คูตา 28 ธ.ค.- ทางการเกาะบาหลีของอินโดนีเซียประกาศทำสงครามกับขยะเกลื่อนชายหาดเกาะท่องเที่ยวที่เคยได้รับการขนานนามว่าเป็นเกาะสวรรค์บนดิน
นักท่องเที่ยวสตรีออสเตรเลียเผยว่า เห็นขยะทุกครั้งที่คิดจะว่ายน้ำที่หาดคูตา เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวชายชาวเยอรมันที่บอกว่า เห็นคนมาเก็บขยะทุกวัน แต่วันรุ่งขึ้นก็มีขยะถูกซัดมาใหม่ ไม่มีใครอยากนั่งอาบแดดบนเก้าอี้สวย ๆ โดยต้องทนเห็นขยะอยู่ตรงหน้า ทางการบาหลีประกาศเมื่อเดือนก่อนให้ชายหาดยาว 6 กิโลเมตรไล่ตั้งแต่หาดจิมบารัน หาดคูตาขึ้นไปจนถึงหาดเซมินยักมีปัญหาขยะฉุกเฉิน พนักงานทำความสะอาด 700 คนรถบรรทุก 35 คัน ต้องขนขยะไปทิ้งวันละ 100 ตัน สถานการณ์มักเลวร้ายหนักช่วงฤดูฝน เพราะกระแสลมพัดขยะที่ลอยอยู่กลางทะเลมาเกยหาด ขณะที่แม่น้ำล้นตลิ่งพัดพาขยะริมฝั่งแม่น้ำมายังชายหาดเช่นกัน เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นกล่าวว่า ขยะเหล่านี้มาจากที่อื่น ไม่ใช่ขยะของชาวคูตาและชาวบ้านใกล้เคียง เพราะหากคนในพื้นที่ทิ้งขยะเกลื่อนก็เท่ากับฆ่าตัวตาย
นักวิจัยด้านสิ่งแวดล้อมมหาสมุทรของเกาะบาหลีเตือนว่า ปัญหาที่ร้ายแรงยิ่งกว่าขยะตามชายหาดคือ ขยะพลาสติกเพราะสามารถแตกอนุภาคปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อม สัตว์น้ำ และห่วงโซ่อาหาร เป็นสาเหตุให้เป็นมะเร็ง เขามองว่า ทั้งนักท่องเที่ยวและชาวบ้านต้องร่วมกันรับผิดชอบปัญหานี้ ทางการบาหลีควรทุ่มงบประมาณสร้างจิตสำนึกเรื่องสิ่งแวดล้อม ไม่ทิ้งขยะลงแม่น้ำ ขณะที่รัฐบาลอินโดนีเซียควรเพิ่มการรณรงค์ลดใช้ถุงพลาสติก โดยเฉพาะร้านสะดวกซื้อควรคิดเงินกับผู้ค้าที่ต้องการถุงพลาสติก อินโดนีเซียซึ่งมีประชากรกว่า 250 ล้านคน ทิ้งขยะปีละ 1.29 ล้านเมตริกตัน และก่อขยะทางทะเลมากเป็นอันดับสองของโลกรองจากจีน.- สำนักข่าวไทย
