พิษณุโลก 7 มี.ค.- พาณิชย์ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ข้าวปรัง จ.พิษณุโลก ให้กำลังใจชาวนาช่วยแก้ปัญหาราคาข้าว ย้ำปัญหาสินค้าเกษตรเป็นภารกิจหลัก ด้านเกษตรร้องถามหาคนให้ปลูกกล้วย ก่อนรับฟังคำชี้แจงระบุเป็นทางเลือก เพื่อปรับเปลี่ยนผลผลิตให้ตรงกับความต้องการของตลาด
นายวรวงศ์ รามางกูร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจํากระทรวงพาณิชย์ นายคุณากร ปรีชาชนะชัย ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายจิรวัฒน์ อรัณยกานนท์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วยผู้บริหารกรมการค้าภายใน ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ข้าวเปลือกนาปรังในพื้นที่ จังหวัดพิษณุโลก
จุดแรกลงพื้นที่ สหกรณ์การเกษตรนิคมฯ บางระกำ (สาขาคุยม่วง) พบว่าเกษตรกรทยอยนำข้าวที่เกี่ยวเสร็จแล้วมาขายหลายคันรถบรรทุก ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ได้มีการตรวจสอบเครื่องชั่งรถบรรทุกข้าว ทำการสอบเทียบความเที่ยงตรง รวมถึงเครื่องวัดความชื้น ที่จะช่วยให้พี่น้องเกษตรมั่นใจเรื่องน้ำหนักครบถ้วน นอกจากนี้ยังมีการประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานราชการ โดยมีกรมการข้าว ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) และผู้แทนเกษตรกรในพื้นที่บางระกำ โดยที่ประชุมได้มีการบูรณาการโดยให้กรมการค้าภายในกำกับดูแลราคาปุ๋ย ยา ให้มีความเหมาะสม ในส่วนของกรมการข้าวให้จัดหาเมล็ดพันธุ์ที่มีคุณภาพแจกจ่ายเกษตรกรในพื้นที่เพื่อปลูกในฤดูกาลผลิตต่อไป
หนึ่งในเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปรังในพื้นที่บางระกำ เกี่ยวข้าวมาขายที่สหกรณ์ ทั้งหมด 12 ไร่ ได้ข้าวที่ความชื้น 26% ราคาที่ขายได้ 7,480 บาทต่อตัน ซึ่งเกษตรกรดีใจที่ได้ราคาดี และดีใจที่รัฐบาลได้มีนโยบายช่วยเหลือชาวนาผู้ปลูกข้าวนาปรัง ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยมีการช่วยเหลือมาก่อน
ระหว่างการพบปะพูดคุยกับพี่น้องเกษตรกร มีเกษตรตะโกนบอกว่าอยากเจอคนที่ให้ปลูกกล้วย อุตส่าห์มารอทำไมไม่มา และบอกว่าปลูกกล้วยไม่ได้ เพราะน้ำท่วม กล้วยก็ตายหมด และถ้าหากปลูกจริงๆ จะช่วยรบซื้อหรือไม่ โดยนายวรวงศ์ ได้เข้ามพูดคุย และรับว่าจะดูแลให้
จากนั้นลงพื้นที่ สหกรณ์การเกษตรพรหมพิราม อ. พรหมพิรามเพื่อมอบเงินค่าฝากเก็บและรักษาคุณภาพข้าวเปลือก ให้ตัวแทนสหกรณ์ และตัวแทนเกษตรกร ตามโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี 67/68 โดยผลการดำเนินการ มีเกษตรกรเข้าร่วมของสหกรณ์การเกษตรพรหมพิราม จำนวน 256 ราย ผลผลิตข้าวเปลือกเจ้า 5,546 ตัน ค่าฝากเก็บ 8.32 ลบ.
ผลผลิตนาปรัง จ.พิษณุโลก ปี 2568 รวม 0.50 ล้านตันข้าวเปลือก เพิ่มขึ้นจากปี 2567 ที่มีผลผลิต 0.44 ล้านตันข้าวเปลือก หรือเพิ่มขึ้น 14% แบ่งเป็นข้าวเจ้า ผลผลิต 0.48 ล้านตันข้าวเปลือก เพิ่มขึ้นจากปี 2567 ที่มีผลผลิต 0.44 ล้านตันข้าวเปลือก หรือเพิ่มขึ้น 9% ส่วนข้าวปทุมธานี ผลผลิตปี 2568 และ 2567 มีเท่ากันที่ 0.01 ล้านตันข้าวเปลือก ในขณะที่ข้าวเหนียว ผลผลิตปี 2568 และ 2567 มีเท่ากันที่ 0.004 ล้านตันข้าวเปลือก ส่วนราคาข้าวเปลือกเจ้า ความชื้น 25% ณ วันที่ 6 มี.ค. 68 อยู่ที่ 7,100 – 7,400 บาท/ตัน หรือเฉลี่ย 7,250 บาท/ตัน ขณะที่ราคาข้าวเปลือกเจ้า ความชื้น 15% อยู่ที่ 8,300 – 8,700 บาท/ตัน หรือเฉลี่ย 8,500 บาท/ตัน
นายวรวงศ์ เปิดเผยว่าได้รับมอบหมายจากนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้มาติดตาม การรับซื้อข้าวเปลือกของเกษตรกร ซึ่งเป็น 1 ใน 8 นโยบายของรัฐบาล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ในการช่วยเหลือราคาข้าว โดยเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นบข. ได้ออกมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปรังโดยให้เงินสนับสนุนไร่ละ 1,000 จำนวน 10 ไร่ เพื่อเป็นการปรับปรุงการผลิตให้ตรงกับความต้องการของตลาด โดยวันนี้ได้รับฟังและติดตามสถานการณ์เพื่อประโยชน์ของพี่น้องเกษตรกร และนำนโยบายมาสื่อสารให้กับเกษตรกรสบายใจ ว่ารัฐบาลเร่งติดตามและช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกร
นายคุณากร ปรีชาชนะชัย ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่าจาการพูดคุยกับพี่น้องเกษตรกรส่วนใหญ่อยากให้ดูแลราคาข้าวเปลือกนรปรังให้ได่ฝ้ราคาดีขึ้น ยอมรับว่าเมื่ออินเดียกลับมาส่งออกข้าวขาวส่งผลให้ราคาข้าวของไทยปรับลดลง แต่หากเป็นราคาที่อยู่ในระดับเดียวกับช่วงก่อนที่อินเดียจะงดส่งออกข้าวขาว อย่างไรก็ตามยืนยันว่ารัฐบาลมีความจริงใจในช่วยเหลือพี่น้องในการปลูกข้าวนาปัง โดยจะทำเต็มที่
ส่วนกรณี รมว.คลัง ตอบกระทู้ถามสดในสภาฯ ถึงปัญหาราคาข้าวตกต่ำ และมีแนวคิดให้ชาวนาปลูกกล้วยแทนข้าว ซึ่งล่าสุด รมว.คลัง ออกมาชี้แจงแล้วว่าเป็นทางเลือกเสริมเพิ่มรายได้ ไม่ได้เสนอให้ปลูกแทนข้าว นั้น นายคุณากร ได้ทำความเข้าใจประเด็นดังกล่าวกับพี่น้องเกษตรกรว่า เป็นทางเลือกในการปรับเปลี่ยนการผลิตให้ตรงกับความต้องการของตลาด ทั้งนี้ ประเทศญี่ปุ่น บริโภคกล้วยเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะกล้วยหอมเขียว นำเข้าปีละกว่า 1 ล้านตัน แหล่งนำเข้าสำคัญ 3 อันดับแรก ได้แก่ ฟิลิปปินส์ เอกวาดอร์ และ เม็กซิโก โดยไทยได้โควต้า 8,000 ตัน/ปี แต่ขณะนี้ไทยส่งออกได้เฉลี่ย 2,178 ตัน/ปี จึงยังมีโอกาสอีกมาก จึงมองถึงความเป็นไปได้ ในการปลูกพืชชนิดอื่นทดแทนข้าว แต่ต้องยอมรับว่าไม่ใช่พื้นที่ไหนก็ปลูกได้เป็นพื้นที่ที่มีข้อจำกัดพอสมควร เพราะฉะนั้นจึงอยากทำความเข้าใจพี่น้องเกษตรกรว่านี่เป็นการเสนอทางเลือกสำหรับพี่น้องเกษตรกรที่ตั้งใจอยากให้พืชผลเกษตรตัวอื่นๆ ราคาสูงขึ้น เป็นความปรารถนาดีของท่านรัฐมนตรี.-516-สำนักข่าวไทย