รัฐสภา 6 มี.ค.- ‘กมธ.สาธารณสุข’ จี้ ขอผลประชุม ‘สปสช.-ประกันสังคม’ ย้อนหลัง 23 ปี หวังศึกษาอุปสรรคลดความเหลื่อมล้ำ ลั่น ต้องส่งเอกสารภายใน 15 วัน แนะเปิดให้ผู้ประกันตนลองย้ายมาใช้สิทธิ์บัตรทอง พร้อมเตรียมบุกสนง.ประกันสังคม สัปดาห์หน้า
คณะกรรมาธิการ (กมธ.) การสาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร นำโดย นพ.ทศพร เสรีรักษ์ สส.แพร่ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานกมธ.ฯ น.ส.กัลยพัชร รจิตโรจน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะรองประธานกมธ.ฯ แถลงผลการประชุมกมธ.ฯ กรณีการพิจารณาศึกษาสิทธิประโยชน์การรักษาพยาบาลของผู้ประกันตน
โดยน.ส.กัลยพัชร กล่าวว่า ที่ประชุมมีการพูดคุยเรื่องความแตกต่างระหว่างชุดสิทธิประโยชน์ 2 กองทุนคือสิทธิ์ประกันสังคมและสิทธิ์หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ซึ่งมีประเด็นสำคัญดังนี้ ในภาพรวม แม้ทั้ง 2 กองทุนจะให้บริการสุขภาพถ้วนหน้าใกล้เคียงกัน แต่ยังมีความแตกต่างกันในรายละเอียด โดยที่ประชุมเห็นว่าการพัฒนาประสิทธิภาพการรักษาพยาบาลในสิทธิ์บัตรทองนั้นมีมากกว่าสิทธิ์ประกันสังคม เนื่องจากกองทุนสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) มีจุดเน้นเรื่องสุขภาพและมีภาคประชาชนเข้าไปร่วมบริหาร แต่กองทุนประกันสังคมมีจุดเน้นด้านสวัสดิการสังคม และคณะกรรมการไม่ได้มีสัดส่วนผู้ประกันตนไปร่วมพัฒนาสิทธิประโยชน์ด้านการรักษาพยาบาลมากเท่าสิทธิ์ของบัตรทอง
น.ส.กัลยพัชร กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ยังมีเรื่องของความไม่พอใจของผู้การตนต่อสิทธิ์ประกันสังคม ที่มีอยู่จริงเมื่อเปรียบเทียบกับผู้ใช้สิทธิ์บัตรทอง ที่เห็นความพยายามพัฒนาคุณภาพการรักษาพยาบาลอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะประสบการณ์ใกล้ตัวของผู้ป่วย เช่น การตอบสนองเรื่องร้องเรียนโดย 1330 ที่ดีกว่า 1506 หรือแม้กระทั่งสิทธิ์ทันตกรรมที่มีความแตกต่างอย่างชัดเจน
น.ส.กัลยพัชร กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ สปสช.ยังจัดบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคที่หน่วยบริการปฐมภูมิ การให้บริการคลอดบุตร การรักษาพยาบาลคนพิการ การดูแลผู้ป่วยที่มีภาวะพึ่งพิงและระยะท้ายได้โดดเด่นกว่า อย่างไรก็ตาม ทั้งสองระบบยังควรปรับปรุงสิทธิ์ฟื้นฟูสมรรถภาพหรือ Intermediate Care ซึ่งที่ประชุม กมธ.ฯ เห็นว่าประกันสังคมควรร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุขให้ผู้ประกันตนสามารถเข้ารับบริการได้ที่หน่วยบริการสุขภาพปฐมภูมิให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ระบบสุขภาพปฐมภูมิ พ.ศ.2562
น.ส.กัลยพัชร กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ ประกันสังคมควรพิจารณาเปิดสิทธิ์การรักษาพยาบาลให้ผู้ประกันตนสามารถเลือกย้ายมาใช้สิทธิ์บัตรทองได้ โดยกองทุนประกันสังคมตามจ่าย เนื่องจากจะเป็นข้อบ่งชี้ว่าสิทธิ์ประกันสังคมจัดบริการสุภาพได้ตอบสนองความต้องการของผู้ประกันตนได้มากน้อยเพียงใด อย่างไรก็ตาม มีกมธ.ฯ บางส่วนสนับสนุนให้ สปสช. ดูแลสิทธิ์การรักษาพยาบาลของผู้ประกันตนในประกันสังคมแล้วให้สำนักงานประกันสังคม เน้นพัฒนาสวัสดิการชำนาญและสวัสดิการคนทำงานอื่นๆ ที่เหลือ
น.ส.กัลยพัชร กล่าวต่อว่า ภายหลังการพิจารณา กมธ.ฯ มีมติดังนี้ ขอให้สปสช.และประกันสังคมส่งบันทึกการประชุม 23 ปีย้อนหลังเกี่ยวกับการสร้างความกลมกลืนระหว่างสิทธิ์ที่คณะกรรมการประสานงานสามกองทุนได้จัดประชุมร่วมกัน เพื่อศึกษาอุปสรรคการลดความเหลื่อมล้ำและร่วมผลักดันการบริการสุขภาพที่เป็นธรรมต่อไปโดยขอให้ตัวแทน สปส.และประกันสังคมส่งเอกสารให้กมธ.ฯ ภายใน 15 วัน
น.ส.กัลยพัชร กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ จากการแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาค่ารักษาพยาบาลของสวัสดิการรักษาพยาบาลของประเทศไทย ตามคำสั่งนายกรัฐมนตรี ที่มีนายพิชัย ชุณหวิชระ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธาน ทางกมธ.ฯ เสนอให้คณะกรรมการชุดนี้ดำเนินการประเมินทางเลือกแนวทางกำกับดูแลระหว่างระบบสุขภาพเพื่อลดความเหลื่อมล้ำการรักษาระหว่าง 3 ระบบสุขภาพ ควรกำหนดเป้าหมายและโรดแมปการทำงานที่ชัดเจน รวมถึงรายงานความคืบหน้าอย่างต่อเนื่องและควรเชิญภาคประชาสังคมมาร่วมในคณะกรรมการด้วย ซึ่งทราบมาว่าคณะกรรมการชุดนี้จะประชุมนัดแรกในวันที่ 12 มีนาคมนี้ โดยทางกมธ.ฯ จะติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไป
“ขอทิ้งท้ายไว้ว่าคุณคิดว่าคนเราเท่ากันหรือไม่ หากคนเราเท่ากันสิทธิ์การรักษาก็ควรเท่ากัน“ น.ส.กัลยพัชร กล่าว
ด้าน นพ.ทศพร กล่าวว่าคณะกรรมาธิการฯ เสนอให้ผู้ประกันตนในประกันสังคมสามารถไปทดลองใช้สิทธิ์บัตรทองได้ อาจจะในระยะเวลา 1 ปี หรือยกสิทธิ์รักษาพยาบาลไปเลย โดยเอางบประมาณที่ใช้ในการ รักษาพยาบาลของสำนักงานประกันสังคมไปให้สปสช. บริหารหรือว่าจะเรียกว่าไปจ้างสปสช.ให้จัดการ ก็ได้ แต่ระหว่างที่รอ สำนักงานประกันสังคมก็ควรจะมีการพัฒนาตามสิทธิประโยชน์อย่างง่ายๆ เช่นการทำฟันให้ได้เท่าเทียมกับสิทธิบัตรทอง เป็นสิ่งที่สามารถทำได้เลยโดยไม่ต้องรอ หรือว่าทำแบบ 30 บาท รักษาทุกที่ ที่ให้ผู้ที่ทำประกันสังคมสามารถไปรับยาฟรี ได้ที่ร้านที่ได้ทำสัญญากับสปสช.ไว้โดยขยายให้สิทธิประกันสังคมใช้
นพ.ทศพร กล่าวว่าในฐานะกรรมาธิการสาธารณสุข เราอยากให้ผู้ประกันสังคม 14 ล้านคน ได้รับการดูแลรักษาได้รับสิทธิในการรักษาพยาบาลที่ดียิ่งขึ้น ทางกรรมาธิการฯมีการศึกษาด้นความเหลื่อมล้ำของสองกองทุนอยู่ โดยมีคณะอนุกรรมาธิการกำลังทำเรื่องนี้อยู่ และใน สัปดาห์หน้าจะไปเยี่ยมที่สำนักงานประกันสังคม เพื่อจะได้คุย ซึ่งอยากจะเจอกับ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคมและ ถ้าเจอรัฐมนตรีด้วย ก็จะยิ่งดี.-312 -สำนักข่าวไทย