กรุงเทพฯ 23 ม.ค. – ธนาคารกรุงไทยจับมือ ปตท.ร่วมสร้างสังคมไร้เงินสด ด้าน ปตท.เผยจะลงนามอีก 7 แบงก์พัฒนานวัตกรรมการเงิน ด้านกรุงไทยไม่มีแผนลดคนและชะลอปิดสาขา แม้ใช้เทคโนโลยีมาให้บริการมากขึ้น
ธนาคารกรุงไทยให้บริการ KRUNGTHAI QR Code และเป๋าตุง กรุงไทย ในโรงอาหารของศูนย์เอนเนอร์ยี่คอมเพล็กซ์ หรือ EnCo และศูนย์อาหาร ปตท.เพิ่มความสะดวกสบายและปลอดภัย รวมทั้งจัดโปรโมชั่นพิเศษ ซื้ออาหารและเครื่องดื่มราคา 4 บาท ภายในงานอีกด้วย ตอบรับสังคมไร้เงินสด โดยกรุงไทยยังให้บริการในหน่วยงานราชการและกระทรวงต่าง ๆ รวมทั้งวัด มหาวิทยาลัย ตลาด และถนนคนเดินทุกภูมิภาค ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีมียอดใช้คิวอาร์โค้ดเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 200
นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า จากการที่ธนาคารมุ่งมั่นในการสนับสนุนนโยบาย National e-Payment เพื่อเสริมสร้างศักยภาพและขับเคลื่อนสังคมไทยทุกภาคส่วนให้ก้าวสู่การเป็นสังคมไร้เงินสด ช่วยลดต้นทุนทางธุรกิจ ยกระดับศักยภาพการแข่งขันของประเทศ โดยขณะนี้กรุงไทยมี 1,121 สาขา พนักงาน 24,000 คน มีแผนใช้นวัตกรรมมาช่วยในการบริการมากขึ้นตามเทคโนโลยีใหม่ที่ประชาชนใช้สมาร์ทโฟน โดยธนาคารไม่มีแผนลดคน แต่ด้วยโครงการเกษียณก่อนกำหนดหรือเออรี่รีไทร์ รวมทั้งการเกษียณอายุ รับพนักงานน้อยลงตามภารกิจใหม่ ก็คาดว่าว่าพนักงานกรุงไทยจะลดลงได้ร้อยละ 30 ใน 5 ปีข้างหน้า
ส่วนทางด้านจำนวนสาขานั้น ปีที่แล้วลดลงประมาณ 80 สาขา แต่ขณะนี้ชะลอการปิดสาขา เนื่องจากธนาคารเป็นรัฐวิสาหกิจและมีภาระต้องบริการประชาชนให้ทั่วถึง ประกอบกับการปิดสาขาของธนาคารอื่น ๆ ทำให้มีลูกค้ามาใช้บริการของธนาคารมากขึ้น
“ธนาคารไม่มีแผนลดคน แต่หากสาขาใดปิดก็จะโยกย้ายพนักงานไปสาขาอื่น ๆ อบรมไปทำงานด้านอื่น ๆ เช่น การแนะนำผู้ใช้บริการในการใช้เน็ตแบงก์ผ่านมือถือ เป็นต้น ซึ่ง ธนาคารได้ประกาศแผนไปแล้วปรับดีเอ็นเอ การทำงานกรุงไทย โดยใช้เทคโนโลนีนวัตกรรมโครงการ FAST ทำให้การทำงานรวดเร็วและแข่งขันได้ทุกด้าน” นายผยง กล่าว
ส่วนความคืบหน้าการสอบคดีที่มีการลักลอบนำบัตรประชาชนบุคคลอื่นไปเปิดบัญชีธนาคาร ขณะนี้ได้ส่งผลสอบให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แล้ว โดยธนาคารสั่งให้พนักงานเพิ่มความเข้มงวดในการเปิดบัญชี ตรวจสอบใบหน้าให้ตรงกับบัตรประชาชน
นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่เทคโนโลยีและวิศวกรรม ปตท. กล่าวว่า เร็ว ๆ นี้ ปตท.จะลงนามกับ 7 ธนาคาร เพื่อนำนวัตกรรมการเงินมาเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ตลอดจนเพื่อเป็นการสนับสนุนการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนตามนโยบาย Thailand 4.0 ของภาครัฐ โดยในส่วนของเอนโก้ ทางกลุ่ม ปตท.มีแผนจะพัฒนาเป็น SMART COMMUNITY และพร้อมจะพัฒนาศูนย์คมนาคมบางซื่อเป็นศูนย์กลางคมนาคมและระบบขนส่งทางรางของประเทศ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับกระทรวงคมนาคมและการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จะเห็นชอบหรือไม่. – สำนักข่าวไทย