สำนักงาน ป.ป.ช.-ป.ป.ช. แจงตั้งไต่สวนคดี สว.ร้องสอบ “ทวี-อธิบดีดีเอสไอ” หรือไม่ อยู่ที่หลักฐาน คาดไม่เกิน 1 ปี ยันไม่กดดัน รับหลายเรื่องเผือกร้อนการเมือง ระบุต้องจัดการเร็วให้สังคมกระจ่าง
นายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ยื่นให้ตรวจสอบการทำหน้าที่ของพันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมและอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษกรณีคดีฮั้ว สว.ว่า ทุกคดีมีขั้นตอนในการดำเนินการ เมื่อมีการกล่าวหามาก็ต้องมีการตรวจรับ หากเห็นว่าอยู่ในอำนาจ ของ ป.ป.ช. เช่นเป็นการกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่กระทำผิดต่อหน้าที่ เราก็จะรับดำเนินการ ส่วนจะมีความผิดหรือไม่ เป็นขั้นตอนต่อไปคือการตรวจสอบ แต่เนื่องจากคดีนี้เป็นที่สนใจของประชาชน เราก็รายงานคณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้ทราบ ว่ามี สว.มายื่นร้องเรียน ซึ่งจากนั้นจะเป็นเรื่องของสำนักงานในการตรวจสอบต่อไป แต่เรื่องนี้มีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนว่าการรับทราบคือการ ตั้งคณะไต่สวน โดยยืนยันว่ายังไม่ได้ดำเนินการ และการดำเนินการจะเหมือนคดีทั่วไป
เมื่อถามว่าต้องใช้เวลาอีกนานเท่าไรจึงจะตั้งคณะกรรมการไต่สวน นายสาโรจน์ กล่าวว่า ชั้นตรวจสอบเรามีมาตรฐานกำหนด ว่าควรจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 180 วัน หรืออย่างช้าสุดไม่ควรเกิน 1 ปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรายละเอียด ว่ามีความยุ่งยากซับซ้อนหรือไม่ รวมถึงข้อมูลในทุกแง่มุมที่จะมาประกอบการไต่สวนว่ามีมูลหรือไม่
เมื่อถามว่าหนักใจหรือไม่ ที่หลายคดีเผือกร้อนทางการเมือง อยู่ในมือ ป.ป.ช. ขณะนี้นายสาโรจน์กล่าวว่า สำนักงาน ป.ป.ช. มีหน้าที่ ในการตรวจสอบไต่สวน เรื่องที่อยู่ในอำนาจของกรรมการ ป.ป.ช. ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือเจ้าหน้าที่ระดับสูง ดังนั้นประชาชนและสื่อมวลชน จะโฟกัสมาที่ ป.ป.ช. ว่าจะพิจารณาอย่างไร และจะเร็วหรือไม่ ป.ป.ช. เหมือนโดนจับจ้องอยู่ตลอดเวลา นอกจากนี้เรื่องที่กล่าวหามามักจะมี 2 มุมมาโดยตลอด ส่วนตัวคิดว่าบรรยากาศก็ไม่ได้ต่างจากที่ผ่านมา เพียงแต่ช่วงนี้มีคดีที่ประชาชนให้ความสนใจเข้ามาถี่ จนโดนสังคมเร่งรัดและตั้งคำถาม ยืนยันไม่ได้ถูกกดดัน เป็นภาวะปกติของการทำหน้าที่ และที่สำคัญคือเราต้องตั้งหลักในการทำหน้าที่ ให้เป็นไปตามพยานหลักฐาน และข้อกฎหมาย รวมถึงข้อเท็จจริง ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร ก็ต้องอธิบายต่อสังคมได้ แต่สิ่งที่ต้องเพิ่มขึ้นมา คือความรวดเร็ว เป็นเรื่องที่เราต้องบริหารจัดการ.-319.-สำนักข่าวไทย