กระทรวงมหาดไทย 1ม.ค. – พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึง ความคืบหน้าของร่างกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งท้องถิ่น ว่า กระทรวงมหาดไทยได้เสนอเรื่องคุณสมบัติของผู้บริหารท้องถิ่นให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญปี 2560 เช่น การปรับเรื่องคุณสมบัติของผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งท้องถิ่นให้เข้มข้นมากกว่าเดิม บางส่วนอาจเทียบเท่ากับ ส.ส. และก็ต้องให้เหมาะสมกับส่วนท้องถิ่นด้วย ซึ่งขณะนี้ได้เสนอความคิดเห็นไปยังคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว โดยกฤษฎีกาจะเป็นผู้นำเสนอกฎหมายที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งท้องถิ่นเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) และเมื่อกฎหมายผ่านสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)ก็จะนำไปสู่การเลือกตั้งท้องถิ่น ส่วนจะเลือกตั้งเมื่อใดนั้น คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)จะเป็นผู้กำหนด แต่ ยืนยันว่าการเลือกตั้งท้องถิ่นจะเกิดก่อนการเลือกตั้งระดับประเทศเพราะเป็นนโยบายของรัฐบาล อย่างไรก็ตามยอมรับว่าการเสนอกฎหมายครั้งนี้ได้ปรับคุณสมบัติของผู้ที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งท้องถิ่นให้มีความเข้มข้นมากกว่าเก่าซึ่งในบางส่วนคุณสมบัติก็จะเทียบเท่ากับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.)
พล.อ.อนุพงษ์ ยังกล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบผู้บริหารท้องถิ่นที่ถูกคำสั่ง คสช.ระงับการปฏิบัติหน้าที่ในช่วงที่ผ่านมา ว่า การที่มีคำสั่ง คสช.ให้ผู้บริหารท้องถิ่นหรือสมาชิกสภาท้องถิ่นมีฐานะอย่างไรนั้น การดำเนินการทุกอย่างต้องเป็นไปตามขั้นตอน คือต้องสอบสวนหาข้อเท็จจริงและสอบสวนทางวินัย และเมื่อมีกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่นออกมาใครมีคุณสมบัติ ไม่มีคุณสมบัติก็ต้องเป็นไปตามนั้น ถ้าคุณสมบัติไม่ขัดก็สามารถลงสมัครรับเลือกตั้งได้ แต่ถ้าคุณสมบัติขัดกฎหมายก็ลงรับสมัครเลือกตั้งไม่ได้ ซึ่งขณะนี้มีการรายงานความคืบหน้าของผู้ที่ถูกคำสั่ง คสช.มายังกระทรวงมหาดไทยบ้างแล้ว ทั้งที่สอบสวนเสร็จ และที่สอบสวนยังไม่แล้วเสร็จ และส่วนที่ขอขยายเวลา และใครที่ถูกให้พักราชการหรือให้พ้นหน้าที่ก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย
ส่วนการเลือกตั้งสภาท้องถิ่น ของกรุงเทพมหานคร นั้น พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ตามกฎหมายจะต้องมีพระราชกฤษฎีกาเรื่องการเลือกตั้งออกมาก่อน เมื่อออกมาแล้วกระทรวงมหาดไทยก็พร้อมดำเนินการตามกรอบของคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ในส่วนที่มีความเกี่ยวข้อง.-สำนักข่าวไทย.