นางเลิ้ง 21 มี.ค. – ธ.ก.ส.เริ่มพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้มีรายได้น้อย 600,000 ราย จากที่ลงทะเบียน 3.7 ล้านคน
นายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยความคืบหน้ามาตรการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรคนจนระยะ 2 ว่า ปัจจุบันมีผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่เป็นลูกค้าของ ธ.ก.ส.แจ้งความต้องการเข้าพัฒนาคุณภาพชีวิต 3.7 ล้านคน จากที่ลงทะเบียนทั้งหมด 4.5 ล้านคน ที่เหลืออีกกว่า 700,000 – 800,000 คน ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เคาะประตูถึงหน้าบ้านในกลุ่มที่อายุไม่เกิน 60 ปี และมีรายได้ต่ำกว่าปีละ 30,000 บาท เพื่อติดตามและชักชวนให้เข้าร่วมโครงการ
ส่วนลูกค้าที่เข้าร่วมบัตรคนจนระยะ 2 ขณะนี้ ธ.ก.ส.เริ่มพัฒนาคุณภาพชีวิตไปแล้ว 600,000 ราย ในจำนวนนี้เป็นการเข้าไปช่วยเหลือเกษตรกรให้มีประสิทธิภาพในการทำเกษตรดีขึ้น เพื่อลดต้นทุน เพิ่มผลผลิตให้มีรายได้สูงขึ้น 280,000 ราย ที่เหลืออีกกว่า 330,000 ราย เป็นเกษตรกรผู้มีรายได้น้อยที่ต้องการหาอาชีพใหม่ ซึ่ง ธ.ก.ส.กำลังวิเคราะห์เพื่อแนะนำให้เข้าสู่กระบวนการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่เหมาะสม เช่น การหาอาชีพเสริม การปล่อยกู้
ขณะเดียวกัน ธ.ก.ส.ยังทยอยปล่อยสินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายฉุกเฉินระยะ 2 เพื่อช่วยแก้ปัญหาหนี้นอกระบบและนำไปใช้จ่ายในยามจำเป็นให้เกษตรกรและผู้มีรายได้น้อยกว่า 1,000 ล้านบาท จากวงเงินที่ได้รับอนุมัติตามมติ ครม.ทั้งหมด 10,000 ล้านบาท โดยสินเชื่อครั้งนี้มีเงื่อนไขปล่อยกู้รายละไม่เกิน 50,000 บาท คิดดอกเบี้ยร้อยละ 0.85 ต่อเดือน ผ่อนนานสุดถึง 5 ปี
สำหรับแนวโน้มผลประกอบการ ธ.ก.ส.ปี 2560 (1 เม.ย. 60 – 31 มี.ค.61) คาดว่าจะมีกำไรใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา 9,000 ล้านบาท โดยสินเชื่อทำได้ตามเป้าหมายปล่อยกู้ได้ 600,000 ล้านบาท สินเชื่อคงค้าง 1.34 ล้านล้านบาท เช่นเดียวกับเงินฝากทำได้ 78,000 ล้านบาท มีเงินฝากรวม 1.44 ล้านล้านบาท อย่างไรก็ตามยอดหนี้เสียอาจจะสูงกว่าเป้าหมายร้อยละ 5 เล็กน้อย เนื่องจากมีหนี้เสียของชาวสวนยางค่อนข้างมาก หลังจากราคายางช่วงที่ผ่านมาไม่ดี แต่ราคาข้าวดีทำให้ชาวนามีหนี้เสียน้อยกว่าเป้าหมาย. – สำนักข่าวไทย
