยยังเสนอให้ปรับปรุงข้อบทการค้าสินค้า เพื่อให้สอดคล้องตามองค์การศุลกากรโลกและสถานการณ์ปัจจุบัน
สำหรับการค้าสินค้าเกษตรระหว่างไทยกับญี่ปุ่น ถือว่าญี่ปุ่นเป็นประเทศคู่ค้าสินค้าเกษตรอันดับ 3 ของไทย โดยระหว่างปี 2558 – 2560 มีสัดส่วนการค้าสินค้าเกษตรร้อยละ 9.59 ของมูลค่าการค้าสินค้าเกษตรของไทยกับโลก ซึ่งปี 2558 ไทยและญี่ปุ่นมีมูลค่าการค้าสินค้าเกษตร 158,000 ล้านบาท และมีมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในปี 2559 และ 2560 เป็นมูลค่า 164,000 ล้านบาท และ 173,000 ล้านบาท ตามลำดับ ซึ่งมีการเติบโตเพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 4.72 ต่อปี
อย่างไรก็ตาม ไทยเป็นฝ่ายได้เปรียบดุลการค้าสินค้าเกษตรกับญี่ปุ่นตลอด โดยปี 2558 – 2560 ไทยส่งออกไปญี่ปุ่นเป็นมูลค่าเฉลี่ย 155,000 ล้านบาท และนำเข้าจากญี่ปุ่นเฉลี่ย 0.1 แสนล้านบาท ซึ่งไทยได้เปรียบดุลการค้าสินค้าเกษตรเฉลี่ย 145,000 ล้านบาท สำหรับสินค้าส่งออกสำคัญของไทย ได้แก่ เนื้อไก่ปรุงแต่ง ชิ้นเนื้อและเครื่องในไก่แช่แข็ง ยางแผ่นรมควัน และอาหารสุนัขหรือแมว ส่วนสินค้านำเข้า ได้แก่ เนื้อปลาแช่เย็นจนแข็งจำพวกปลาสคิปแจ็กหรือปลาโอท้องแถบ ปลาแอลบาคอร์หรือปลาทูนาครีบยาว ปลาแมคเคอเรล และปลาซาร์ดีน ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่าหากไทยสามารถผลักดันให้การเจรจาเป็นไปตามเป้าหมายได้จะเป็นการขยายโอกาสในการส่งออกสินค้าเกษตรของไทยอย่างต่อเนื่อง.-สำนักข่าวไทย