รัฐสภา 1 พ.ค. – “สว.ภิญญาพัชญ์” ชื่นชม “แรงงานไทย” มีบทบาทสำคัญช่วยเสริมสร้างเศรษฐกิจ ชี้ปี 68 คนใช้แรงงานต้องเผชิญความท้าทาย เชื่อสงครามการค้า-กำแพงภาษี มีผล หนุนภาครัฐพัฒนาทักษะ แนะพิจารณามาตรการ-สิทธิประโยชน์ หลังหลายองค์กรจ้าง “แรงงานสูงอายุ” คัมแบ็ก
น.ส.ภิญญาพัชญ์ ศันสนียชีวิน สมาชิกวุฒิสภา (สว.) กล่าวถึงวันแรงงานแห่งชาติ ประจำปี 2568 ว่าตนขอร่วมเฉลิมฉลองและแสดงความชื่นชมต่อแรงงานไทย ซึ่งเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ พร้อมย้ำว่าวันแรงงานไม่ใช่เพียงวันแห่งการเฉลิมฉลอง แต่ยังเป็นโอกาสในการตระหนักถึงคุณค่าของผู้ใช้แรงงาน และบทบาทสำคัญของแรงงานในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมไทย
น.ส.ภิญญาพัชญ์ กล่าวต่อว่า ปี 2568 เป็นปีที่ภาคแรงงานไทยต้องเผชิญกับความท้าทายหลายด้าน โดยเฉพาะผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ผันผวน ซึ่งได้เริ่มส่งสัญญาณมาตั้งแต่ 2-3 ปีก่อน ไม่ว่าจะเป็นการปิดตัวของบางอุตสาหกรรม หรือการเลิกจ้างพนักงานจำนวนมาก ปัจจัยอย่างสงครามการค้า และอุปสรรคด้านการเจรจาการค้าระหว่างประเทศ โดยเฉพาะกำแพงภาษี ล้วนส่งผลกระทบต่อแรงงานไทยในระยะยาว ซึ่งอาจยืดเยื้อไปอีก 4-5 ปีข้างหน้า
ด้วยเหตุนี้ภาครัฐจึงจำเป็นต้องเร่งดำเนินการเชิงรุก เพื่อป้องกันมิให้สถานการณ์ลุกลาม โดยเฉพาะการรับฟังข้อเสนอจากองค์กรแรงงาน เช่น การปรับปรุงสภาพแวดล้อมการทำงานให้ปลอดภัยและเป็นธรรม ตลอดจนการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของแรงงานผ่านระบบประกันสังคมที่ครอบคลุมมากขึ้น
“ตนขอสนับสนุนการพัฒนาทักษะและศักยภาพของแรงงานไทย รวมถึงการจัดหางานที่เหมาะสม เพื่อให้แรงงานไทยสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งมีคุณภาพชีวิตที่ดีและมั่นคง” น.ส.ภิญญาพัชญ์ กล่าว
น.ส.ภิญญาพัชญ์ กล่าวด้วยว่า ท่ามกลางโครงสร้างประชากรที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว สังคมไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ ซึ่งส่งผลต่อระบบแรงงานในระยะยาว ปีนี้หลายองค์กรเริ่มมีแนวโน้มขยายอายุเกษียณ หรือเปิดรับผู้สูงอายุให้กลับมาทำงานอีกครั้ง ถือเป็นทิศทางเชิงบวกที่ควรได้รับการส่งเสริมอย่างจริงจัง
“ผู้สูงอายุจำนวนมากยังมีศักยภาพ มีประสบการณ์ และสามารถเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่าให้กับองค์กรและสังคม หากได้รับโอกาสในการทำงานที่เหมาะสมกับสุขภาพและความสามารถ” น.ส.ภิญญาพัชญ์ กล่าว
น.ส.ภิญญาพัชญ์ เสนอแนะว่า ภาครัฐและภาคเอกชนควรเตรียมความพร้อมในการสร้างระบบสนับสนุน เช่น การจัดตำแหน่งงานที่เหมาะกับผู้สูงอายุ การปรับปรุงสภาพแวดล้อมการทำงานให้ปลอดภัย รวมถึงส่งเสริมให้มีการฝึกอบรมทักษะใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้สูงอายุสามารถปรับตัวและทำงานได้อย่างมั่นใจ
น.ส.ภิญญาพัชญ์ ย้ำว่า รัฐบาลควรพิจารณามาตรการภาษีหรือสิทธิประโยชน์จูงใจให้นายจ้างจ้างงานผู้สูงอายุมากขึ้น พร้อมขยายสิทธิประกันสังคมให้ครอบคลุมแรงงานกลุ่มนี้ เพื่อส่งเสริมให้ผู้สูงอายุสามารถมีคุณภาพชีวิตที่ดี และยังคงมีบทบาททางเศรษฐกิจและสังคมได้อย่างมีศักดิ์ศรี
“เมื่อแรงงานทุกวัยได้รับการดูแลอย่างเท่าเทียม ทั้งแรงงานวัยหนุ่มสาวและแรงงานผู้สูงอายุ เราจะมีระบบเศรษฐกิจที่เข้มแข็ง และสังคมที่เป็นธรรมมากยิ่งขึ้น” น.ส.ภิญญาพัชญ์ กล่าวสรุป.-319-สำนักข่าวไทย