ตาก 7 ม.ค. – ผู้ต้องหาแก๊งคอลเซนเตอร์ ที่จังหวัดตาก ยืนยันไม่เกี่ยวข้องกับขบวนการ แต่ถูกคนร้ายนำบัตรประชาชนที่หายไป นำไปแอบอ้างทำธุรกิจ และหลอกลวงประชาชน และมีพยานหลักฐานยืนยันทั้งใบแจ้งความและภาพกล้องวงจรปิดจากทุกธนาคาร ที่เห็นใบหน้าคนร้ายในทุกธนาคารที่เกี่ยวข้อง
นางสาวณิชา เกียรติธนะไพบูลย์ อายุ 24 ปี พนักงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ผู้ต้องหาในคดีฉ้อโกงเงินถูกควบคุมตัวจากห้องขัง สภ.บ้านตาก จ.ตาก ไปขออำนาจศาลตากฝากขังผลัดแรก โดยมีนางกันต์สินี มารดาและพี่สาวมาให้กำลังใจ และเตรียมเงินสด 100,000 บาท เอาไว้ประกันตัว แต่ศาลไม่อนุญาต เนื่องจากเกรงผู้ต้องหาหลบหนี เพราะมีมูลค่าความเสียหายสูง ขณะที่ครอบครัวและทนายความร้องขอความเป็นธรรม เพื่อขออุธรณ์ประกันตัวต่อไปในวันจันทร์พร้อมระบุว่า เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2560 นางสาวณิชา ถูกคนร้ายล้วงกระเป๋าเงินไปขณะนั่งรถโดยสารที่กรุงเทพฯ ในกระเป๋ามีใบขับขี่รถยนต์และบัตรประจำตัวประชาชนอยู่ด้วย แต่ปรากฏว่าหลังจากนั้นไม่นาน มีหญิงรูปร่างอ้วนท้วม ผมยาว ปิดหน้าด้วยหน้ากากอนามัย ได้นำบัตรประชาชนของนางสาวณิชาไปเปิดบัญชีที่ธนาคาร 7 แห่ง รวม 9 บัญชี และมีเงินโอนเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 4 ครั้ง รวม 3 แสน 5,000 บาท ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ ธนาคารจึงโทรไปสอบถาม นางสาวณิชา เจ้าของบัญชี ทำใหรู้ว่าถูกแก๊งค์มิจฉาชีพนำบัตรประชาชนที่ทำหายไปใช้ จึงไปแจ้งความอายัดบัญชีที่ถูกแอบอ้างทั้งหมด
นอกจากนี้คนร้าย แก๊งคอลเซนเตอร์ ยังใช้ชื่อนางสาวณิชา แอบอ้างหลอกคนร่วมลงทุนซื้อที่ดินในเฟซบุ๊ก โดยให้โอนเงินเข้าบัญชีชื่อ นางสาวณิชา รวมมูลค่านับล้านบาท กระทั่งมีผู้ไปแจ้งความ และมีหมายเรียกจากตำรวจกองปราบปรามไปสอบสวนดำเนินคดี ซึ่งนางสาวณิชาก็ได้ไปมอบตัวแสดงความบริสุทธิ์ใจที่ก่อนถูกควบคุมตัว และส่งมาดำเนินคดีที่ สภ.บ้านตาก อ.บ้านตาก จ.ตาก ที่ผู้เสียหายแจ้งความเอาไว้. -สำนักข่าวไทย