ปทุมธานี 1 มี.ค. – พ่อแม่ช้ำใจ ลูกสาววัย 11 ขวบ ถูกหนุ่มพนักงานดูแลเครื่องเล่นสวนสนุกในห้างดัง ลวงขืนใจในห้องเช่าและอนาจารในบ่อโฟม ซ้ำถ่ายคลิปไว้แบล็กเมล ล่าสุดตำรวจตามจับตัวได้แล้ว
ตำรวจเข้าแสดงตัวจับกุมนายสมชาย อายุ 27 ปี พนักงานดูแลเครื่องเล่นสวนสนุกในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง จ.ปทุมธานี ในข้อหา กระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกิน 13 ปี, พาเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี ไปเพื่อการอนาจาร, พรากเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดาเพื่อการอนาจาร, บันทึกภาพหรือเสียงการกระทำชำเราหรือการกระทำอนาจารนั้นไว้ เพื่อแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ, ครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กเพื่อแสวงหาประโยชน์ในทางเพศ และกระทำอนาจารแก่เด็กอายุยังไม่เกิน 13 ปี
ในชั้นจับกุม นายสมชาย ผู้ต้องหา ยอมรับว่า ล่อลวงเด็กหญิง อายุ 11 ปี ไปกระทำชำเราในห้องเช่า และอนาจารในมุมอับบ่อโฟมภายในสวนสนุก ทั้งยังถ่ายคลิปขณะมีเพศสัมพันธ์กับเด็กมาใช้แบล็กเมล เพื่อบังคับหลอกลวงให้เด็กหญิงไปหาอีก ก่อนจะถูกให้พ้นสภาพพนักงานเมื่อวันที่ 25 ก.พ. ที่ผ่านมา เนื่องจากสูบกัญชาในเวลางาน และยังอยู่ในช่วงทดลองงานด้วย โดยทางเจ้าของสวนสนุกแห่งนี้ ไม่ทราบว่าพนักงานคนนี้ก่อเหตุกับเด็กหญิง จากนั้น นายสมชาย กลับมาอยู่ที่บ้านเกิด อำเภอหันคา จ.ชัยนาท กระทั่ง ตำรวจมาจับกุม เมื่อวานนี้ (28 ก.พ.)
การจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องมาจาก พ่อและแม่ของเด็กหญิงผู้เสียหาย เข้ามาร้องขอความช่วยเหลือจาก นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี โดยมี พล.ต.ต.ยุทธนา จอนขุน ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี รับเรื่อง และสั่งการ พ.ต.อ.ปริญญา ทองมา ผกก.สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ซึ่งเป็นท้องที่รับผิดชอบ ให้ชุดสืบสวนติดตามหาหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกับนายสมชาย
ล่าสุดวันนี้ นางปวีณา และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง พ่อแม่ของเด็กหญิงผู้เสียหาย พร้อมผู้บริหารห้างสรรพสินค้าดังกล่าว ร่วมกันหารือมาตรการป้องกันเหตุร้ายไม่ให้เกิดกับเด็กๆ ผู้ใช้บริการ พร้อมแถลงการจับกุมให้กับพ่อแม่ของเด็กผู้เสียหายได้รับทราบ ขณะที่ผู้บริหารห้างสรรพสินค้า แสดงความเสียใจกับพ่อและแม่ของเด็ก พร้อมน้อมรับความรับผิดชอบที่เกิดขึ้น และยินดีให้ความร่วมมือทั้งการตรวจสอบไล่ดูกล้องวงจรปิดทุกจุดและหากจุดไหนที่เป็นมุมอับจะแก้ไขปรับปรุง รวมถึงส่งมอบข้อมูลทุกอย่างให้กับตำรวจ เบื้องต้น พูดคุยกับผู้ประกอบการและออกเป็นนโยบายว่าในพื้นที่สวนสนุกจะให้มีแต่พนักงานหญิงเท่านั้น
ด้านพ่อและแม่ของเด็กหญิง อายุ 11 ปี ผู้เสียหาย ยังคงเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะไม่คิดว่า สถานที่สาธารณะจะเกิดเหตุกับลูกสาวของตนเอง ส่วนหนึ่งก็ยอมรับว่าเป็นความผิดของตนเองที่ดูแลลูกให้อยู่ในสายตา
จากนั้น นางปวีณา ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ร่วมกับเจ้าหน้าที่เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยมีผู้บริหารห้างสรรพสินค้าให้ความร่วมมือนำพาตรวจสอบที่เกิดเหตุ เพื่อถอดบทเรียนนำไปแก้ไขปรับปรุงสถานที่ รวมทั้งย้ำผู้ปกครองอย่าปล่อยให้เด็กเล่นอยู่คนเดียว ควรมีเพื่อนหรือผู้ปกครองคอยเฝ้าอยู่ด้วย รวมทั้งห้างสรรพสินค้าควรตรวจสอบบริษัทที่ให้เช่าและมาตรการความปลอดภัยอย่างสม่ำเสมอ.-สำนักข่าวไทย