สงขลา 5 ต.ค.-ศอตช.เข้าตรวจสอบโกดังข้าว ส.ชนิกานต์ ในสงขลา ซึ่งยังมีข้าวในโครงการรับจำนำข้าวอยู่ 2 โกดัง พบขาดสภาพความเป็นข้าว มีทั้งขยะ แกลบ และดินปะปนอยู่เป็นจำนวนมาก พร้อมตั้งข้อสังเกตเหตุใดยังเก็บรักษาเอาไว้ ทำให้สูญเสียงบประมาณในการเช่าโกดังมานาน 3 ปี
เจ้าหน้าที่ศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ(ศอตช.)เข้าตรวจสอบโกดังข้าว ส.ชนิกานต์ ต.พะวง อ.เมือง จ.สงขลา หลังได้รับแจ้งเบาะแสว่ามีการเก็บรักษาข้าวปะปนอยู่กับขยะจำนวนมาก จากการตรวจสอบพบว่า โกดังข้าว ของ ส.ชนิกานต์มีอยู่ 4 หลัง ในจำนวนนี้มีข้าวเหลืออยู่ในโกดัง 2 หลัง คือ หลังที่ 2 และหลังที่ 4 ซึ่งในโกดังหลังที่ 2 พบว่ามีข้าวเก็บรักษาอยู่จำนวน 23,000 กระสอบ ซึ่งอยู่ในสภาพที่ดี
ส่วนในหลังที่ 4 พบว่ามีข้าวขาว 10 เปอร์เซ็นต์ อยู่ประมาณ 1,000 กระสอบ และมีกระสอบบรรจุข้าวที่ดูด้วยตาแทบไม่มีสภาพความเป็นข้าว จากการสุ่มตรวจเปิดกระสอบข้าวที่มีอยู่ประมาณ 50 กระสอบ พบว่ามีข้าวสารอยู่บ้าง ส่วนใหญ่มีแกลบ ดิน พลาสติก และข้าวที่จับตัวกับดินจนกลายเป็นก้อนเนื่องจากความชื้น
พ.ต.ท.สามารถ ไชยณรงค์ ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ(ปปท.)เขตพื้นที่ 9 ได้ซักถามตัวแทนองค์การคลังสินค้า(อคส.) ได้รับคำชี้แจงว่า เหตุที่ข้าวมีลักษณะดังกล่าว เนื่องจากเป็นการโกยข้าวที่หล่นลงบนพื้น อันเนื่องมาจากกระสอบฉีกขาด นกเจาะ และพื้นโกดังชื้น จึงมีสิ่งเจือปนอยู่มาก และเหตุที่ต้องเก็บเอาไว้เพราะเกรงน้ำหนักข้าวจะหายไป ไม่เท่ากับจำนวนสต๊อกที่บันทึกเอาไว้จริง
อย่างไรก็ตาม ทาง ปปท.เขตพื้นที่ 9 ตั้งข้อสังเกตว่า การเก็บรักษาข้าวที่ไม่มีสภาพความเป็นข้าวเอาไว้ ทำให้ต้องเป็นภาระให้ อคส.ยังคงต้องจ่ายค่าเช่าอย่างต่อเนื่องเฉพาะส่วนนี้มานาน 3 ปี ในราคากระสอบละ 2 บาทเช่นเดียวกับข้าวคุณภาพปกติ โดยข้าวที่ไม่มีสภาพความเป็นข้าวจำนวนดังกล่าวนั้น ถูกย้ายมาจากโกดังที่ 1 และ 3 ของ ส.ชนิกานต์ มาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ปี 2556 โดยนายเกษม กังวาฬเดช เจ้าของโกดัง ส.ชนิกานต์ ร้องขอ เนื่องจากมีข้าวเหลืออยู่ในโกดังทั้ง 2 หลังเพียงเล็กน้อย ทำให้ประสบปัญหาขาดทุน จากปัญหาที่พบดังกล่าวจะได้มีการเชิญตัวแทน อคส.และหน่วยงานที่ทำหน้าที่ดูแล มาชี้แจงให้ข้อมูลต่อ ป.ป.ท.เขตพื้นที่ 9 ต่อไป.-สำนักข่าวไทย