กรุงเทพฯ 6 พ.ย. – รัฐบาลเดินหน้าผลักดันเอสเอ็มอี มอบหมาย 3 แบงก์รัฐจับมือกับทำงาน ช่วยเหลือเอสเอ็มอีอย่างเต็มที่
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนรี กล่าวปาฐกถาพิเศษ และเปิดการสัมนาโครงการบริหารความเสี่ยงFX ของ SMEs ว่า ในช่วงเวลาที่เหลืออีก 1 ปีของรัฐบาลชุดนี้ จะเน้นให้ความสำคัญกับผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม ( SMEs ) โดยจะSMEs เป็นหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ หรือ SMEs Focus Economy เนื่องจากผู้ประกอบการส่วนใหญ่ของไทยเป็น SMEs กว่าร้อยละ40 ของจีดีพี ซึ่ง2 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลได้อนุมัติสินเชื่อเพื่อช่วย SMEs กว่า 200,000 ล้านบาท และ ค้ำประกันสินเชื่อ SMEs อีก 200,000ล้านบาท
นอกจากนี้ยังได้สั่งให้ธนาคารเพื่อการพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย หรือ เอสเอ็มอีแบงก์ ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย( Exim Bank ) บูรณาการการทำงานร่วมกัน โดยให้มีการปรับโครงสร้างเอสเอ็มอีแบงก์ ครั้งใหญ่ เพิ่มบุคคลากร เทคโนโลยี เพื่อวิเคราะห์ ประเมินผล และ อนุมัติสินเชื่อได้ทันทีในพื้นที่ โดยไม่ต้องส่งเรื่องขออนุมัติที่สำนักงานใหญ่ เพื่อให้SMEs ได้มีเงินทุนได้อย่างรวดเร็ว เพราะปัจจุบันเอสเอ็มอีแบงก์มีเพียง 90 สาขาทั่วประเทศ ซึ่งไม่เพียงพอต่อการให้บริการ ดังนั้นจึงสั่งให้ธนาคารออมสิน จัดตั้งศูนย์เอสเอ็มอีที่สาขาทั่วประเทศ เพื่อให้สินเชื่อและให้คำแนะนำในการทำธุรกิจ มาเสริมทัพอีกทางหนึ่ง ขณะที่Exim Bank ต้องสนับสนุนให้SMEs ที่ต้องการนำเข้าและส่งออก สามารถออกทำธุรกิจต่างประเทศได้
นายสมคิด กล่าวว่า ขอให้ธนาคารแห่งประเทศไทย และธนาคารพาณิชย์ เข้ามาร่วมในการสร้างความเข้มแข็งให้SMEs โดยให้มีจัดแพ็กเก็จสินเชื่อ และฝึกอบรม ให้ความรู้เรื่องการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน การบริหารความเสี่ยงด้านการค้าระหว่างประเทศ หลักบัญชีและภาษีเบื้องต้น เป็นต้น เพื่อให้ SMEsรู้จักการใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยง โดยจะช่วยให้ SMEs ปรับตัวให้ทันกับเศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัว และให้ทันกับเทคโนโลยีดิจิทัลที่กำลังเปลี่ยนแปลง
“รัฐบาลต้องการให้ปีนี้ ทางแบงค์รัฐและแบงค์เอกชนให้ความสำคัญกับSMEs โดยให้ทุ่มเทการพัฒนาให้กับSMEs ให้ปรับตัวทันกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงสู่โลกยุคดิจิตัลไม่ใช่แค่ให้สินเชื่ออย่างเดียว แบงก์เอกชนอาจจะต้องยอมลดกำไรลงบ้าง ขณะที่แบงก์รัฐก็ต้องเน้นSMEs ไม่ใช่ไปแข่งกับแบงก์เอกชนที่มุ่งเน้นปล่อยสินเชื่อรายใหญ่”นายสมคิด กล่าว
ด้านนายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย และ กรรมการผู้จัดการธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ธนาคารพาณิชย์พร้อมให้การสนับสนุนSMEs ตามที่รองนายกรัฐมนตรีได้มอบหมาย โดยจะจัดการอบรมให้SMEsที่เข้าร่วมอีก 30 ครั้ง ทั่วประเทศภายในปีนี้ และSMEsที่เข้าร่วมโครงการบริหารความเสี่ยงFX จะได้สิทธิ์ทดลองใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงประเภท FX Options คือการซื้อสิทธิ์ในการล็อคเรท (อัตราแลกเปลี่ยน) ไว้ล่วงหน้า ซึ่งผู้ซื้อสิทธิ์สามารถเลือกที่จะใช้สิทธิ์ หรือไม่ใช้สิทธิ์ก็ได้ คาดว่าจะช่วยเหลือSMEs จำนวน 17,000 ราย วงเงินอัตราแลกเปลี่ยน ประมาณ 56,000 ล้านบาท
สำหรับโครงการบริหารความเสี่ยงFX ของ SMEs เป็นความร่วมมือระหว่างธนาคารแห่งประเทศไทย กระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย หรือ สสว. สมาคมธนาคารไทย ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย หรือ Exim bank และธนาคารพาณิชย์ 8 แห่ง คือ ธ.กรุงเทพ ธ.กรุงไทย ธ.กรุงศรีอยุธยา ธ.กสิกรไทย ธ.ซีไอเอ็มบี ไทย ธ.ทหารไทย ธ.ไทยพาณิชย์ และ ธ.ยูโอบี จะให้ความรู้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี โดยเฉพาะในกลุ่มผู้นำเข้า-ส่งออกที่มีรายได้ไม่เกิน 400 ล้านบาท ที่เป็นสมาชิกของสสว. โดยจะพิจารณา SMEs ที่มีรายได้ไม่เกิน 100 ล้านบาทต่อปี เป็นลำดับแรก.-สำนักข่าวไทย