ก.คลัง 1 ก.พ. – คลังเดินหน้าหนุนใช้บัตรเดบิต เผยเงินสะพัดผ่านพร้อมเพย์กว่า 3.7 แสนล้านบาท หวังติดตั้งเครื่อง EDC ให้ครบ 5 แสนเครื่องตามเป้าหมาย นายกรัฐมนตรีเตรียมเรียกประชุมทุกหน่วยงานย้ำนโยบายไทยนิยม
นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวระหว่างเป็นประธานมอบรางวัลแก่ผู้โชคดีในโครงการแจกโชคจากการใช้บัตรเดบิต ครั้งที่ 8 ว่า รัฐบาลต้องเร่งรัดการติดตั้งเครื่อง EDC ให้ครบ 500,000 เครื่องตามเป้าหมาย หลังจากร้านค้าติดตั้งได้แล้ว 140,000 ราย รวม 480,000 เครื่อง เพิ่มจากปีก่อนมีจำนวน 300,000 เครื่อง นับว่าร้านค้าหนึ่งแห่งติดตั้งได้หลายเครื่องยังต้องส่งเสริมติดตั้งเครื่อง EDC เพิ่มขึ้นควบคู่กับการใช้ QR-Code หลังจากหน่วยงานรัฐติดอุปสรรคเงื่อนไขช่วงที่ผ่านมา ยืนยันว่าเดือนมีนาคมนี้ติดตั้งเสร็จ 18,000 เครื่องกับทุกส่วนราชการ
สำหรับการลงทะเบียนระบบพร้อมเพย์ 37 ล้านบัญชี แบ่งเป็นการลงทะเบียนด้วยบัตรประชาชน 25 ล้านบัญชี ผูกกับมือถือ 12 ล้านบัญชี และยังต้องการเร่งรัดนิติบุคคลลงทะเบียนพร้อมเพย์เพิ่มขึ้นจาก 50,000 รายในปัจจุบัน ตั้งแต่เริ่มโครงการ พบว่าจำนวนครั้งการใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิตโดยเฉลี่ยต่อเดือนขยายตัวในอัตราสูงและมูลค่าการใช้จ่ายต่อรายการโดยเฉลี่ยลดลงประมาณ 3,900 บาทต่อราย สะท้อนพฤติกรรมของประชาชนหันมาใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิตในชีวิตประจำวันมากขึ้น ทำให้การใช้จ่ายผ่านระบบพร้อมเพย์สร้างเงินสะพัดในระบบทั้งหมด 370,000 ล้านบาท
ส่วนผู้โชคดีที่ได้รับรางวัลที่ 1 มูลค่า 1 ล้านบาท ผู้ใช้บัตรเดบิต คือ นางสาวศุทธิรัตน์ เพชรฤาชา เป็นลูกค้าของธนาคารกรุงศรีอยุธยา และร้านค้าที่รับชำระเงินผ่านเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ คือ ร้านแต้จี่แสงก่อสร้าง เป็นร้านธงฟ้าประชารัฐในจังหวัดชัยภูมิ และเป็นลูกค้าของธนาคารกรุงไทย เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนใช้บัตรเดบิตและบัตรสวัสดิการแห่งรัฐแทนการใช้เงินสด และส่งเสริมให้ร้านค้าติดตั้งเครื่อง EDC กำหนดจ่ายถึงเดือนพฤษภาคม 2561 รวมเงินรางวัล 84 ล้านบาท ส่วนจะเพิ่มรางวัลอีกหรือไม่ ต้องหารือระดับนโยบายจากรัฐบาลอีกครั้ง เพราะเหลือเวลาจับรางวัลอีก 4 ครั้งจะครบ 1 ปี
สำหรับการแจกโชคจากการใช้บัตรเดบิตเดือนมกราคม 2561 เป็นเดือนที่ 2 ที่ผู้ใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐและร้านธงฟ้าประชารัฐร่วมลุ้นโชคได้เพิ่มเติม โดยการใช้จ่ายผ่านบัตร 1 ครั้ง เท่ากับ 1 สิทธิ์ สำหรับผู้ที่ใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐซื้อสินค้าหรือวัตถุดิบการเกษตร (ไม่รวมค่าใช้จ่ายในสวัสดิการเดินทางทั้งรถเมล์ บขส. รถไฟ ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ) เพื่อเป็นการขยายโอกาสการเข้าถึงบริการทางการเงินแบบไร้เงินสด ของผู้มีรายได้น้อยและสร้างความคุ้นเคยกับการรับสวัสดิการและใช้จ่ายผ่านบัตรทดแทนเงินสด หวังลดต้นทุนการบริหารจัดการเงินสดและสนับสนุนการก้าวสู่เศรษฐกิจยุคดิจิทัล
นายสมชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า วันนี้เป็นวันแรกเปิดให้ผู้ลงทะเบียนสวัสดิการแห่งรัฐแจ้งความจำนงค์เข้าอบรมอาชีพมาตรการช่วยเหลือสวัสดิการแห่งรัฐเฟส 2 จึงต้องการให้ชาวบ้านลงทะเบียนทั้งธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และหน่วยงานรัฐ ในการฝึกอบรมอาชีพ เพื่อรับเงินสวัสดิการผ่านบัตรเพิ่มอีก 100-200 บาทต่อเดือน เพื่ออบรมให้ความรู้ทั้งด้านอาชีพหลากหลาย ช่างประจำตำบล การเข้าถึงแหล่งทุน การสมัครกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ทำประกันรายย่อย 200 บาท โดยวันที่ 8-9 กุมภาพันธ์ นายกรัฐมนเตรียมเรียกประชุมผู้บริหารทุกกระทรวงเกี่ยวข้องทั้งกระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ ทำความเข้าใจโครงการไทยนิยม ช่วยเหลือรายย่อยทิศทางเดียวกัน เพราะกำหนดเป็นตัวชี้วัด KPI ของส่วนราชการ เพราะปีนี้ถือว่าเป็นปีช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย.-สำนักข่าวไทย
