กรุงเทพฯ 1 มี.ค. – ตำรวจนครบาลทลายโกดังบุหรี่ไฟฟ้ารายใหญ่ย่านบางแค ยึดของกลางมูลค่า 30 ล้านบาท เร่งขยายผลจับเจ้าของ
พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผบก.สส.บช.น.) ตำรวจสืบสวนนครบาล และตำรวจสน.เพชรเกษม บุกทลายโกดังบุหรี่ไฟฟ้ารายใหญ่ พร้อมของกลางเป็นจำนวนมาก มูลค่ากว่า 30 ล้านบาท
ตำรวจนำหมายค้นศาลอาญาธนบุรี ที่ ค.63/2568 ลงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 เข้าทำการตรวจค้นอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้น ถนนกัลปพฤกษ์ แขวงและเขตบางแค กรุงเทพฯ หลังได้รับแจ้งจากสายลับไม่ประสงค์ออกนามว่าอาคารดังกล่าวมีการลักลอบนำสินค้าผิดกฎหมายลักษณะหลีกเลี่ยงกฎหมายศุลกากรเข้ามาเก็บไว้ ช่วงเวลากลางคืนเมื่อวันที่ 27-28 ก.พ.2568 ที่ผ่านมา
ผลการตรวจค้นพบของกลาง ดังนี้ หัวน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 343,600 ชิ้น บุหรี่ไฟฟ้าชนิดพร้อมสูบ จำนวน 10,000 ชิ้น โดยโกดังชั้นล่างพบ 568 ลัง 227,200 ชิ้น มูลค่า 22,720,000 บาท ส่วนชั้นบนพบ 116,400 ชิ้น มูลค่า 11,640,000 บาท รวมมูลค่าของกลางประมาณ 30 ล้านบาท
การเข้าตรวจค้นพบผู้ต้องหาเป็นชาย 1 ราย ให้การรับสารภาพว่า ปกติตัวเองทำงานรับจ้างอิสระ มีหน้าที่ขนย้ายสินค้าเพียงอย่างเดียว โดยรู้ว่าสินค้าเป็นอะไร โดยอ้างว่าทำมา 1 ครั้ง และขอโทษที่มีส่วนร่วมในการขนย้ายสินค้าเหล่านี้
พล.ต.ต.โชติวัฒน์ กล่าวว่า สำหรับการปราบปรามน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าเป็นนโยบายของรัฐบาล โดยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้สั่งการให้ตำรวจทุกหน่วยงานเร่งปราบปราม เมื่อวานนี้มีการประชุมร่วมกัน วันนี้จึงเป็นปฏิบัติการของตำรวจสืบนครบาล ร่วมกับกองกำกับการสืบสวนตำรวจนครบาล 9 และสน.เพชรเกษม สืบทราบว่าบริเวณนี้น่าจะมีบุหรี่ไฟฟ้าซุกซ่อนอยู่ จึงขอหมายค้นของศาลอาญาธนบุรีเข้าตรวจค้นเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการขยายผลมาจากกลุ่มผู้ค้ารายย่อย
พล.ต.ต.โชติวัฒน์ กล่าวว่า ผลการตรวจค้นพบเป็นแหล่งเก็บน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งมีหลายชนิดหลายกลิ่น ตรวจพบของกลางกว่า 3 แสนชิ้น มูลค่ากว่า 30 ล้านบาท มีการขายทั้งการวางแผงจำหน่ายขาย แต่ช่วงนี้ที่มีการปราบปรามอย่างหนักจึงหันมาเน้นขายทางช่องทางออนไลน์ ทั้งนี้หากไปถึงกลุ่มเยาวชนจะมีอันตรายมาก การตรวจสอบขบวนการนี้ต้องใช้เวลาพอสมควร สำหรับลักษณะการขายแบบนี้พบเป็นโกดังขนาดใหญ่จะต้องตรวจสอบต่อว่านำเข้ามาจากไหน ผ่านศุลกากรหรือไม่ และใครเป็นเจ้าของที่แท้จริง ยืนยันจะขยายผลไปยังเจ้าของอย่างแน่นอน ฝากไปถึงเยาวชนหากมีบุหรี่ไฟฟ้าไว้ในความครอบครองก็มีความผิดในหลายมาตรา เช่น พ.ร.บ.ศุลกากรมาตรา 246 หากขายผิดประกาศกระทรวงพาณิชย์
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดของกลางทั้งหมดไว้เป็นพยานหลักฐาน เพื่อดำเนินการสืบสวนรวมรวมพยานหลักฐานขยายผลนำผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.-419 -สำนักข่าวไทย