นครพนม 14 ก.พ.-หญิงวัย 57 ปี ชาวนครพนม ร้องสื่อมวลชน หลังได้รับหมายศาลตกเป็นจำเลย ฐานกระทำความผิดเกี่ยวกับภาษีเงินได้นิติบุคคลและภาษีมูลค่าเพิ่ม เป็นเงิน 11 ล้านบาท ทั้งที่มีฐานะยากจน เชื่ออาจถูกสวมบัตรประชาชนไปเปิดบริษัท
นางนุ้ย พรมราช อายุ 57 ปี พร้อมสามี นายทองคำ จิตค้า อายุ 59 ปี ชาวอำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม นำเอกสารหลักฐาน ซึ่งเป็นหมายศาลภาษีอากรกลาง ร้องทุกข์ต่อสื่อมวลชน กรณีได้รับความเดือดร้อนเพราะได้รับหมายศาลภาษีอากรกลาง ในคดีดำที่ ภ.4/2561 โดยกรมสรรพากรเป็นโจทก์ยื่นฟ้องบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งเกี่ยวกับการจำหน่ายเครื่องเขียนและสิ่งพิมพ์ เป็นจำเลยที่ 1 และมีนางนุ้ย พรมราช เป็นจำเลยที่ 2 หลังพบฐานกระทำความผิดเกี่ยวกับภาษีเงินได้นิติบุคคลและภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งนางนุ้ยมีชื่อเป็นกรรมการบริษัท
คดีนี้มีการฟ้องร้องกันในช่วงปี 2557 และศาลนัดไกล่เกลี่ยจ่ายเบี้ยปรับเป็นเงิน 11.8 ล้านบาท เมื่อปี 2559 ทำให้นางนุ้ยต้องร้องขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานราชการ เพราะมีฐานะยากจน ไม่เคยมีกิจการใดๆ จึงเชื่อว่าอาจถูกหลอกนำเอกสารไปเปิดธุรกิจ และเมื่อช่วงปีที่แล้วได้ไปร้องที่ศูนย์ดำรงธรรมนครพนม แต่เรื่องเงียบไป จึงคิดว่าเรียบร้อยแล้ว กระทั่งล่าสุดได้รับหมายศาลอีกครั้ง
ด้านนายทองม้วน กุลจู ประธานสภา อบต.พระกลางทุ่ง ยืนยันว่า นางนุ้ยไม่เคยไปทำกิจการใหญ่โต จึงอยากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบหาทางดูแลช่วยเหลือ เพราะเป็นไปไม่ได้ที่นางนุ้ยจะสามารถไปเปิดบริษัทจนถูกฟ้องร้องถึง 11 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย