กรุงเทพฯ 6 มี.ค. – ปตท.แต่งตั้ง “บิ๊กแก๊ส” เป็นตัวแทนจำหน่ายก๊าซธรรมชาติเหลว 10 ปี เจาะตลาดกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมนอกแนวท่อก๊าซธรรมชาติ
บมจ.ปตท.ลงนามสัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) กับบริษัท บิ๊กแก๊ส เทคโนโลยี จำกัด เพื่อนำไปจำหน่ายให้แก่โรงงานอุตสาหกรรมใช้เป็นเชื้อเพลิงในขบวนการผลิตทั่วประเทศ โดยเฉพาะโรงงานอุตสาหกรรมที่อยู่นอกแนวท่อก๊าซธรรมชาติที่มีความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติ
นายวุฒิกร สติฐิต ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่จัดหาและตลาดก๊าซธรรมชาติ บมจ.ปตท กล่าวว่า ปตท.พร้อมเปิดกว้างผู้สนใจเป็นตัวแทนจำหน่าย ซึ่งเป็นการดำเนินการตามแนวนโยบายของคณะกรรมการปฏิรูปพลังงานที่ต้องการเพิ่มทางเลือกการใช้พลังงานงานในกระบวนการผลิตแก่ภาคอุตสาหกรรมราคาที่แข่งขันได้ ปัจจุบันการใช้ก๊าซธรรมชาติภาพรวมทั้งประเทศส่วนใหญ่ร้อยละ 60-70 ใช้เป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้า แอลเอ็นจีเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ส่วนการผลิตไฟฟ้าความต้องการใช้แอลเอ็นจีจะเปลี่ยนแปลงอย่างไรจะต้องรอแผนพีดีพีที่จะออกมาก่อน ส่วนความต้องการใช้ในภาคอุตสาหกรรม ปตท.จะติดตามและพร้อมที่จะนำเข้าเพิ่มให้เพียงพอกับความต้องการ จากแหล่งประเทศกาตาร์ เชลล์ บีพี ปิโตรนาส เป็นต้น สำหรับการนำเข้าแอลเอ็นจีปีนี้จะมีปริมาณ 5 ล้านตัน ปีที่ผ่านมานำเข้าเกือบ 4 ล้านตัน คาดว่าปี 2562 ยอดนำเข้ามีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีก
นายภานุ ศีติสาร ประธานกรรมการ บริษัท เพาเวอร์ โซลูชั่น เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) และบริษัท บิ๊กแก๊ส เทคโนโลยี จำกัด กล่าวว่า ระยะเวลาสัญญาการซื้อขายแอลเอ็นจีระหว่างบริษัท บิ๊กแก๊ส และ ปตท. คือ 10 ปี ต่อสัญญาอีกครั้งละ 10 ปี บริษัทจะเริ่มขายแอลเอ็นจีให้กับโรงงานอุตสาหกรรมนอกแนวท่อก๊าซธรรมชาติช่วงเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคมปีนี้ ตั้งเป้ายอดขายปีนี้ 10 ล้านกิโลกรัม มูลค่าประมาณ 200 ล้านบาท ปีหน้าตั้งเป้ายอดขายเติบโตร้อยละ 300 ตลาดหลัก คือ กรมโรงงานอุตสาหกรรมที่ใช้ความร้อนในกระบวนการผลิตเป็นหลัก ซึ่งเดิมใช้เชื้อเพลิงชนิดอื่น เช่น แอลพีจีหรือน้ำมันเตา เป็นต้น การเปลี่ยนมาใช้ แอลเอ็นจี ลูกค้าจะประหยัดต้นทุนประมาณร้อยละ 3-5 เมื่อเทียบกับเชื้อเพลิงชนิดเดิมที่ใช้ในปัจจุบัน ขณะเดียวกันเป็นเชื้อเพลิงที่เผาไหม้สมบูรณ์ช่วยลดภาวะโลกร้อน. – สำนักข่าวไทย.