กรุงเทพฯ 21 มี.ค.- “เปรมชัย”พร้อมพวกเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมคดีเสือดำที่ปทส. หลังอัยการสั่งสอบเพิ่มในประเด็นผลกระทบต่อระบบนิเวศเพื่อเรียกค่าเสียหายทางคดีแพ่ง
ช่วงเช้าท่ีผ่านมา นายเปรมชัย กรรณสูต พร้อมพวกรวม 4 คน ผู้ต้องหาคดีร่วมกันล่าสัตว์ป่าในทุ่งใหญ่นเรศวร รวม 9 ข้อหา เดินทางด้วยรถส่วนตัวเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ ปทส. โดยไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆ ต่อสื่อมวลชน
สำหรับการให้ปากคำเพิ่มเติมหลังสำนวนไม่สมบูรณ์อัยการมีความเห็นสั่งให้พนักงานสอบสวนสอบเพิ่ม เพราะยังมีข้อสงสัยอีก 3-4 ประเด็น ซึ่งมีความสำคัญทางคดีเพื่อให้สิ้นสงสัย เนื่องจากผู้ต้องหาให้การภาคเสธ เช่นประเด็นพฤติการณ์และรายงานการตรวจสอบบางฉบับ ซึ่งพนักงานสอบสวนยังไม่ได้ส่งมาในสำนวน พร้อมกำชับให้ส่งผลการสอบสวนเพิ่มเติมกลับมาให้อัยการภายในวันที่ 26 มีนาคมนี้ ซึ่งจะเป็นช่วงครบกำหนดฝากขังผู้ต้องหาผัดที่ 4 ต่อไป (วันที่ 25 มีนาคม)
โดยพลตำรวจเอกศรีวราห์ รังสิพรามณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้าร่วมการสอบปากคำนายเปรมชัยด้วย พร้อมระบุ ในวันนี้จะสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ที่เข้าไปในป่าตามที่อัยการสั่งให้สอบเพิ่มเติม ซึ่งจะเป็นประเด็นในเรื่องผลกระทบต่อระบบนิเวศสิ่งแวดล้อม หลังจากนั้นจะทำการประเมินมูลค่าความเสียหายนำไปสู่การฟ้องร้องค่าเสียหายทางคดีแพ่ง คาดว่าวันนี้จะสอบสวนให้เสร็จสิ้นและส่งให้อัยการทันทีภายใน 2 วันนี้โดยไม่ต้องรอให้ถึงกำหนดวันที่ 25 มีนาคม พร้อมชี้แจงพนักงานสอบสวนไม่ได้ทำสำนวนบกพร่อง เพราะเคยระบุไว้แล้วสำนวนมีความพร้อม 99 % การที่อัยการสั่งให้สอบเพิ่มถือเป็นนิมิตหมายที่ดีที่อัยการจะสั่งฟ้อง
ส่วนข้อหาร่วมกันล่าสัตว์ป่าอัยการไม่ได้สั่งให้สอบเพิ่มแต่ยังต้องรอผลตรวจของนิติวิทยาศาสตร์เพิ่ม ส่วนอัยการจะแจ้งข้อหาใดเพิ่มหรือไม่ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของอัยการซึ่งพนักงานสอบสวนได้ส่งไปทั้งหมดแล้ว และขณะนี้เปรมชัยยังปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา สำหรับคดี พรบ. อาวุธปืน , ครอบครองซากสัตว์งาช้างและร่วมกันติดสินบนคาดว่าจะสรุปสำนวนส่งให้อัยการคาดจะส่งให้อัยการได้ภายใน 30 มีนาคมนี้
ด้านนายวิทูลย์ พรายแย้ม ทนายความนายเปรมชัย เปิดเผย ภายหลังเข้าพบพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรทองผาภูมิประมาณ 1 ชั่วโมงว่า วันนี้พนักงานสอบสวนได้ให้ผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ลงชื่อรับทราบพฤติการณ์ในการสร้างความเสียหายต่อระบบนิเวศ ตามข้อหาเดิม กรณีเข้าไปล่าสัตว์ป่า ทั้งเสือดำ และสัตว์ชนิดอื่นๆ โดยนายเปรมชัย ได้รับทราบแล้ว และพนักงานสอบสวนจะนำไปประกอบสำนวนในการเรียกร้องค่าเสียหายตามพระราชบัญญัติคุ้มครองสัตว์ป่าฯ .-สำนักข่าวไทย .-สำนักข่าวไทย