บางนา 25 ม.ค.-กรมอุตุฯเตือนประชาชนรับมือสภาพอากาศแปรปรวนทั่วทุกภาค โดยเฉพาะกรุงเทพฯ เฝ้าระวังฝนตกหนัก อุณหภูมิลดต่ำสุด 18-20 องศา ช่วงวันที่30 ม.ค.ขณะที่ลักษณะอากาศขมุกขมัว ฟ้าหลัวกลางวัน จะคลี่คลายใน 2-3 วันนี้
นายวันชัย ศักดิ์อุดมไชย อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา แถลงข่าวเรื่องสภาพอากาศแปรปรวนทั่วทุกภาค พร้อมฝากเตือนประชาชนรับมือกับฝนฟ้าคะนอง ฝนตกหนัก ช่วงวันที่ 25-28 มกราคม , และกรุงเทพมหานคร ต้องระมัดระวังน้ำท่วมขังในที่ลุ่มต่ำ ในช่วงระหว่างวันที่ 30 มกราคม , หลังจากนั้นทั่วทุกภาคอุณหภูมิจะลดลง 6-8 องศา ในช่วงระหว่างวันที่ 29 มกราคม-4กุมภาพันธ์ 2561ขอให้ประชาชนเตรียมความพร้อมระมัดระวังสุขภาพ โดยเฉพาะผลผลิตทางการเกษตรที่จะได้รับความเสียหาย
พร้อมย้ำว่าข่าวที่ส่งต่อทางไลน์ หรือ เฟซบุ๊ก ว่าช่วง 23-26 มกราคม อุณหภูมิจะลดลงเฉียบพลัน เป็นข่าวเก่าปีที่แล้ว
ขณะเดียวกันในช่วงนี้ที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีลักษณะอากาศที่ขมุกขมัว เนื่องมาจากเกิดฝนฟ้าคะนองในภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และฝนตกหนักในภาคใต้ ประกอบกับเกิดลมตะวันออกเฉียงใต้พัดเอาความชื้นในอ่าวไทยปกคลุมทั่วทุกภาค จึงทำให้เกิดลักษณะหมอก หรือฟ้าหลัว ในตอนกลางวัน เป็นที่ถกเถียงในวงกว้างว่า เกิดจากหมอก หรือควันนั้น กรมอุตุนิยมวิทยา เรียกลักษณะอากาศแบบนี้ ว่าฟ้าหลัว คือไอน้ำ ผสมกับสิ่งปลอมปน ทั้ง ฝุ่นละออง ควันจากท่อไอเสียรถยนต์ โรงงานอุตสาหกรรมและปัจจัยอื่นๆอีก สามารถเกิดขึ้นได้ในช่วงลมสงบนิ่ง หากเกิดฝนอากาศลักษณะแบบนี้จะหายไป และ ย้ำว่าอากาศขมุกขมัวที่เกิดขึ้นไม่ใช่กลุ่มควันเพียงอย่างเดียว เกิดจากไอน้ำหรือหมอกด้วย ที่ผ่านมาลักษณะอากาศแบบนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้งในกรุงเทพมหานครช่วงลมสงบ ถือว่าครั้งนี้ไม่รุนแรงเท่าฤดูร้อนทางภาค เหนือที่ประกาศเตือนในระดับสีแดง โดยจะเริ่มคลี่คลายลงในช่วงวันที่ 28-29มกราคมนี้ หลังจากได้รับอิทธิจากลมหนาวจากภาคเหนือที่จะแผ่มาปกคลุมกรุงเทพมหานคร โดยคาดว่า หลังเกิดฝนฟ้าคะนองในช่วงวันที่ 30 มกราคม กทม.จะเริ่มกลับมาหนาวเย็นอีกครั้ง ในคืนวันที่30 มกราคม และหนาวที่สุดระหว่างวันที่ 2-3 กุมภาพันธ์ อุณหภูมิต่ำสุดที่ 18-20 องศาเซลเซียส จากนั้นจะค่อยๆเพิ่มอุณหภูมิสูงขึ้น คาดว่าปีนี้ ฤดูหนาวจะสิ้นสุดในช่วงสัปดาห์ที่3 ของเดือนกุมภาพันธ์ ถือว่าฤดูหนาวนานกว่าปีที่แล้ว ถึง1 สัปดาห์ ก่อนที่จะเข้าสู่ฤดูร้อนอย่างเป็นทางการในช่วงต้นเดือนมีนาคม
อย่างไรก็ตามอยากฝากเตือนประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด ทั้งทางเว็บไซต์ หรือสายด่วน 1187 ซึ่งอัพเดทข้อมูล ตลอด24 ชั่วโมง .-สำนักข่าวไทย