กรุงเทพฯ 23 ธ.ค.-หัวหน้า คสช. ใช้มาตรา 44 แก้ พ.ร.ป.พรรคการเมือง ขยายเวลาจัดทำรายชื่อสมาชิกพรรค โดยพรรคการเมืองใหม่ เริ่มดำเนินการทางธุรการ 1 มี.ค.61 ส่วนพรรคการเมืองเดิม เริ่ม 1 เม.ย.61 แต่การประชุมพรรค ต้องได้รับอนุญาตจาก คสช. และรอ กม.ลูก ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.แล้วเสร็จ เพื่อยกเลิกประกาศ คสช. ที่เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินการของพรรคการเมือง
เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 53/2560 เรื่องการดำเนินการตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ตามที่ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 มีผลใช้บังคับแล้วตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคม 2560 ซึ่งพรรคการเมืองที่จัดตั้งขึ้นก่อนหน้านั้น ต้องเริ่มดำเนินการต่าง ๆ ภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด ส่วนบุคคลซึ่งประสงค์จะจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นใหม่ ก็ให้ยื่นคำขอจดทะเบียนจัดตั้งพรรคการเมืองได้โดยดำเนินการตามขั้นตอนที่กฎหมายบัญญัติ แต่เนื่องจากประกาศ คสช.ฉบับที่ 57/2557 เรื่องให้ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ บางฉบับมีผลบังคับใช้ต่อไป ลงวันที่ 7 มิถุนายน พ.ศ.2557 และคำสั่ง หน.คสช.ที่ 3/2558 เรื่อง การรักษาความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงของชาติ ลงวันที่ 1 เมษายน พ.ศ.2558 ยังมีผลใช้บังคับ การดำเนินกิจกรรมทางการเมืองเช่นว่านี้ จึงยังไม่อาจกระทำได้ ผลจากการนี้ทำให้พรรคการเมืองทั้งที่จัดตั้งขึ้นแล้วและกำลังเตรียมจะจัดตั้งขึ้นใหม่อาจเกรงว่าหากไม่สามารถดำเนินการต่าง ๆ ได้ทันภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด จะเป็นเหตุให้เสียสิทธิในการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งและการได้รับการจัดสรรเงินสนับสนุนจากกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง
คสช.ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า แม้สถานการณ์รอบด้านในขณะนี้จะสงบเรียบร้อย แต่ก็ยังมีความจำเป็นต้องคงประกาศและคำสั่งดังกล่าวต่อไปอีกระยะหนึ่ง เพื่อไม่ให้มีผู้ฉวยโอกาสอ้างการดำเนินการตามกฎหมายไปกระทำกิจกรรมทางการเมืองอื่น อันกระทบต่อความสงบเรียบร้อยในบ้านเมือง แต่ทั้งนี้การคงประกาศและคำสั่งดังกล่าวต่อไปอีกระยะหนึ่ง ต้องไม่ทำให้พรรคการเมืองเสียสิทธิและโอกาสตามกฎหมาย จึงเห็นสมควรขยายกำหนดเวลา ตามบทเฉพาะกาล มาตรา 141 แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 ซึ่งกำหนดเวลาดังกล่าวอาจขยายได้อยู่แล้วเป็นกรณี ๆ ไป โดยได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนพรรคการเมือง แต่เพื่อให้ทุกพรรคการเมืองได้รับประโยชน์เสมอกัน จึงควรได้รับการพิจารณาไปพร้อมกัน
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 265 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ประกอบกับมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2557 หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ โดยความเห็นชอบของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จึงมีคำสั่งดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ให้ยกเลิกความในมาตรา 140 , มาตรา 141 และมาตรา 142 แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“มาตรา 140 ให้พรรคการเมืองที่จัดตั้งหรือเป็นพรรคการเมืองตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2550 และยังดำรงอยู่ในวันก่อนวันที่ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญนี้ใช้บังคับ เป็นพรรคการเมืองตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญนี้ และให้คณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองดังกล่าวที่ดำรงตำแหน่งอยู่ในวันก่อนวันที่ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญนี้ใช้บังคับ ซึ่งมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 24 เป็นสมาชิก และยังคงเป็นคณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองนั้นต่อไป และให้สมาชิกซึ่งมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 24 และประสงค์จะเป็นสมาชิกพรรคการเมืองนั้นต่อไป มีหนังสือยืนยันการเป็นสมาชิกต่อหัวหน้าพรรคการเมืองนั้น และชำระค่าบำรุงพรรคการเมืองภายใน 30 วันนับแต่วันที่ 1 เมษายน 2561 เมื่อพ้นกำหนดเวลาดังกล่าว สมาชิกผู้ใดมิได้มีหนังสือแจ้งยืนยันการเป็นสมาชิก ให้เป็นอันพ้นจากสมาชิกของพรรคการเมืองนั้น
มาตรา 141 ให้พรรคการเมืองตามมาตรา 140 ดำเนินการจัดให้มีทุนประเดิมจำนวน 1 ล้านบาท และแจ้งให้นายทะเบียนทราบภายใน 180 วันนับแต่วันที่ 1 เมษายน 2561 จัดให้สมาชิกซึ่งมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม ชำระค่าบำรุงพรรคการเมืองสำหรับปี พ.ศ.2561 ภายในเวลาที่กำหนด จัดให้มีการประชุมใหญ่ เพื่อแก้ไขข้อบังคับและจัดทำคำประกาศอุดมการณ์ทางการเมืองของพรรคการเมืองและนโยบายของพรรคการเมืองให้ถูกต้องตามที่บัญญัติไว้ใน พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญนี้ และเลือกหัวหน้าพรรคการเมือง เลขาธิการพรรคการเมือง เหรัญญิกพรรคการเมือง นายทะเบียนสมาชิก และกรรมการบริหารอื่นของพรรคการเมือง ตามข้อบังคับของพรรคการเมืองที่แก้ไขใหม่ภายใน 90 วันนับแต่วันที่มีการยกเลิกประกาศ คสช.ฉบับที่ 54/2557 เรื่อง ให้ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญบางฉบับมีผลบังคับใช้ต่อไป ลงวันที่ 7 มิถุนายน พ.ศ.2557 และคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 3/2558 เรื่อง การรักษาความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงของชาติ ลงวันที่ 1 เมษายน พ.ศ.2557 การประชุมใหญ่ดังกล่าวนอกจากจะต้องดำเนินการตามข้อบังคับของพรรคการเมืองที่ใช้บังคับอยู่แล้ว ยังต้องมีหัวหน้า สาขาพรรคการเมืองไม่น้อยกว่า 4 สาขา และมีสมาชิกของพรรคการเมืองซึ่งรวมกันแล้วมีจำนวนไม่น้อยกว่า 250 คนเข้าร่วมประชุมและมีสิทธิลงคะแนนเสียงในการแก้ไขข้อบังคับและเลือกหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคด้วย จัดตั้งสาขาพรรคการเมืองและตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดให้ครบถ้วนตามกำหนด
ในกรณีที่คณะกรรมการเห็นว่าพรรคการเมืองไม่สามารถดำเนินการได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด คณะกรรมการอาจมีมติให้ขยายระยะเวลาออกไปได้อีกหนึ่งเท่าของระยะเวลาที่กำหนดไว้ในแต่ละเรื่อง เมื่อครบระยะเวลาพรรคการเมืองที่ไม่สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จก็สิ้นสภาพลง
การวินิจฉัยเรื่องใด ๆ ตามมาตรานี้ที่มีผลกระทบต่อพรรคการเมือง ให้เป็นอำนาจของคณะกรรมการที่จะวินิจฉัย ในกรณีที่พรรคการเมืองไม่เห็นด้วยกับคำวินิจฉัยของคณะกรรมการให้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยได้ภายใน 60 วันนับแต่วันได้รับทราบคำวินิจฉัยของคณะกรรมการ
ข้อ 2 ให้ยกเลิกความในมาตรา 144 แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน “มาตรา 144 ในการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งในการเลือกตั้งทั่วไปครั้งแรกที่มีขึ้น ภายหลังจากวันที่ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญนี้ใช้บังคับ หากพรรคการเมืองใดยังมีสาขาพรรคการเมืองไม่ครบถ้วนตามมาตรา 33 ให้คณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งตามมาตรา 49 ของพรรคการเมืองดังกล่าว จัดให้มีการเลือกตัวแทนสมาชิกเพื่อให้ได้จำนวนที่ยังขาดอยู่ จนครบจำนวน 7 คน ทั้งนี้การเลือกกันเองของหัวหน้าสาขาพรรคการเมืองและตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดหรือการเลือกตัวแทนสมาชิกให้เป็นไปตามข้อบังคับ”
ข้อ 3 ให้ยกเลิกวรรคสองของมาตรา 146 แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560
ข้อ 4 ในการดำเนินการตามมาตรา 140 และมาตรา 141 แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 ห้ามมิให้พรรคการเมืองตามมาตรา 140 จัดให้มีการประชุมใหญ่ รวมทั้งการจัดตั้งสาขาพรรคการเมืองและตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด การประชุมสมาชิกพรรคการเมือง หรือการดำเนินการอื่นใดในทางการเมืองนอกเหนือจากที่กำหนดไว้ในคำสั่งนี้ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจาก คสช. ทั้งนี้ให้นำข้อห้ามตามข้อ 2 แห่งประกาศ คสช.ฉบับที่ 57/2557 ลงวันที่ 7 มิถุนายน พ.ศ.2557 และข้อ 12 แห่งคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 3/2558 ลงวันที่ 1 เมษายน พ.ศ.2558 มาใช้บังคับ
ข้อ 5 เพื่อให้การจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นใหม่สามารถดำเนินการทางธุรการและมีโอกาสเตรียมการเพื่อเข้าสู่ช่วงเวลาการทำกิจกรรมทางการเมืองไปพร้อมกับพรรคการเมืองที่จัดตั้งขึ้นก่อนแล้ว ให้ผู้ที่ประสงค์จะจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นใหม่ดำเนินการตามหมวด 1 ของ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 ได้ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2561 แต่การประชุม เพื่อยื่นคำขอจดทะเบียนจัดตั้งพรรคการเมืองตามมาตรา 10 ต้องได้รับอนุญาตจาก คสช.และให้ดำเนินกิจกรรมได้เท่าที่ได้รับอนุญาตหรือตามเงื่อนไขที่ คสช.กำหนด
ข้อ 6 ให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) หรือนายทะเบียนพรรคการเมืองมีอำนาจกำหนด โดยทำเป็นประกาศ ระเบียบ หรือคำสั่ง แล้วแต่กรณี เพื่อให้เป็นไปตามคำสั่งนี้
ข้อ 7 ในกรณีมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 หรือคำสั่งนี้ ให้หารือ กกต. หรือ คสช.แล้วแต่กรณี
ข้อ 8 เมื่อมีการประกาศ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิก สภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. …. ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ให้คณะรัฐมนตรีแจ้ง คสช.เพื่อพิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมหรือยกเลิกกฎหมาย ประกาศ คสช.หรือคำสั่งหัวหน้า คสช. อันเป็นอุปสรรคต่อการดำเนินการของพรรคการเมือง และร่วมกันจัดทำแผนและขั้นตอนการดำเนินการทางการเมือง เพื่อนำไปสู่การเลือกตั้งทั่วไปที่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ โดยให้หารือกับ กกต. คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และจะเชิญผู้แทนพรรคการเมืองหรือกลุ่มการเมืองต่าง ๆ เข้าหารือด้วยก็ได้
ข้อ 9 คำสั่งนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
สั่ง ณ วันที่ 22 ธันวาคม พ.ศ.2560
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ.- สำนักข่าวไทย