ชัวร์ก่อนแชร์ : 10 พฤติกรรมทำร้ายไต จริงหรือ ?

กรุงเทพฯ 21 เม.ย.-บนสังคมออนไลน์แชร์เตือน 10 พฤติกรรมที่อาจทำร้ายไต นอกจากกินเค็มแล้ว การกินหวานมากเกินไป หรือกินยาแก้ปวดบ่อยๆ ก็เสี่ยงเป็นโรคไตได้ เรื่องนี้จริงหรือไม่ ติดตามจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์.-สำนักข่าวไทย

บทสรุป : มีทั้งจริง-ไม่จริง ควรแชร์ด้วยความระมัดระวัง

ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ สำนักข่าวไทย อสมท สอบถาม อ.พญ.ปิยวรรณ กิตติสกุลนาม อายุรแพทย์โรคไต ประจำภาควิชาอายุรศาสตร์ รพ.จุฬาฯ ชี้แจงว่าการซื้อยาแก้ปวดในกลุ่ม NSAIDs กินเอง+การกินเค็ม หวาน หรือมันจัดมากเกินไป มีความเสี่ยงทำให้เป็นโรคไตได้ ส่วนสิ่งที่ทำร้ายไตตามที่แชร์กันนั้น

ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป – ตับถูกทำร้ายมากกว่าไต เพราะการดื่มแอลกอฮอล์มากทำให้ปัสสาวะบ่อย

อั้นปัสสาวะบ่อย – การกลั้นปัสสาวะนานๆ ไม่ดีต่อไต

ดื่มน้ำไม่เพียงพอ – ดื่มน้ำน้อยเสี่ยงต่อผู้ป่วยโรคนิ่ว หากคนเป็นโรคไตจะดื่มน้ำมากควรปรึกษาแพทย์ เพราะอาจทำให้เกลือแร่บางตัวในเลือดผิดปกติ

กินหวานจัด – จริง และเสี่ยงเป็นเบาหวานด้วย เนื่องจากน้ำตาลสูงทำให้เส้นเลือดที่ไตผิดปกติ+ไตทำงานลดลง

กินเค็มจัด – จริง บริโภคเกลือมากทำให้เป็นความดันโลหิตสูง+โรคไต

นอนน้อย – อาจเป็นได้สำหรับคนไข้ที่มีโรคประจำตัว อาทิ ความดันโลหิตสูง

ไม่ชอบทานผัก ผลไม้ – มีผลต่อการทำงานของลำไส้เรื่องระบบขับถ่าย สำหรับผู้เป็นโรคไตควรเสริมวิตามินที่ละลายในไขมัน เช่น วิตามินเอ

ดื่มกาแฟมาก – ไม่มีผลกับไต หากดื่มกาแฟแล้วความดันไม่สูงขึ้น 

กินยาแก้ปวดมากเกินไป – จริง โดยเฉพาะยาแก้ปวดในกลุ่ม NSAIDs มีผลต่อไตโดยตรง ทำให้เส้นเลือดที่ไตหดตัว+เลือดไปเลี้ยงไตน้อยลง ส่วนยาพาราเซตามอลสามารถทานได้ แต่หากกินนานเกินไปก็จะมีผลกระทบต่อไตเช่นกัน

กินโปรตีนจากเนื้อสัตว์มากเกินไป – จริงเฉพาะคนที่เป็นโรคไตอยู่แล้ว เพราะคนเป็นโรคไตเรื้อรังต้องจำกัดโปรตีนในอาหาร

วิธีการ • Add LINE ของสำนักข่าวไทย เข้าไปที่เพิ่มเพื่อน แล้วพิมพ์ @TNAMCOT ถ้าได้รับแชร์อะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาให้เราตรวจใน “ชัวร์ก่อนแชร์” พบกับสกู๊ปข่าวนี้ได้ในข่าวค่ำสำนักข่าวไทยทุกวัน

• Facebook
• Twitter
• Line

TNA MCOT