สตง.ยืนยันไม่พบการทุจริต กรณีเช่าเหมาลำไปฮาวาย

สตง. 7 ต.ค. – ผู้ว่าการ สตง. ยืนยันไม่พบการทุจริตการเช่าเครื่องบินเหมาลำ พร้อมส่ง คตง. พิจารณาความเหมาะสมวันจันทร์ที่ 10 ต.ค.นี้


นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เปิดเผยผลการตรวจสอบค่าใช้จ่ายในการเช่าเครื่องบินเหมาลำของการบินไทย ของพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมคณะ เพื่อเดินทางไปประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน+สหรัฐอเมริกา ที่มลรัฐฮาวาย ประเทศสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่เวลา 14 นาฬิกาของวันที่ 29 กันยายน – วันที่ 2 ตุลาคม 2559 ว่า ไม่พบประเด็นการทุจริตค่าใช้จ่าย 20 ล้าน 9 แสนบาท โดยเที่ยวไปมีคณะผู้ร่วมเดินทางจำนวน 38 คน ส่วนเที่ยวกลับมีจำนวน 41 คน เนื่องจากมีทีมงานที่เดินทางล่วงหน้าเพื่อเตรียมงานจำนวน 3 คน

ทั้งนี้จากข้อมูลของสำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และการบินไทย นางสาวชลรัศมี งาทวีสุข ผู้ประกาศข่าวช่อง 5 และภาคธุรกิจไม่ได้เดินทางไปด้วย มีเพียงเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงและสื่อมวลชนของทหารร่วมคณะเดินทางไป แต่ไม่สามารถนำหลักฐานมาเปิดเผยได้เพราะอาจกระทบต่อความมั่นคงและผิดจรรยาบรรณ


ผู้ว่าการ สตง. ยืนยันว่า ที่ผ่านมามีนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี เดินทางไปต่างประเทศแบบวีไอพี โดยเช่าเครื่องบินเหมาลำ ซึ่งสะดวกและราคาไม่แตกต่างกันมาก โดยคณะวีไอพี ใช้เดินทางไปสหรัฐฯ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 11 ชั่วโมง แต่ถ้าเดินทางโดยเครื่องบินพาณิชย์ใช้เวลา 16-33 ชั่วโมง ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณ 5 แสนบาทต่อคน ถือว่าใกล้เคียงกับการเช่าเหมาลำของการบินไทย และตารางเที่ยวบินของสายการบินพาณิชย์ไม่สอดคล้องกับตารางงานการประชุม โดยค่าใช้จ่ายสูงสุดคือ ค่าน้ำมันอยู่ที่ 10 ล้านบาท ทั้งขาไปและกลับ ซึ่งถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติ

ส่วนค่าอาหารไปกลับอย่างละ 2 มื้อ เสิร์ฟอาหารวีไอพี มีเมนูไข่ปลาคลาเวียร์ 9 ที่นั่งเท่านั้น ส่วนที่นั่งอื่นเสิร์ฟอาหารปกติ รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมดเป็นไปตามเกณฑ์ โดยคำนวณจากต้นทุนการดำเนินการ ค่าโสหุ้ย และกำไร มากกว่าร้อยละ 20 ซึ่งถือว่าปกติ ไม่มีการทุจริตหรือเสียหาย แต่จะเหมาะสมหรือไม่นั้นจะเสนอให้คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน ตรวจสอบในรายละเอียดอีกครั้งในวันที่ 10 ตุลาคม 2559

ทั้งนี้ การเดินทางไปต่างประเทศยกคณะ 38 คน เป็นจำนวนที่มากเกินไปหรือไม่นั้น ผู้ว่าการ สตง. ระบุว่า อยู่ที่การตีค่าความมั่นคง ตัดสินแทนกันไม่ได้ เพราะไม่ได้อยู่ในความรับผิดชอบตรงนั้น แต่ถ้าทำให้บ้านเมืองดีขึ้นภาพลักษณ์ดีขึ้น ก็คุ้มค่า เพราะความมั่นคงเป็นเรื่องละเอียดอ่อน  – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สั่งย้ายครูแบทแมน

สั่งเด้ง “ครูแบทแมน” ถ่ายคลิปไม่เหมาะสมในโรงเรียน

กัน จอมพลัง บุก ก.ศึกษาธิการ ร้องเอาผิดครูชายสวมหน้ากากแบทแมน ถ่ายคลิปไม่เหมาะสมในโรงเรียน จ.อุทัยธานี ล่าสุดสั่งย้าย “ผอ.โรงเรียน-ครูแบทแมน” เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง ด้าน “สส.ชาดา-กัน จอมพลัง” ลงพื้นที่ ขีดเส้นตายสอบเอาผิด

แม่อดีตครูสาว ยังติดใจสาเหตุ หลังพบศพในรถลานจอด รพ.

“น้องกิ๊ฟ” อดีตครูหายตัวไปเกือบ 1 เดือน พบอีกทีเป็นร่างไร้วิญญาณในรถยนต์บนลานจอดของโรงพยาบาล ญาติยังติดใจสาเหตุวอนตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิด ไขข้อสงสัย

สั่งจำคุก “อัจฉริยะ” 2 เดือน ไม่รอลงอาญา คดีละเมิดอำนาจศาล

ศาลอาญาสั่งจำคุก “อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์” 2 เดือน ไม่รอลงอาญา ฐานละเมิดอำนาจศาล เผยแพร่เอกสารสรุปย่อคำพิพากษาต่อสื่อมวลชนโดยไม่ได้รับอนุญาต

ข่าวแนะนำ

เคลื่อน 18 ศพเหยื่อบัสมรณะ ถึงบ้านเกิด ญาติร่ำไห้อาลัย

เจ้าหน้าที่กู้ภัย เคลื่อนร่างผู้เสียชีวิต 18 คน จากเหตุรถบัสพลิกคว่ำ ถึงวัดป่าวิเวกธรรม อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของญาติที่รอรับศพ

สำรวจจุดเกิดเหตุรถบัสมรณะ 18 ศพ

ทีมข่าวลงพื้นที่จุดเกิดเหตุรถบัสมรณะ 18 ศพ พบว่ารถคันดังกล่าวฝ่าฝืนคำสั่งไม่ยอมจอดพักรถและลงชื่อก่อนจุดเกิดเหตุ 1 กิโลเมตร ทำให้รถเกิดเบรกแตกไหลลงเขาจนเกิดโศกนาฏกรรม

นายกฯ เรียก “รมต.จิราพร-ผบ.ตร.” ถกปราบบุหรี่ไฟฟ้า

“แพทองธาร” นายกฯ เรียก “รมต.จิราพร-ผบ.ตร.” ประชุมปราบปราม “บุหรี่ไฟฟ้า” ขีดเส้น 30 วัน ดำเนินการให้เด็ดขาด สั่งเข้มห้ามขายใกล้สถานศึกษา ต้องจัดการผู้นำเข้า

รถบัสดูงานคว่ำ

เร่งหาสาเหตุรถบัสคณะดูงานบึงกาฬ พลิกคว่ำทางลงเขาศาลปู่โทน

เจ้าหน้าที่เร่งกู้ซากรถบัสคณะดูงานเทศบาลบึงกาฬ เสียหลักพลิกคว่ำบริเวณทางลงเขาศาลปู่โทน จ.ปราจีนบุรี ทำให้มีผู้เสียชีวิต 18 คน บาดเจ็บอีกจำนวนมาก พร้อมเร่งหาสาเหตุของอุบัติเหตุ หลังมีรายงานว่าตอนลงเขารถบัสใช้ความเร็วเกิน 100 กม./ชม.