กรุงเทพฯ 5 ม.ค. – กรมขนส่งฯ พร้อมเปิดให้บริการแอพพลิเคชั่นแท็กซี่โอเค 25 ม.ค.นี้ บริการล็อตแรกภายในเดือนนี้ 1 หมื่นคัน
นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยถึงความคืบหน้าการให้บริการแอพพลิเคชั่นแท็กซี่โอเค (Taxi OK) ของกรมการขนส่งฯ ว่า จะเปิดให้บริการล็อตแรก 10,000 คัน ภายในเดือนมกราคมนี้ และจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการวันที่ 25 มกราคมนี้ ซึ่งขณะนี้มีแท็กซี่โอเคให้บริการแล้ว 2,000 คัน
“สาเหตุที่ยังไม่ประชาสัมพันธ์ เนื่องจากเกรงว่าจำนวนรถในระบบไม่เพียงพอต่อการให้บริการหลังจากนี้วันที่ 25 มกราคมนี้ กรมฯ จะเปิดตัวแท็กซี่โอเคอย่างเป็นทางการ ซึ่งจะมีรถมาให้บริการประมาณ 10,000 คัน โดยประชาชนจะเสียค่าเรียกผ่านแอพพลิเคชั่น 20 บาท” นายสนิท กล่าว
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมากรมการขนส่งทางบกร่วมกับสหกรณ์แท็กซี่และศูนย์วิทยุแท็กซี่ผลักดันโครงการแท็กซี่โอเค ซึ่งสหกรณ์แท็กซี่แจ้งเจตนารมณ์เข้าร่วม 18 สหกรณ์ รวมถึงผู้ขับรถแท็กซี่ให้ความสนใจเกือบทั้งหมด เบื้องต้นมีรถแท็กซี่แจ้งความจำนงจะเข้าร่วมโครงการประมาณ 20,000-30,000 คัน และมีผู้สมัครเข้าร่วมโครงการหลายพันคัน แบ่งเป็นภาคบังคับหรือแท็กซี่ที่จดทะเบียนใหม่ประมาณ 1,000 คัน และภาคสมัครใจหรือรถแท็กซี่ที่ยังไม่หมดอายุ แต่ต้องการเข้าร่วมโครงการอีกจำนวนมาก
นายสนิท กล่าวว่า ปัจจุบันรถแท็กซี่เหล่านี้อยู่ระหว่างการติดตั้งอุปกรณ์ส่วนควบ เช่น การติดตั้งจีพีเอส ระบบกล้องถ่ายภาพภายในรถแบบ Snap Shot ปุ่มฉุกเฉิน และตรวจสอบการเชื่อมโยงข้อมูล มั่นใจว่ารถแท็กซี่โอเคล็อตแรกจะครบ 10,000 คัน ซึ่งเพียงพอกับความต้องการของประชาชนและสามารถเปิดให้บริการได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่ารถแท็กซี่ที่จดทะเบียนใหม่ทุกคันต้องมีความพร้อมและติดตั้งอุปกรณ์ส่วนควบตามที่กำหนดในโครงการ TAXI OK ให้ครบถ้วน ประกอบด้วย การติดตั้งเครื่องบันทึกข้อมูลการเดินทางของรถ (GPS Tracking) พร้อมอุปกรณ์แสดงตัวผู้ขับรถ มาตรค่าโดยสาร ปุ่มฉุกเฉินสำหรับผู้โดยสารอย่างน้อย 1 จุด ในตำแหน่งที่สามารถมองเห็นได้และใช้งานสะดวก และกล้องบันทึกภาพภายในรถแบบ Snap Shot อุปกรณ์ทั้งหมดต้องเชื่อมโยงและทำงานร่วมกันได้แบบเรียลไทม์ เพื่อส่งข้อมูลไปยังศูนย์บริการสื่อสารรถแท็กซี่ของผู้ประกอบการทั้งที่เป็นนิติบุคคล สหกรณ์ ศูนย์วิทยุแท็กซี่ในปัจจุบัน ซึ่งทำหน้าที่บริหารจัดการระบบให้บริการรถแท็กซี่ครอบคลุมทั่วถึงทุกพื้นที่ให้บริการ และมีส่วนสำคัญในการควบคุมคุณภาพและความปลอดภัยให้แก่ผู้ใช้บริการและจัดส่งข้อมูลให้ศูนย์บริหารจัดการรถแท็กซี่ของกรมการขนส่งทางบก.-สำนักข่าวไทย