9 มี.ค. – พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี พระราชทานกระบี่และปริญญาบัตร แก่นักเรียนนายร้อยตำรวจที่สำเร็จการศึกษา



วันที่ 9 มีนาคม 2568 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปโรงเรียนนายร้อยตำรวจ อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม โอกาสนี้ ทรงวางพุ่มดอกไม้และทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะ พระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระผู้พระราชทานกำเนิดโรงเรียนนายร้อยตำรวจ


จากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปหอประชุมชุณหะวัณ ในการพระราชทานกระบี่และปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ประจำปีการศึกษา 2566 ซึ่งได้รับพระราชทานปริญญารัฐประศาสนศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาการตำรวจ รวม 111 นาย


พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 พระราชทานกำเนิดโรงเรียนนายร้อยตำรวจ เมื่อปี 2444 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จพระดำเนินมาทรงเปิดโรงเรียนนายร้อยตำรวจ อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2499 เป็นสถาบันอุดมศึกษาเฉพาะทางด้านวิชาชีพตำรวจชั้นสูง มีภารกิจหลัก ในการให้การศึกษา การฝึกอบรม การส่งเสริมวิชาการตำรวจ และการศึกษาวิจัย รวมถึงภารกิจในการให้บริการทางวิชาการ และสนับสนุนองค์ความรู้ในวิชาชีพตำรวจแก่สังคมไทย เปิดการเรียนการสอนหลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาการตำรวจ เป็นหลัก มีหน่วยงานสนับสนุนด้านวิชาการ ประกอบด้วย ศูนย์บริการทางการศึกษา คณะตำรวจศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ คณะนิติวิทยาศาสตร์ และคณะนิติศาสตร์ เพื่อผลิตบุคลากรที่มีคุณภาพ ในวิชาชีพตำรวจ ตามความต้องการของสังคมไทย นอกจากนี้ ยังเป็นสถาบันหลักสำคัญในการผลิตข้าราชการตำรวจ ชั้นสัญญาบัตร ตามความต้องการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่มุ่งเน้นด้านการฝึกทักษะ ในยุทธวิธีตำรวจ การปฏิบัติตามระเบียบวินัย แบบธรรมเนียมและจรรยาบรรณของตำรวจ มีกองบังคับการปกครอง และศูนย์ฝึกตำรวจ เป็นหน่วยงานปฏิบัติการโรงเรียนนายร้อยตำรวจ

โอกาสนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระบรมราโชวาทแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติหน้าที่ในการรักษาความสงบสุขของประชาชน ความสำคัญว่า
“ข้าพเจ้าและพระราชินี มีความยินดีที่ได้มามอบกระบี่และปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจในวันนี้ ขอแสดงความชื่นชมกับทุกคน ที่ได้รับเกียรติและความสำเร็จ ภาระหน้าที่ของตำรวจ ในการพิทักษ์รักษาความสงบสุขของประชาชนนั้น นับว่าเป็นงานที่หนัก และต้องอาศัยกำลังอันกล้าแข็งอย่างมาก ทั้งกำลังกาย กำลังใจ กำลังปัญญา ทุกคนจึงจำเป็นต้องมีเครื่องยึดมั่นในใจตน ที่เรียกว่าอุดมคติ หรือแบบอย่างอันสูงสุด สำหรับยึดถือเป็นหลักชัยในการปฏิบัติงานอยู่เสมอ หากแต่ละคนทำงานอย่างมีอุดมคติ ก็จะเล็งเห็นแนวทางที่จะปฏิบัติภารกิจทุกอย่างให้สำเร็จผลเป็นความดีความเจริญ โดยไม่หวั่นไหวย่อท้อ ไม่ว่าจะมีอุปสรรคปัญหามากเพียงใด จึงขอให้นายตำรวจใหม่ ได้ตั้งอุดมคติของตนไว้ให้มั่นคง แล้วปฏิบัติหน้าที่ด้วยอุดมคตินั้นตลอดชีวิต ขออำนวยพรให้ทุกคน และทุกท่านที่มาร่วมในพิธีนี้ มีความสุขและความเจริญก้าวหน้า สมดังปรารถนาทุกประการ”.-211-สำนักข่าวไทย