ลพบุรี 7 มี.ค.- “เจ๊ปู” หนึ่งในแม่ทีม เปิดโปงขบวนการทุจริตยาและเวชภัณฑ์ รพ.ทหารผ่านศึก เผยทำมา 3 ปีแล้ว แรกเริ่มชักชวนคนใกล้ตัว-เพื่อนฝูง ทุกคนมีฐานะยากจน หรืออยู่ในช่วงต้องการเงิน โดยทีมแม่ข่ายจะแบ่งค่าคอมมิชชั่นให้ลูกข่ายคนละ 10% จากยอดมูลค่าของยาที่รับจากโรงพยาบาล
“เจ๊ปู” หนึ่งในแม่ทีมขบวนการทุจริตยาและเวชภัณฑ์ รพ.ทหารผ่านศึก เปิดเผยว่า ตนได้ทำเป็นแม่ทีมมาประมาณ 3 ปี เมื่อ พ.ศ.2565 เริ่มจากตอนแรกเป็นลูกทีม โดยถูก “นางหรีด” ชักชวนจากบุคคลหนึ่ง ให้มาทำงานแกล้งเป็นผู้ป่วยเข้าไปรับยาจากโรงพยาบางทหารผ่านศึก เพราะที่โรงพยาบาลนี้ไม่มีลูกค้าหรือผู้ป่วยเข้ารับการรักษา อยากให้มีผู้ป่วยมารักษาเยอะๆ แล้วถ้าทำจะให้เงินเป็นค่าส่วนแบ่งด้วย พอดีช่วงนั้นเศรษฐกิจไม่ค่อยดี ตนจึงตบปากรับทำงานดังกล่าว
เมื่อทำไปสักพัก นางหรีด ก็ได้ชักชวนให้มาเป็นแม่ทีม ตนก็นึกถึงคำพูดของนางหรีด ตอนชักชวนให้มาทำงาน ว่า ปลอดภัยและมีหมอรู้เห็นกับงานนี้ ตนจึงไม่ได้คิดอะไรและเข้าทำงานเป็นแม่ทีม หาลูกข่ายมาเข้าร่วมและพูดแบบนี้กับลูกทีมทุกคน โดยพยายามถ่ายทอดวิธีการต่างๆให้ลูกทีมเข้าใจ เผื่อภายภาคหน้าจะได้เป็นแม่ทีม ตอนนี้เท่าที่ตนรู้จักที่ทำงานเป็นลูกทีมด้วยกันแล้วถูกผลักดันให้เป็นแม่ทีม ก็คือ “นางเอี้ยง” อีกคน ซึ่งตอนนี้ก็ยังทำเป็นแม่ทีมอีกสายหนึ่งอยู่
ส่วนวิธีการหาคนให้มาเข้าร่วมทีมนั้น ตอนแรกจะเริ่มชักชวนจากคนใกล้ตัวหรือเพื่อนฝูง ว่าทำแบบนี้แล้วได้เงิน จากนั้นเดี๋ยวคนเหล่านี้ก็จะบอกต่อๆ กันไปเอง เพราะทุกคนมีฐานะยากจน หรือไม่ก็อยู่ในช่วงที่ต้องการเงิน โดยทางทีมแม่ขายจะแบ่งค่าคอมมิชชั่นให้ลูกข่ายคนละ 10% จากยอดมูลค่าของยาที่รับออกมาจากโรงพยาบาลได้ ส่วนแม่ทีมจะได้หัวละ 1,000 บาท ต่อ 1 ลูกข่าย ในบางครั้งก่อนที่จะให้ลูกข่ายเข้าไปรับยา จะนำอาหารจำพวกที่มีไขมันสูง หรือของหวานมาให้ลูกข่ายกินก่อนเข้าพบแพทย์ เช่น วันนี้ให้กินข้าวขาหมู ข้าวมันไก่ วันนี้กินน้ำอัดลม จะได้มีไขมันมีน้ำตาลในเลือดเยอะๆ เป็นต้น ทุกอย่างทำตามคำสั่งของนางหรีด ทั้งหมด
ช่วงแรกๆ ลูกข่ายของตนมีประมาณ 4-5 คน ทำให้ได้ค่าคอมมิชชั่นน้อย 4,000-5,000 บาท และทำให้ไม่ได้ยอด บางครั้งลูกข่ายของตนนำยามาไม่ถึงยอดที่กำหนดคือ 2,000 บาท ตนก็ต้องเติมเงินเข้าไปให้ครบ เพราะกลัวเพื่อนๆ จะไม่ได้เงินตามที่คุยกันไว้ โดยปัจจุบัน ทีมของตนเคยมีลูกข่ายมากถึง 103 คน แต่ตอนนี้เหลือประมาณ 60 กว่าคน จุดนัดพบคือ นำรถตู้ไปรับถึงหน้าบ้าน หรือไม่ก็ตามหมู่บ้านต่างๆ ตามตัวเมือง เพราะทุกคนที่เป็นลูกข่ายในสายของตนเป็นเพื่อนกันหมด
นอกจากที่โรงพยาบาลทหารผ่านศึกแล้ว ตนยังทราบว่า ทีมอื่นยังไปรับยาที่โรงพยาบาลพระมงกุฏ โดยมี “ลุงหมาย” เป็นคนขับรถตู้พาลูกข่ายไปโรงพยาบาล ที่รู้เพราะแฟนของตนที่เป็นแม่ทีมก็เคยพบเจอด้วยตนเอง โดยส่วนสายของตนจะเอารถส่วนตัวพาลูกข่ายไปโรงพยาบาลด้วยตัวเอง โดยได้รับค่าน้ำมันครั้งละ 3,000 บาท หายวันไหนคนเยอะ ก็จะฝากรถตู้ของลุงหมายให้ไปพา
นอกจากนี้ รูปแบบขบวนการยังมีวิธีในการรับยาให้คนอื่น โดยใช้การเขียนกระดาษแผ่นนึงเซ็นมอบอำนาจพร้อมถ่ายสำเนาบัตรประชาชนก็เข้ารับยาได้แล้ว
ส่วนสาเหตุที่ให้ความร่วมมือกับตำรวจนั้น เจ๊ปูเผยว่า ตนมองว่า สิ่งที่กระทำไปนั้นมันผิดกฎหมายจริง และหนีไปไหนไม่รอดแล้ว เพราะความจริงมันถูกเปิดโปรงหมด อีกอย่างตนไม่ได้ตั้งใจว่าจะทำแบบนั้นหากผิดกฎหมาย เพราะถูกหลอกมาว่าทุกอย่างถูกต้อง และมีโรงพยาบาลรู้เห็น
ส่วนตัวไม่เคยเจอระดับใหญ่กว่านางหรีด ถึงแม่เรื่องดังกล่าวจะถูกห้ามไม่ให้เปิดเผย หากเปิดเผยไปก็จะถูกขู่ฟ้องร้อง แต่ในเมื่อเรื่องเป็นแบบนี้แล้วตนก็เดินเข้าหาตำรวจด้วยตนเองพร้อมที่จะให้ข้อมูลและเป็นพยานในคดี.-414.-สำนักข่าวไทย