วปอ. 1 มี.ค.-“อนุทิน” ยันพรรคร่วมฯ พร้อมหนุนข้อมูล-ให้กำลังใจนายกฯ แจงศึกซักฟอก บอกไม่ได้มีกฎว่า นายกฯ ตอบได้คนเดียว หากโยงกระทรวงไหน รมต.แจงแทนได้ ส่วนเอ่ยชื่อ “ทักษิณ” ได้หรือไม่ เป็นไปตามข้อบังคับ หากวุ่นวายให้ประธานควบคุมให้อยู่ในกรอบ
นายอนุทิน ชาญวีรกูลรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึง การอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี มองว่าหากใช้ระยะเวลา 3 วันในการอภิปรายมีความเหมาะสมหรือไม่ ว่า การอภิปรายนายกรัฐมนตรีก็ดีอย่างหนึ่ง สำหรับพวกตนในฐานะหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล เราก็ต้องสนับสนุนให้ข้อมูลให้กำลังใจ ประคับประคองทุกอย่างกับนายกรัฐมนตรี เพราะถ้านายกรัฐมนตรีไม่รอดคนเดียว ก็ไม่เหลือใครสักคนในรัฐบาล เพราะฉะนั้นทุกคนต้องให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่อยู่แล้ว การเล่นการเมืองก็ไม่มี ตนเชื่อว่าถ้านายกรัฐมนตรีถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ท่านเดียวในครั้งนี้ อย่าไปมองว่าทุกอย่างจะไปลงที่นายกรัฐมนตรี นายกฯ ก็คือรัฐบาล รัฐบาลก็คือรัฐมนตรีทุกคน เพราะฉะนั้นถ้าใครถูกพาดพิง เกี่ยวข้องไปถึงตรงไหน เพราะปฏิบัติตามนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีของแต่ละกระทรวงก็จะต้องออกมาชี้แจง เพราะนายกรัฐมนตรีไม่มีทางทราบในรายละเอียดเชิงลึกได้ ว่าที่มาที่ไปของการกระทำนั้นๆ เป็นอย่างไร เพราะฉะนั้นรัฐมนตรีทุกคนต้องให้การสนับสนุน ให้การชี้แจงในเรื่องที่ถูกพาดพิง
ส่วนเรื่องของการไว้วางใจนายกรัฐมนตรี หรือไม่นั้น อันนี้ก็ชัดเจนว่าพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรค ก็ต้องให้ความไว้วางใจนายกรัฐมนตรีอยู่แล้ว เพราะเราปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาล ท่านเป็นผู้นำ
ส่วนกระทรวงภายใต้สังกัดของพรรคภูมิใจไทยภูมิใจ จะต้องติวข้อสอบให้นายกรัฐมนตรีก่อนหรือไม่ เพื่อเตรียมรับมือการอภิปราย นายอนุทินกล่าวว่า นายกรัฐมนตรี ก็คงจะตอบในภาพรวม ในเรื่องของนโยบาย แต่ถ้าลงรายละเอียด เช่นกรณีของกระทรวงแรงงาน ที่ขณะนี้มีเรื่องประกันสังคม เรื่องปฏิทิน ตรงนี้นายกตอบไม่ได้ ต้นก็จะต้องไปกราบเรียนนายกว่าตรงนี้ไม่ใช่หน้าที่นายกฯ ต้องตอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานก็จะต้องมาตอบ ถ้าเป็นเรื่องเขากระโดงตนก็ต้องตอบ เพราะนายกรัฐมนตรีจะทราบได้อย่างไร ว่ามีรายละเอียดอย่างไร แต่ถ้าพาดพิงไปถึงนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีที่รับผิดชอบก็ต้องมาตอบ
ส่วนกรณีที่นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส. พรรคประชาชน ออกมาระบุว่าถามคนที่ชื่อแพทองธาร หากใครชื่อแพทองธารก็ให้ลุกขึ้นตอบ นายอนุทินย้ำว่า เกี่ยวข้องกับใคร คนนั้นก็ตอบ ไม่มีกฎที่ไหนว่าคนนั้นจะต้องตอบได้คนเดียว การอภิปรายในรัฐบาลที่แล้ว หากรัฐมนตรีว่าการกระทรวง ถูกอภิปราย ก็มอบหมายให้รัฐมนตรีช่วยฯ ที่กำกับดูแลหน่วยงานนั้นๆ มาตอบแทนได้
“เป็นการทำงานเป็นหมู่คณะ เป็นกลุ่มอยู่แล้ว ใครตอบก็เหมือนรัฐบาลตอบ ท่านอภิปรายนายกรัฐมนตรี ก็คือการอภิปรายการทำงานของรัฐบาล ตอบอย่างไรก็ตามก็อยู่ภายใต้การกำกับดูแลความรับผิดชอบของนายกรัฐมนตรี ใครจะมากำหนดกฎเกณฑ์อย่างไรก็แล้วแต่ความเข้าใจ แต่รัฐบาลก็มีความเข้าใจอย่างนี้ ว่าเมื่อถึงเวลาก็ต้องตอบในส่วนที่ถูกพาดพิง” นายอนุทิน กล่าว
ส่วนกรณีที่ฝ่ายค้านจะขอใส่ชื่อนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในญัตติอภิปราย แต่ถูกกระโดดขวางไม่ให้ใส่ชื่อนายทักษิณ เข้าไปในการอภิปราย นายอนุทิน ถามว่าใครกระโดดขวาง การยื่นญัตติให้กับประธานสภาฯ ทุกอย่างอยู่ ในญัตติฉบับนั้นแล้ว ก็ไม่มีอะไร การอภิปรายก็อภิปรายไป หากอยู่ในข้อบังคับก็อภิปรายได้เต็มที่ ถ้าอภิปรายนอกข้อบังคับ สส.ในสภา ก็มีสิทธิ์ประท้วง หรือขอให้ไม่พาดพิงบุคคลภายนอก ที่ไม่สามารถเข้ามาแก้ต่างด้วยตนเองได้ ก็ว่ากันไปเป็นเรื่องปกติ ทุกปีก็มีการออกนอกกรอบบ้าง ผู้ที่ทำหน้าที่ประธานก็ต้องควบคุมการประชุมให้อยู่ในกรอบไม่มีปัญหาอะไร
ส่วนชื่อของนายทักษิณจะอยู่ในญัตติการอภิปรายครั้งนี้ได้หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนยังไม่เห็น แต่ฝ่ายค้านได้ยื่นไปแล้ว เข้าใจว่าเขาก็ใส่ไปแล้ว ได้หรือไม่ได้ ก็อยู่ที่การอภิปราย หรือถ้าประธานสภาฯ ไปพิจารณา แต่สุดท้ายแล้วเขาว่าอภิปรายนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร ส่วนชื่อของใครจะเป็นองค์ประกอบในนั้น ตนว่าไม่เกี่ยวข้องอะไรกัน อย่าไปเสียเวลา
”ก็รีบๆอภิปราย พี่น้องประชาชนจะได้รับทราบ นายกรัฐมนตรีก็เตรียมตัวชี้แจง รัฐมนตรีและคณะทำงานก็เตรียมชี้แจง อันไหนที่เป็นข้อเท็จจริงที่ถูกโจมตี ก็จะได้ถือโอกาสนี้ในการชี้แจงข้อเท็จจริงให้ประชาชนทราบ ก็เป็นอย่างนี้ทุกปี ไม่ได้เป็นเรื่องแปลกใหม่ หรือเรื่องที่น่าตกอกตกใจ ต่างคนต่างทำหน้าที่“ นายอนุทิน กล่าว.-315.-สำนักข่าวไทย