กาฬสินธุ์ 21มี.ค.-น้องมิวสิคโผเข้ากอดแม่ หลังจากถูกปล่อยตัวจากเรือนจำจังหวัดยะลา เนื่องจากเจ้าทุกข์ไม่ติดใจเอาความ ขณะที่ผู้ว่าฯกาฬสินธุ์ออกค่าใช้จ่ายในการเดินทางกลับบ้านทั้งหมด พร้อมช่วยเหลือเต็มที่ตามโครงการกาฬสินธุ์แฮปปี้เนส โมเดล “กาฬสินธุ์ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง”
จากกรณีนางประไพนี อาทิกร อายุ 57 ปี ชาว อ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์ ทำหนังสือร้องทุกข์ต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผ่านศูนย์ดำรงธรรม อ.เขาวง ในโอกาสเดินทางตรวจราชการที่ อ.เขาวง เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2560 หลังน.ส.วารีรัตน์ สำเร็จงาน อายุ 37 ปี ลูกสาวถูกตำรวจยะลา นำหมายศาลมาจับกุมและควบคุมตัวไปและถูกคุมขังในเรือนจำ จ.ยะลา ซึ่งน้องมิวสิคลูกชาย เขียนจดหมายระบายความในใจถึงแม่ สร้างความสะเทือนใจให้กับเพื่อนบ้านที่พบเห็น กระทั่งนายไกสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ พร้อมเจ้าหน้าที่เรือนจำ จ.กาฬสินธุ์ และเจ้าหน้าที่ยุติธรรม จ.กาฬสินธุ์ ประสานงานกับเรือนจำจ.ยะลาเปิดวีดีโอคอนเฟอเซนซ์ให้น้องมิวสิคได้พบแม่ พร้อมเดินหน้าช่วยเหลือเต็มที่ ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น
ล่าสุดเมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 21 มีนาคม 2561 นายไกสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ มอบหมายให้นายเทพรัตน์ ตันตยานนท์ นายอำเภอเขาวง จัดรถตู้พาน้องมิวสิค และญาติไปรับน.ส.วารีรัตน์ที่สนามบิน จ.อุดรธานี หลังจากถูกปล่อยตัวออกจากเรือนจำ จ.ยะลา เมื่อช่วงเย็นวันที่ 20 มีนาคมที่ผ่านมาจากการประสานงานของปลัดกระทรวงยุติธรรม และเจ้าทุกข์ไม่ติดใจเอาความ ทั้งทางอาญา และทางแพ่ง
น.ส.วารีรัตน์ ที่เดินทางมาถึงสนามบินอุดรธานี ซึ่งทันทีที่พบกันลูก น้องมิวสิคได้วิ่งโผเข้ากอดแม่ด้วยความดีใจและร้องไห้ด้วยความตื้นตันใจ ท่ามกลางความดีใจของเจ้าหน้าที่และประชาชนที่อยู่ในสนามบิน ก่อนที่จะจูงมือพากันกลับบ้านที่ อ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งจะมีพิธีบายศรีสู่ขวัญตามประเพณีของชาวผู้ไทย
น.ส.วารีรัตน์ กล่าวว่า วันนี้ได้ใจเป็นที่สุดที่ได้เจอหน้าลูกชายและได้เจอแม่ ซึ่งตนเองยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในคดีฉ้อโกงและยืนยันถึงความบริสุทธิ์ของตนเอง อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ตนจะทำหน้าที่แม่และหน้าที่ลูกให้ดีที่สุด
นายไกสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า สำหรับการให้ความช่วยเหลือนั้นครอบครัวนี้ก็อยู่ในโครงการกาฬสินธุ์แฮปปี้เนส โมเดล “กาฬสินธุ์ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง”ซึ่งเป็นนโยบายแก้ไขปัญหาความยากจน ของพล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีอยู่แล้ว และตนก็ได้กำชับให้ทางอำเภอเขาวงดูแลครอบนี้อย่างใกล้ชิดเป็นพิเศษ ทั้งเรื่องที่อยู่อาศัย การจัดหาปัจจัยเพื่อสร้างอาชีพ การประกอบอาชีพ เช่นพันธุ์เป็ด พันธุ์ไก่ และกระบือ เพื่อนำไปเลี้ยงสร้างรายได้ รวมทั้งการดูแลเรื่องทุนการศึกษาของน้องมิวสิค ได้ให้ทางอำเภอเขาวงและกาชาดจังหวัดดูแล เพราะเท่าที่พูดคุยน้องมิวสิคเป็นเด็กที่เรียนดี และอยากเรียนสูงๆโตขึ้นในอนาคตอยากเป็นวิศวกร ซึ่งทุกคนต่างดีใจกับ น.ส.วารีรัตน์ ที่ได้รับการปล่อยตัวออกมา และดีใจกับน้องมิวสิคที่ได้พบหน้าแม่ ซึ่งต้องขอขอบคุณปลัดกระทรวงยุติธรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแทนครอบครัวน้องมิวสิคที่ช่วยกันประสานงานจนได้รับการปล่อยตัวและสองแม่ลูกได้เจอหน้ากัน โดยทางจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะคอยช่วยเหลืออย่างเต็มที่.-สำนักข่าวไทย