พบเครือข่ายลักลอบนำเข้าฝุ่นแดงกว่า 10,000 ตัน

ชลบุรี 25 มี.ค. – กระทรวงอุตสาหกรรม พบเครือข่ายลักลอบนำเข้าฝุ่นแดงกว่า 10,000 ตัน โดยสำแดงเท็จเป็นฝุ่น และผงสังกะสี คาดทำเป็นขบวนการ สั่งตั้งกรรมการสอบฯ และเร่งขยายผล


นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ได้รับรายงานว่า พบการปลอมแปลงเอกสารของทางราชการเพื่อใช้เป็นใบเปิดทางในการนำเข้าฝุ่นแดงจากต่างประเทศเข้ามายังประเทศไทยโดยผิดกฎหมาย จึงได้สั่งการให้ “ทีมตรวจการสุดซอยกระทรวงอุตสาหกรรม” ลงพื้นที่ตรวจสอบ บริษัท เคเอ็มซี 1953 จำกัด พบว่า บริษัทดังกล่าวเป็นผู้นำเข้าและยอมรับว่ามีการนำเข้าฝุ่นแดงจริง พร้อมแสดงข้อมูลใบขนสินค้าระหว่างเดือนกรกฎาคม 2567 – มกราคม 2568 จำนวนการนำเข้า 33 ใบขน โดยสำแดงเป็นฝุ่นสังกะสี (Zinc dust) และผงสังกะสี (Zinc concentrate) จำนวน 10,262 ตัน จากประเทศอินโดนีเซีย เม็กซิโก แอฟริกาใต้ โรมาเนีย โมร็อคโก และตุรกี โดยจากการตรวจสอบพบว่าสินค้าที่สำแดงว่าเป็นฝุ่นและผงสังกะสี คือ “ฝุ่นแดง” เป็นกากอุตสาหกรรมที่เกิดจากกระบวนการหลอมเหล็ก มีการปนเปื้อนด้วยโลหะหนัก เข้าข่ายเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 ที่เป็นของเสียเคมีวัตถุตามบัญชี 5.2 ของประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง บัญชีรายชื่อวัตถุอันตราย พ.ศ. 2556 รวมทั้งเข้าข่ายเป็นของเสียอันตรายตามอนุสัญญาบาเซล การนำเข้ามาในประเทศไทยต้องได้รับอนุญาตจากกรมโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นหน่วยงานผู้มีอำนาจ (Competent Authority : CA) ของประเทศไทยเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ไม่มีการขออนุญาตและไม่ได้รับอนุญาตให้นำเข้าฝุ่นแดง แต่พบมีการปลอมแปลงเอกสารของสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรี ด้วยการแก้ไขและดัดแปลงข้อความว่า สินค้าที่นำเข้านั้นไม่เข้าข่ายเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 และไม่เข้าข่ายเป็นของเสียอันตรายตามอนุสัญญาบาเซล โดยการนำหนังสือที่ปลอมแปลงนั้นไปแสดงเพื่อใช้เป็นใบเปิดทางในการนำเข้าฝุ่นแดงจากต่างประเทศเข้ามายังประเทศไทยโดยไม่ต้องขออนุญาต ซึ่งผิดกฎหมาย คาดว่าการดำเนินการในลักษณะดังกล่าวมีการวางแผนทำกันเป็นขบวนการ โดยอาจมีเจ้าหน้าที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการดังกล่าวด้วย


ทีมตรวจการสุดซอยกระทรวงอุตสาหกรรมตรวจสอบเพิ่มเติม พบว่าหนังสือราชการที่ออกโดยสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรี ตอบข้อหารือของกรมศุลกากร ในประเด็นสินค้าที่จะนำเข้า เข้าข่ายเป็นวัตถุอันตรายหรือของเสียอันตรายตามอนุสัญญาบาเซลหรือไม่ มีความผิดปกติในหลายประเด็น อาจส่งผลให้มีการนำเข้าขยะและของเสียอันตรายเข้ามาสู่ประเทศไทยโดยผิดกฎหมาย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมจึงสั่งการให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้รายงานผลการตรวจสอบภายใน 15 วัน หากพบว่า เจ้าหน้าที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดให้ดำเนินการลงโทษขั้นเด็ดขาด พร้อมทั้งสั่งการให้ขยายผลขบวนการปลอมแปลงเอกสารราชการเพื่อใช้ในการลักลอบนำเข้าของเสียอันตรายโดยไม่ถูกต้อง หากเชื่อมโยงถึงผู้ใดให้ดำเนินคดีทั้งหมด. -517-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สามีเข้าเกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาดับ

สลด! สามีขับรถใส่เกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาเสียชีวิตในบ้านพักย่านวิภาวดี ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การเบื้องต้น นำตัวสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง

คุมฝากขัง “เอ็ม เอกชาติ” เจ้าตัวปิดปากเงียบ

ตร.ไซเบอร์คุมตัว “เอ็ม เอกชาติ” ฝากขัง เจ้าตัวปิดปากเงียบ ไม่ตอบคำถามสื่อ ด้านตำรวจพบเส้นทางการเงินจากเว็บพนัน กว่า 30 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

บกปภ.ช. แถลงความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือเหตุแผ่นดินไหว

บกปภ.ช. แถลงความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือเหตุแผ่นดินไหว สั่งพื้นที่เร่งสำรวจและให้ความช่วยเหลือ หากงบประมาณไม่เพียงพอให้ขอขยายวงเงินทันที ด้านอาคารที่ถล่มได้ส่งทีม USAR Thailand สลับกำลังเพิ่มเติม

นายกฯ กล่าวในวันอีฎิ้ลฟิตริ ฮ.ศ.1446 ส่งความปรารถนาดีชาวไทยมุสลิม

นายกรัฐมนตรี กล่าวในวันอีฎิ้ลฟิตริ ฮ.ศ.1446 ส่งความรัก ความปรารถนาดียังชาวไทยมุสลิมทุกคน ชื่นชมศรัทธาที่เข้มแข็ง ความอดทน อดกลั้น ความมุ่งมั่น เสียสละ

เร่งปฏิบัติการค้นหาผู้รอดชีวิตจากใต้ซากอาคาร สตง.

ปฏิบัติการค้นหาผู้ติดใต้ซากอาคาร สตง. ยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผ่านมาเกือบ 54 ชั่วโมงแล้ว ตอนนี้ยังไม่พบผู้รอดชีวิตเพิ่ม ส่วนยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดเพิ่มเป็น 11 รายแล้ว

สตง.ตั้งศูนย์ประสานงานช่วยผู้ประสบภัยตึกถล่มจากแผ่นดินไหว

สตง. เร่งตั้งศูนย์ประสานงานเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยและผู้ได้รับผลกระทบ จากกรณีอาคารที่ทำการสำนักงานแห่งใหม่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว พร้อมยืนยันกระบวนการดำเนินโครงการฯ เป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย