บุรีรัมย์ 12 ธ.ค. – คดีลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 หาย 2 ฉบับ ที่ จ.บุรีรัมย์ มูลค่า 12 ล้านบาท ได้ข้อสรุปแล้วในวันนี้ หลังยืดเยื้อมากว่า 3 เดือน โดยผลตรวจพิสูจน์ DNA และลายนิ้วมือแฝง ไม่พบของหนุ่มบุรีรัมย์ผู้แจ้งความ พบเพียงลายนิ้วมือของเสี่ยเจ้าของปั๊มน้ำมันในจังหวัดร้อยเอ็ด ทุกฝ่ายยอมรับในผลการตรวจพิสูจน์ และจับมือให้อภัยแก่กัน
20 สิงหาคมที่ผ่านมา นายพันธุ์ศักดิ์ เสือชุมแสง หนุ่มวัย 31 ปี ชาวอำเภอนางรอง จ.บุรีรัมย์ ขึ้นโรงพักแจ้งความว่า ลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 จำนวน 2 ฉบับ มูลค่า 12 ล้านบาท หมายเลข 715431 งวดประจำวันที่ 16 สิงหาคม 2560 ถูกขโมยหายไปจากบ้านพัก โดยเด็กวัยรุ่น 14 ปี ที่มักมาฟังเครื่องเสียง จุดที่ลอตเตอรี่หาย ตกเป็นผู้ต้องสงสัย เขาบอกว่า เลข 4 ตัวท้ายตรงกับทะเบียนรถจักรยานยนต์ของเขา ต่อมาปรากฏว่านายวิทยา และนางขวัญศิริ ธนทรัพย์สิน 2 สามีภรรยาชาวจังหวัดร้อยเอ็ด เจ้าของปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง เป็นคนนำลอตเตอรี่ 2 ฉบับที่นายพันธุ์ศักดิ์แจ้งความ และเลขเดียวกันอีก 1 ฉบับ ไปขึ้นเงินรางวัลรวม 18 ล้านบาท ทำให้สังคมส่วนหนึ่งเชื่อว่าทั้งคู่เป็นคนขโมยลอตเตอรี่
ขณะที่นายสุวัช จันทร์พลาง คนขายลอตเตอรี่ ที่เดิมมั่นใจว่านายพันธุ์ศักดิ์เป็นคนซื้อลอตเตอรี่ที่ถูกรางวัล พอได้พบเสี่ยร้อยเอ็ดในเวลาต่อมากลับไม่มั่นใจว่าใครเป็นเจ้าของตัวจริง
การสอบสวนพยานแวดล้อมรวมทั้งวัยรุ่นต้องสงสัยก็ไม่พบความผิดปกติ ตำรวจ สภ.นางรอง ยังหาข้อสรุปไม่ได้ จึงประสานสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลนำลอตเตอรี่ฉบับปัญหามาให้กองพิสูจน์หลักฐานตรวจหา DNA และลายนิ้วมือแฝง กระทั่งได้ผลสรุปมาแจ้งให้คู่กรณีทราบในวันนี้ เพราะไม่พบร่องรอยหลักฐานของนายพันธุ์ศักดิ์ปรากฏบนลอตเตอรี่แต่อย่างใด มีเพียงลายนิ้วมือของนายวิทยาเท่านั้น จึงสรุปว่านายวิทยาเป็นเจ้าของตัวจริง หลังยือเยื้อมานานกว่า 3 เดือน ส่วนจะเข้าข่ายแจ้งความเท็จหรือไม่ ตำรวจเชื่อว่าเป็นความเข้าใจผิด นายพันธุ์ศักดิ์ไม่มีเจตนา จึงไม่เข้าองค์ประกอบความผิด เมื่อเจ้าตัวยอมรับผลการตรวจพิสูจน์ คดีแจ้งความลอตเตอรี่หายก็เป็นอันสิ้นสุด โดยจะสรุปสำนวนส่งให้พนักงานอัยการพิจารณาต่อไป
จากผลตรวจพิสูจน์ดังกล่าว เสี่ยร้อยเอ็ดไม่ติดใจเอาความ และพร้อมให้อภัยหนุ่มบุรีรัมย์ ซึ่งเจ้าตัวยกมือไหว้ขอโทษที่เข้าใจผิด และจับมือปรับความเข้าใจเป็นมิตรกัน
ใครที่เสี่ยงโชคหวังเงินก้อนโตจากลอตเตอรี่ พยายามเก็บหลักฐานไว้ให้ดี เป็นคำเตือนจากเสี่ยร้อยเอ็ดที่ต้องพิสูจน์ตัวเองกว่า 3 เดือน จึงรอดพ้นการเป็นจำเลยสังคม พร้อมฝากถึงคู่กรณีหวยอลเวง 30 ล้าน ที่กาญจนบุรีว่า อยากให้อยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง อย่ามีความโลภในสิ่งที่ไม่ใช่ของตัวเอง. – สำนักข่าวไทย