จับเมียนมาร์รับโอนเงินค้ายา มียอดหมุนเวียนในบัญชีปีละไม่ต่ำหมื่นล้าน

กทม.29 พ.ย.- หญิงเมียนมาร์ ปัด เปิดบัญชีให้ขบวนการค้าเสพติดโอนเงินผ่านก่อนโอนต่อไปเมียนมาร์ แต่ ผบช.ปส.ยันมีหลักฐานชัด โอนมากว่า 10 ปี ยอดเงินหมุนวียนในบัญชีปีละไม่ต่ำ10,000 ล้านบาท  


พลตำรวจโทสมหมาย กองวิสัยสุข ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด หรือ ปส.นำกำลังปฏิบัติการชัยยะสยบไพรี 61/1 “ทำลายต้นไม้พิษ เสือสิ้นลาย” เข้าจับกุมนางมินท์ เตง เอ  อายุ 41 ปี ชาวเมียนมาร์ ตามหมายจับศาลอาญาข้อหา “สนับสนุนหรือช่วยเหลือผู้กระทำผิดก่อนหรือขณะกระทำความผิด โดยเปิดบัญชีรับเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดจากผู้กระทำผิดเพื่อประโยชน์ หรือให้ความสะดวกแก่การกระทำความผิด หรือเพื่อมิให้ผู้กระทำความผิดถูกลงโทษ”ริมถนนกำแพงเพชร 6 ใกล้สำนักงาน ป.ป.ส.หลักสี่ หลังทางมาชี้แจงทรัพย์สินที่ถูกอายัดไว้ตรวจสอบ


โดยชุดสืบสวนเฝ้าสังเกตพฤติกรรมและหาข่าวจนพบว่าตลอด 3 ปีที่ผ่านมา กลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดโอนเงินจากการค้ายา ไปยังบัญชีที่อยู่ในประเทศเมียนมาร์ เฉลี่ยวันละเกือบ 50 ล้านบาท ก่อนโอนกระจายไปยังผู้เกี่ยวข้อง ทั้งยังพบเงินหมุนเวียนในบัญชีของกลุ่มขบวนการดังกล่าวกว่า 10,000 ล้านบาท  และพบว่ากลุ่มของ น.ส.มิ้นท์ เทียน เอ้ ยังมีพวกอีก 3 คน ซึ่งถือเป็น หนึ่งในขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่ของประเทศเพื่อนบ้านที่ส่งยามาขายประเทศไทย

นางมินท์ เตง เอ อ้างว่า เดินทางมาประเทศไทยเพื่อรักษาอาการป่วย ก่อนหน้านี้ทำธุรกิจแลกเปลี่ยนเงินตราทั้งฝั่งไทยและเมียนมาร์ มีเงินหมุนเวียนในบัญชีแค่วันละ 1,000,000 -2,000,000 บาทเท่านั้น ยืนยันไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด 

พลตำรวจโทสมหมาย ระบุว่า ผู้ต้องหาเป็นเจ้าของบัญชีรับโอนเงินจากเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ในประเทศไทย ก่อนโอนไปยังโรงงานผลิตยาที่เมียนมาร์ ทำในลักษณะนี้มากว่า 10 ปี มีเงินหมุนเวียนในบัญชีแต่ละปีไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท  โดยนำเงินดังกล่าวไปฟอกด้วยการเปิดร้านจิวเวลรี่ ร้านทอง และโรงแรมทั้งในฝั่งไทยและเมียนมาร์บังหน้า โดยมีผู้ร่วมขบวนการอีก 3 ราย ซึ่งถูกออกหมายจับแล้ว และกำลังเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดี.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สั่งย้ายครูแบทแมน

สั่งเด้ง “ครูแบทแมน” ถ่ายคลิปไม่เหมาะสมในโรงเรียน

กัน จอมพลัง บุก ก.ศึกษาธิการ ร้องเอาผิดครูชายสวมหน้ากากแบทแมน ถ่ายคลิปไม่เหมาะสมในโรงเรียน จ.อุทัยธานี ล่าสุดสั่งย้าย “ผอ.โรงเรียน-ครูแบทแมน” เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง ด้าน “สส.ชาดา-กัน จอมพลัง” ลงพื้นที่ ขีดเส้นตายสอบเอาผิด

แม่อดีตครูสาว ยังติดใจสาเหตุ หลังพบศพในรถลานจอด รพ.

“น้องกิ๊ฟ” อดีตครูหายตัวไปเกือบ 1 เดือน พบอีกทีเป็นร่างไร้วิญญาณในรถยนต์บนลานจอดของโรงพยาบาล ญาติยังติดใจสาเหตุวอนตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิด ไขข้อสงสัย

สั่งจำคุก “อัจฉริยะ” 2 เดือน ไม่รอลงอาญา คดีละเมิดอำนาจศาล

ศาลอาญาสั่งจำคุก “อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์” 2 เดือน ไม่รอลงอาญา ฐานละเมิดอำนาจศาล เผยแพร่เอกสารสรุปย่อคำพิพากษาต่อสื่อมวลชนโดยไม่ได้รับอนุญาต

ข่าวแนะนำ

นายกฯ เรียก “รมต.จิราพร-ผบ.ตร.” ถกปราบบุหรี่ไฟฟ้า

“แพทองธาร” นายกฯ เรียก “รมต.จิราพร-ผบ.ตร.” ประชุมปราบปราม “บุหรี่ไฟฟ้า” ขีดเส้น 30 วัน ดำเนินการให้เด็ดขาด สั่งเข้มห้ามขายใกล้สถานศึกษา ต้องจัดการผู้นำเข้า

รถบัสดูงานคว่ำ

เร่งหาสาเหตุรถบัสคณะดูงานบึงกาฬ พลิกคว่ำทางลงเขาศาลปู่โทน

เจ้าหน้าที่เร่งกู้ซากรถบัสคณะดูงานเทศบาลบึงกาฬ เสียหลักพลิกคว่ำบริเวณทางลงเขาศาลปู่โทน จ.ปราจีนบุรี ทำให้มีผู้เสียชีวิต 18 คน บาดเจ็บอีกจำนวนมาก พร้อมเร่งหาสาเหตุของอุบัติเหตุ หลังมีรายงานว่าตอนลงเขารถบัสใช้ความเร็วเกิน 100 กม./ชม.

ดราม่ายิว

“มท.1” ลงพื้นที่โบสถ์ชาบัด ด้านผู้นำศาสนายูดาห์ ลั่นไม่เคยคิดยึดปาย

“มท.1” ลงพื้นที่โบสถ์ชาบัด เมืองปาย หลังมีกระแสข่าวชาวอิสราเอลตั้งถิ่นฐาน-ก่อความวุ่นวาย ด้านผู้นำศาสนายูดาห์ ลั่นประเทศไทยเป็นของคนไทย ไม่เคยคิดยึดปาย รับเสียใจคนเข้าใจผิด ทั้งที่คนอิสราเอลชอบประเทศไทยและคนไทย

รถบัสคว่ำ

รถบัสดูงานจากบึงกาฬ พลิกคว่ำดับ 18 – คนขับอ้างไม่ชินทาง

รถบัสทัศนศึกษาดูงานจากบึงกาฬ พลิกคว่ำทางลง “เขาศาลปู่โทน” ปราจีนฯ เสียชีวิต 18 คน บาดเจ็บกว่า 30 คน เบื้องต้นคนขับอ้างไม่ชินทาง