ศาลายา 9 ธ.ค.- นายกรัฐมนตรี เปิดงานวันต่อต้านคอร์รัปชั่นสากล ระบุเข้ามาปฏิรูป ไม่ได้มาคอร์รัปชั่น ชี้หากโครงการของรัฐมีทุจริต นายกฯ ต้องรับผิดชอบ ตรวจสอบ เอาคนผิดเข้าคุก ทุกโครงการต้องไม่มีทุจริต วอนอย่าหลงเชื่อคนแอบอ้างชื่อ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดงานเนื่องในวันต่อต้านคอร์รัปชั่นสากล (ประเทศไทย) ที่มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา ซึ่งจัดขึ้นโดยรัฐบาล ร่วมกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ภาคีเครือข่ายภาครัฐ เอกชน และประชาชน ภายใต้แนวคิด “สุจริตตามรอยพ่อ ขอทำดีเพื่อแผ่นดิน” มีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นจิตสำนึกให้สังคมและทุกภาคส่วนไม่ยอมรับและไม่ทนต่อการทุจริต รวมทั้งตระหนักถึงผลเสียหายร้ายแรงที่เกิดขึ้นจากการทุจริต และมองว่าเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้
ภายในงานมีวงดุริยางค์ประสานเสียง มหาวิทยาลัยมหิดล ขับร้องเพลงพระราชนิพนธ์ และจัดนิทรรศการเกี่ยวกับการต่อต้านการทุจริต และการนำเสนอยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ระยะที่ 3 พ.ศ. 2560-2564 นายกรัฐมนตรี นำน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ด้วยการยืนสงบนิ่ง
นายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดงานว่า ยินดีที่เปิดงานต่อต้านคอร์รัปชั่น เป็นวันสำคัญของโลกและคนไทยด้วย ต้องการประกาศเจตนารมณ์ร่วมกัน แต่จะต่อต้านอย่างไร เพราะเป็นสิ่งที่มองไม่เห็น และปัญหานี้มีมาอย่างยาวนานในทุกประเทศ การคอร์รัปชั่นถือเป็นศัตรูร้ายของการพัฒนาประเทศ ทั้งเรื่องงบประมาณ และการบริหารประเทศด้วยผลประโยชน์ทับซ้อน ซึ่งกระทบทั้งเศรษฐกิจ สังคม การเมืองทั้งหมด ไม่เฉพาะรายได้เท่านั้น การคอร์รัปชั่นทำให้โครงการไม่ต่อเนื่อง และกระทบต่อประชาชนในที่สุด ซึ่งทุกคนทราบดีว่าทำให้เสียหาย แต่ยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้
“ขอให้ทุกคนอย่าคิดเดาไปล่วงหน้าว่า การทำโครงการของรัฐบาลจะต้องทุจริต แต่ขอให้คิดว่า เมื่อเกิดการทุจริตต้องเอาเข้าสู่กระบวนการ บางนโยบายแม้จะทำคล้ายกันกับในอดีต อย่างการแจกเงินให้คนจนที่มาลงทะเบียน ซึ่งรัฐบาลนี้ไม่ได้คิดและทำเหมือนเดิม แต่คิดทั้งระบบ แม้ชื่อโครงการคล้ายคลึงกัน แต่รัฐบาลเอาปัญหาออกมาแก้ทั้งหมด จึงอยากชี้แจงเหตุที่ต้องแจกเงินให้ เพราะต้องการให้คนที่มีรายได้น้อยนำเงินไปลงทุนต่อยอด พร้อมกับน้อมนำปรัชญาของพระองค์เรื่องความพอเพียงมาใช้ ก็จะทำให้เราอยู่ได้ ลดการทุจริต” นายกรัฐมนตรี กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า รัฐบาลเข้ามาเพื่อเดินหน้าปฏิรูปประเทศ ไม่ได้ทำเพื่อมาคอร์รัปชั่นเสียเอง หากมีการคอร์รัปชั่นในเรื่องใด ก็ขอให้แจ้งมาที่ตน จะตรวจสอบดำเนินการนำคนผิดเข้าคุกให้ได้ และอย่าหลงเชื่อการแอบอ้างชื่อตน หรือรองนายกรัฐมนตรีคนใดก็ตาม ปัญหาการทุจริตมักเกิดจากการสมยอมทั้ง 2 ฝ่าย ดังนั้น ข้าราชการและประชาชนจะต้องมีคุณธรรมและธรรมาภิบาล
“ไม่ว่าจะเรื่องอะไรมีการทุจริต คนที่ต้องรับผิดชอบคือรัฐบาล นายกรัฐมนตรีจะอ้างว่าทำหน้าที่บริหารเท่านั้น งานในการปฎิบัติเป็นหน้าที่ของข้าราชการ ไม่เกี่ยวข้องด้วยไม่ได้ เพราะหากเป็นเช่นนั้น เมื่อมีปัญหาข้าราชการจะต้องได้รับความเดือดร้อนติดคุก ระบบที่ว่า หากข้าราชการไม่ทำตามจะปลดออก ต้องหมดไป ถือเป็นการทุจริตทั้งสิ้น ทุกอย่างที่เกิดในรัฐบาลนี้จะต้องไม่เกิดการทุจริต” นายกรัฐมนตรี กล่าว
จากนั้นนายกรัฐมนตรี นำกล่าวปฏิญาณตนเพื่อต่อต้านการคอร์รัปชั่น และระบุว่า เมื่อกล่าวคำปฏิญาณแล้ว ขอให้ทำตามสิ่งที่ได้กล่าว เพื่อให้ประเทศไทยหลุดพ้นจากปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่น
สำหรับบรรยากาศก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะขึ้นกล่าวบนเวที ได้สั่งให้ทุกคนในห้องประชุมลุกขึ้นยืนและชูมือขึ้น เพราะเห็นว่าผู้เข้าร่วมงานมีอาการง่วง หลังจากฟังการบรรยายมากว่า 1 ชั่วโมง และก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะลงจากเวที ได้เชิญชวนให้ผู้เข้าร่วมงานยืนขึ้นและออกกำลังกายแก้อาการง่วงอีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย