กรุงเทพฯ 21 พ.ย.-สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ เผยยังมีอีกหลายเกมที่ส่อไปในทางล็อกผลการแข่งขัน โดยหากมีการพาดพิงบุคคลใดเพิ่มเติม ก็จะรวมหลักฐานดำเนินคดีอีก และเตรียมแบนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ตลอดชีวิต
วันนี้ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ร่วมกันแถลงข่าวปราบขบวนการล้มบอลไทย หลังจากได้มีการจับกุมผู้เกี่ยวข้อง 12 คน เป็นนักฟุตบอล 5 คน คือ สุทธิพงษ์ เหลาพร, ณรงค์ วงษ์ทองคำ, สุวิทยา นำสินหลาก, เสกสันต์ ชาวทองหลาง 4 ผู้เล่นสังกัดราชนาวี เอฟซี, วีระ เกิดพุดซา ผู้รักษาประตูทีมนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ผู้ตัดสิน 2 คน คือ นายภูมิรินทร์ คำรื่น กรรมการตัดสินฟีฟ่า, ธีรจิตร สิทธิศุข ผู้ช่วยผู้ตัดสิน และนายทุนอีก 5 คน คือ นายเชิดศักดิ์ บุญชู ผู้อำนวยการสโมสรศรีสะเกษ เอฟซี, นายวัลลภ สมาน, นายกิตติภูมิ ปาภูงา, นายมานิตย์ หรือเศรษฐปสิทธิ์ โกมลวัฒนะ, นายภาคภูมิ พันธ์นิกุล ตามหมายจับของศาลอาญาในข้อหาร่วมกันให้ ขอให้รับว่าจะให้ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด แก่นักกีฬาอาชีพ หรือผู้อื่นเพื่อจูงใจให้นักกีฬา กระทำการล้มกีฬา และเพื่อจูงใจให้ผู้ตัดสินทำการตัดสินไม่เป็นไปตามระเบียบหรือกติกาการแข่งขันฯ ซึ่งเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติส่งเสริมกีฬาอาชีพ พ.ศ.2556
พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า ได้ทำงานร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติมาเกือบ 1 ปี โดยร่วมกับบริษัทสปอร์ตเรด้า ที่เชี่ยวชาญด้านนี้ โดยการล้มบอลในวงการฟุตบอลไทยมีมานานแล้วเป็น 10 ปี แต่ไม่มีการแก้ไข ซึ่งหลังจากนี้ หากมีหลักฐาน หรือมีการพาดพิงไปถึงใครอีก ก็จะมีการดำเนินคดีอีก ยังมีอีกหลายคู่แข่งขันในเกมลีก ที่บริษัทสปอร์ตเรด้าเห็นว่ามีความผิดปกติ อีกทั้งกำลังดูข้อบังคับของสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ว่าสามารถห้ามลงแข่งขัน หรือทำหน้าที่ในวงการฟุตบอลได้ตลอดชีวิตหรือไม่ ถ้าทำได้ก็ต้องทำ แต่ตอนนี้ต้องห้ามลงแข่ง หรือทำหน้าที่ไปก่อน พล.ต.อ.สมยศ ยังกล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตามบางสโมสรอาจจะไม่มีส่วนรู้เห็น ก็จำต้องให้ความยุติธรรมด้วย
พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า ได้มีการรวมหลักฐานอยู่นาน ดูเส้นทางการเงิน โดยผูู้ต้องหาทั้ง 12 คน โดนจับมาสอบสวนหมดแล้ว และมีการประกันตัวออกไป จากนี้ต้องเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป
ทั้งนี้ พระราชบัญญัติส่งเสริมกีฬาอาชีพ พ.ศ.2556 ได้ระบุโทษทางอาญาเกี่ยวกับการล้มกีฬาไว้ว่า มาตรา 64 ผู้ใดให้ ขอให้ หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่นักกีฬาอาชีพหรือผู้อื่น เพื่อจูงใจให้ล้มกีฬา ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับตั้งแต่ 200,000-500,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
มาตรา 65 ผู้ใดเรียกรับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด สําหรับตนเองหรือผู้อื่นเพื่อให้ล้มกีฬา ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับตั้งแต่ 200,000-500,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
มาตรา 66 ผู้ใดให้ขอให้หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่ผู้ตัดสิน หรือผู้อื่น เพื่อจูงใจให้ผู้ตัดสินทําหน้าที่ตัดสินไม่เป็นไปตามกติกา ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับตั้งแต่ 200,000-500,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
มาตรา 67 ผู้ตัดสินใดเรียกรับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด สําหรับตนเองหรือผู้อื่น เพื่อทําหน้าที่ตัดสินไม่เป็นไปตามกติกา ต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่ 1-10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 300,000-600,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
ด้านนายเทวัญ ลิปตพัลลภ ประธานสโมนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ได้ออกมาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่า สโมสรไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ในเรื่องนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้สโมสรเองก็ตั้งข้อสังเกตมาตลอดว่าในช่วงท้ายฤดูกาล ทำไมสโมสรถึงได้เสียประตูในช่วง 5 นาทีสุดท้ายบ่อยมาก และทีมก็จะแพ้ในช่วงท้ายเกมตลอด แต่ก็ไม่ได้คิดถึงประเด็นการล้มบอล จนเพิ่งทราบข่าวเมื่อช่วงเช้านี้เอง ดังนั้น สโมสรก็จะมีมาตรการให้ผู้รักษาประตูรายนี้ออกจากสโมสรทันที พร้อมดำเนินคดีทางแพ่งและอาญา หากผิดจริงตามข้อมูลที่สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ และตำรวจแจ้งดำเนินคดี.-สำนักข่าวไทย