กทม.9 ม.ค.-หญิงสาวที่ถูกขโมยกระเป๋าสตางค์พร้อมบัตรประชาชนแล้วถูกนำไปใช้เปิดบัญชีกระทำความผิด ยืนยันเอาผิดผู้ที่ทำให้เดือดร้อนจนถูกออกหมายจับ
จากกรณีนางสาวณิชา เกียรติธนะไพบูลย์ ถูกขโมยกระเป๋าสตางค์ที่มีบัตรประชาชนอยู่ แล้วถูกคนร้ายนำไปเปิดบัญชีธนาคารถึง 9 บัญชี ก่อนพบว่าบัญชีทั้งหมดถูกนำไปใช้กระทำผิดในลักษณะคอลเซ็นเตอร์ โดยเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจในแต่ละพื้นที่ แล้วเข้าแสดงความบริสุทธิ์ใจกับกองปราบปราม แต่ถูกจับกุมและส่งตัวให้ สภ.บ้านตาก จ.ตาก เนื่องจากมีหมายจับคดีฉ้อโกงทรัพย์
ล่าสุดนางสาวณิชา พร้อมพี่สาว มากองปราบปราม เพื่อขอความเป็นธรรม และแจ้งความดำเนินคดีผู้ที่นำบัตรประชาชนของตนไปเปิดบัญชีและนำบัญชีไปใช้หลอกลวงประชาชน โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิด ธนาคาร 2 แห่ง มอบให้เป็นหลักฐานเพื่อดำเนินคดี
นางสาวนิชา ยืนยัน ไม่ได้เป็นผู้เปิดบัญชีที่ถูกนำไปใช้กระทำผิด และเมื่อ 28 ธันวาคม แจ้งว่ามีหมายเรียก แต่วันนั้นตนไม่อยู่บ้าน ก่อนจะมีตำรวจพร้อมหมายจับมาติดต่อที่บริษัทที่ทำงานเพื่อตามตัว แต่ตนไม่อยู่ จึงตัดสินใจเข้าพบกองปราบในวันรุ่งขึ้น เพื่อจะแสดงความบริสุทธิ์ใจ แต่ถูกตำรวจกองปราบจับกุมและส่งไปยังจังหวัดตาก ก่อนที่ตำรวจังหวัดตากจะส่งตัวฝากขังและศาลให้ประกันตัวหลังนอนคุก 2 วัน ยืนยันจะแจ้งความเอาผิดผู้นำบัตรของตนไปใช้ในการกระทำผิด ในส่วนของธนาคาร อยากให้มีความรัดกุม ในการรับเปิดบัญชีหรือมีการตรวจสอบใบหน้า และหลักฐานของผู้เปิดบัญชีให้แน่ชัด เพราะบัตรประชาชนที่คนร้ายนำไปใช้มีการแจ้งยกเลิกและทำบัตรใหม่ไปแล้ว
ด้านนางสาวปุญญาดา ก๊กมา พี่สาว ตั้งข้อสังเกตุถึงการทำสำนวนของตำรวจจังหวัดตากว่า เหตุใดจึงทำสำนวนว่ามีการจับกุมตัวน้องสาวตนทั้งที่ความเป็นจริงแล้ว น้องสาวตนเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนกองปราบด้วยตนเอง รวมถึงสำนวนการสอบสวนยังไม่มีความละเอียดรอบคอบ และไม่มีการสอบปากคำเพิ่มเติม หลังได้รับตัวจากกองปราบปราม แต่ส่งตัวน้องสาวตนไปฝากขังต่อศาลทันที.-สำนักข่าวไทย