ตำรวจไซเบอร์ เปิดปฏิบัติการ ทลายรังโลกีย์ อบายมุขออนไลน์

บช.สอท. 27 ก.พ.-ตำรวจไซเบอร์ เปิดปฏิบัติการ ทลายรังโลกีย์ อบายมุขออนไลน์ มอมเมาชาวกรุง จับผู้ต้องหา 9 คน ยึดของกลางอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ 40 ชุด เครื่องสำอางเลี่ยงภาษีกว่า 112,000 ชิ้น ตู้คีบตุ๊กตา บุหรี่ไฟฟ้าพร้อมน้ำยา และอาวุธปืน

บช.สอท. 27 ก.พ.2568 พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ผบช.สอท. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผบก.สอท.1 พล.ต.ต.ศรายุทธ จุณวัตต์ ผบก.สอท.2 พ.ต.อ.ชัยรัตน์ วรุณโณ รองผบก.สอท.2 และตำรวจไซเบอร์เปิดปฏิบัติการทลายรังโลกีย์ อบายมุขออนไลน์ มอมเมา ชาวกรุง สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้รวม 9 คน เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ 5 ราย และความผิดซึ่งหน้า 4 ราย ในความผิดประเภทต่างๆ พร้อมของกลางอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ 40 ชุด, เครื่องสำอางเลี่ยงภาษีกว่า 112,000 ชิ้น, ตู้คีบตุ๊กตา 15 ตู้, ตุ๊กตาของกลาง 255 ชิ้น, บุหรี่ไฟฟ้าพร้อมน้ำยา จำนวน 20 ชุด และ อาวุธปืน จำนวน 4 กระบอก


พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวว่า วันนี้เป็นการแถลงผลระดมกวาดล้างอาชญากรรมของตำรวจไซเบอร์ 1 และตำรวจไซเบอร์ 2 โดยได้มีการระดมสรรพกำลังเพื่อกวาดล้างการกระทำความผิดออนไลน์ทุกประเภท เช่น การจำหน่ายสินค้าไม่ได้คุณภาพ หรือสินค้าหนีภาษี การเล่นเกมละเมิดลิขสิทธิ์และการเผยแพร่สื่อลามกอนาจารโดยนำเครื่องเกมนินเทนโด้มาดัดแปลงเพื่อให้สามารถเล่นเกมละเมิดลิขสิทธิ์ได้ การกวาดล้างจับกุมกลุ่มคนยิงปืนขึ้นฟ้าแล้วโพสต์ลงโซเชียล และจับกุมการลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า ทั้งนี้ตำรวจ ทั้ง 5 กองบังคับการ ต้องออกแผนกวาดล้างอาชญากรรมในพื้นที่อย่างน้อยเดือนละ 2 ครั้ง ยืนยันตำรวจไซเบอร์จะมุ่งมั่นทุ่มเทขับเคลื่อนในการทำงานเพื่อปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ อย่างจริงจัง

พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ กล่าวว่า ได้ปล่อยแถวเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สอท.1 จำนวนกว่า 100 นาย เพื่อระดมกวาดล้างอาชญากรรม ในห้วงวันที่ 28 ก.พ.68 เวลา 06.00 น. บริเวณหน้า บช.สอท. โดยเน้นการปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายที่ได้มีการสั่งการให้เจ้าหน้าที่ ตำรวจไซเบอร์ 1 ทุกกองกำกับการ ร่วมสืบสวนปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกระทำความผิดในลักษณะที่เกี่ยวข้องกับอบายมุขในโลกออนไลน์ที่มอมเมาประชาชน โดยได้เข้าตรวจค้นเแ้าหมาย 7 จุด จากปฏิบัติการดังกล่าวมีผลการปฏิบัติที่สำคัญ


พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ กล่าวว่า ได้จับกุมร้านเกมชื่อดังมีผู้ติดตาม 1.2 แสนราย โดยเปิดเพจรับจ้างแฮกเครื่องเกมนินเทนโด้ เพื่อติดตั้งเกมเถื่อน พร้อมพ่วงโปรแกรมรับชมสื่อ ลามกออนไลน์ผ่านระบบสตรีมมิ่ง โดยขายแพ็คเกจเริ่มต้นตั้งแต่ 1,000-7,900 บาท โดยตำรวจชุดจับกุมนำโดย พ.ต.อ.ศุภรฐโชติ จำหงษ์ ผกก.3 บก.สอท.1 ได้ร่วมทำการสืบสวนเพจเฟซบุ๊กบัญชีหนึ่งทราบว่ามีการจัดจำหน่ายและเผยแพร่สื่อลามกอนาจารในรูปแบบต่างๆ เช่น แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งสื่อลามกอนาจาร, เกมลามกอนาจาร และดัดแปลงเครื่องเล่นเกมเพื่อรับชมสื่อลามก อนาจาร และยังมีการรับจ้างแฮกเครื่องเกมเพื่อติดตั้งเกมเถื่อนอีกด้วย กระทั่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจพบเส้นเงินที่เชื่อมโยงไปยัง ผู้รับผลประโยชน์ที่แท้จริง นำมาสู่การขออำนาจศาลเพื่อออกหมายจับ

ต่อมาวันที่ 27 ก.พ.68 เวลา 08.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.สอท.1 ได้นำกำลังเข้าตรวจค้นเป้าหมายจำนวน 4 จุด ในพื้นที่ กทม. และ จ.นนทบุรี แบ่งเป็นบ้านพัก 3 จุด และบริษัทรับฝากเซิร์ฟเวอร์ 1 จุด ผลการปฏิบัติ สามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้ 2 ราย คือ น.ส.สุพิชฌาย์ และนายปรีติ ในความผิดฐาน “เพื่อความประสงค์แห่งการค้า หรือโดยการค้า เพื่อการแจกจ่ายหรือเพื่อการแสดงอวดแก่ประชาชน ทำ ผลิต มีไว้ นำเข้า หรือยังให้นำเข้าในราชอาณาจักร ส่งออกหรือยังให้ส่งออกไปนอกราชอาณาจักร พาไปหรือยังให้พาไปหรือทำให้ แพร่หลายโดยประการใดๆ ซึ่งเอกสาร ภาพเขียน ภาพพิมพ์ ภาพระบายสี สิ่งพิมพ์ เครื่องหมาย รูปถ่าย ภาพยนตร์ แถบ บันทึกเสียง แถบบันทึกภาพหรือสิ่งอื่นใดอันลามก, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มี ลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้และเผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดย รู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีลักษณะลามก ทั้งนี้ได้ตรวจยึดสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด ได้แก่ คอมพิวเตอร์13 เครื่อง, เครื่องคอมพิวเตอร์ แบบพกพา (NOTEBOOK) 1 เครื่อง, เครื่องเกม NINTENDO SWITCH 1 เครื่อง, โทรศัพท์มือถือและแท็บเลต 4 เครื่อง, อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ 11 รายการ และ สมุดบัญชีแสดงรายรับรายจ่าย 1 เล่ม นำส่งพนักงานสอบสวน กก.3 บก.สอท.1 เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ กล่าวว่า อีกกรณีได้จับกุมหนุ่มระยองโชว์เก๋าลั่นปืนขึ้นฟ้าหน้าบ้าน โพสต์อวดปืนลงโซเชียลแถมลอบขายอาวุธปืนออนไลน์ พบประวัติ เคยถูกจับกุมมาแล้ว 8 ครั้ง คดีนี้พ.ต.อ.กฤติน ตปสีโล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.1 และเจ้าหน้าที่ ตำรวจในสังกัด กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ ได้ร่วมกันสืบสวนทราบว่า นายวัชระ มีพฤติกรรมลักลอบทำอาวุธปืน ดัดแปลงสภาพอาวุธปืน แล้วนำมาจำหน่ายให้แก่กลุ่มวัยรุ่น และยังมีอาวุธปืนซึ่งเป็นของบุคคลอื่นนำมาฝากขายอยู่ด้วย และทราบอีกว่า นายวัชระ มีพฤติการณ์ชอบยิงปืนที่หน้าบ้านตนเองอยู่เป็นประจำจนสร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนในชุมชนเป็นจำนวนมาก จากการตรวจสอบประวัติของ นายวัชระ พบว่า มีประวัติเคยถูกดำเนินคดี เกี่ยวกับอาวุธปืนและยาเสพติดจำนวน 8 ครั้ง จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอหมายค้น ต่อศาลจังหวัดระยอง


ต่อมาวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา เวลาประมาณ 07.30 น. ตำรวจ กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.1 ได้เข้าตรวจค้นบริเวณบ้านพักแห่งหนึ่ง ซ.ทางเข้าเรือนจำ ถ.จันทอุดม ต.เชิงเนิน อ.เมืองระยอง จ.ระยอง เมื่อไปถึงพบ นายวัชระ แสดงตัวเป็นผู้ครอบครองบ้านหลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่ชุดตรวจค้นจับกุมจึงได้แสดงตัวเป็นตำรวจ พร้อมกับแสดงหมายค้น ผลการตรวจค้นพบอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน ตรวจยึดไว้เป็นของกลางเพื่อตรวจสอบ ดังนี้ อาวุธปืนสั้นชนิดลูกโม่ ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก, กระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 5 นัด, อาวุธปืนสั้น ขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก, อาวุธปืนลูกซองยาวขนาด 12 จำนวน 1 กระบอก, ซองบรรจุกระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 1 อัน, กระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 10 นัด และกระสุนปืนลูกซอง เบอร์ 12 จำนวน 3 นัด ทั้งนี้ได้แจ้งข้อกล่าวหาแก่ นายวัชระ ว่า มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนาย ทะเบียน นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองระยอง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ กล่าวว่า นอกจากนี้ยังได้ตรวจค้นโกดังสินค้าประเภทผลิตภัณฑ์สุขภาพเลี่ยงภาษี ของกลาง 22 รายการ จำนวนกว่า 112,000 ชิ้น รวมมูลค่ากว่า 2,600,000 บาท โดยพ.ต.อ.พิเชียรยศ อรุณพันธกุล ผกก.1 บก.สอท.1 พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดได้ร่วมกันสืบสวนพบการลักลอบนำเข้าสินค้าประเภทผลิตภัณฑ์สุขภาพโดยมิได้มีการชำระภาษีอากร โดยถูกซุกซ่อนไว้บริเวณโกดังแห่งหนึ่ง ภายในซอยนวมินทร์ 70 แยก 6 แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กรุงเทพฯ และโกดังสินค้าแห่งหนึ่งภายในซอยสินสมบูรณ์ แขวงบางบอนเหนือ เขตบางบอน กรุงเทพฯ จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอหมายค้น

ต่อมาวันที่ 27 ก.พ.68 ตำรวจ กก.1 บก.สอท.1 ได้นำกำลังเข้าตรวจค้นโกดังทั้ง 2 แห่งพบสินค้า ประเภทผลิตภัณฑ์สุขภาพที่มีการแสดงฉลากที่ไม่ถูกต้อง จึงได้สอบถามถึงเอกสารหลักฐานการได้มาซึ่งสินค้า และเอกสาร เกี่ยวกับการชำระภาษีอากรของสินค้า ปรากฏว่าเจ้าของสินค้าไม่สามารถนำมาแสดงได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดตรวจค้น จึงทำการตรวจยึดและอายัดสินค้าทั้งหมด 22 รายการ จำนวนกว่า 112,000 ชิ้น รวมมูลค่ากว่า 2,600,000 บาท ทั้งนี้เจ้าของสินค้าดังกล่าวต้องนำเอกสารเกี่ยวกับการชำระภาษีอากรของสินค้า มาแสดงภายใน 7 วัน นับแต่ วันที่ตรวจค้น โดยตำรวจไซเบอร์ได้นำสินค้าที่ตรวจยึดเอามาเก็บรักษาไว้ที่ กก.1 บก.สอท.1 เพื่อตรวจสอบรายละเอียด และดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

อีกคดีตำรวจไซเบอร์ 2 ได้ตรวจค้นแหล่งจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า ย่านตลาดสำโรง ตรวจยึด น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า, หัวเติมบุหรี่ไฟฟ้า และอะไหล่อุปกรณ์บุหรี่ไฟฟ้า กว่า 1200 ชิ้น

พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวว่า ตามนโยบายรัฐบาลที่เร่งรัดสั่งการให้ทุกหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายคุมเข้มและปราบปรามการจำหน่ายนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า โดยเฉพาะในเด็กและเยาวชน กำชับให้ทุกฝ่ายดูแลอย่างเข้มงวด พื้นที่ใกล้โรงเรียน-สถานศึกษาต้องไม่มีการขายให้เยาวชน ทางตำรวจไซเบอร์จึงได้สืบสวนหาข่าวเกี่ยวกับการจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าทางในรูปแบบร้านค้าและผ่านทางช่องทางออนไลน์ กระทั่งพบว่ามีร้านค้าไม่มีเลขที่ ในตลาดสำโรง ต.สำโรงเหนือ อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ ลักลอบจำหน่าย บุหรี่ไฟฟ้าให้กับเด็กและเยาวชน จึงรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอศาลออกหมายค้น

ก่อนนำหมายค้นของศาลจังหวัดสมุทรปราการ ที่ 129 /2568 ลง 27 ก.พ.2568 เข้าตรวจสอบร้านจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าแต่ปรากฏว่าร้านดังกล่าวได้มีการปิดจำหน่าย จึงได้ประสานผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบก่อนตรวจยึดของกลางได้จำนวน 1200 รายการ อย่างไรก็ตามหลังจากนี้จะทำการสืบสวนเพื่อขยายผลหาผู้เช่าร้านดังกล่าวก่อนแจ้งข้อหา ในความผิดฐาน “ขายสินค้าที่คณะกรรมการว่าด้วยความปลอดภัยของสินค้าและบริการสังห้ามขาย เพราะสินค้านั้นเป็นอันตรายแก่ผู้บริโภค(อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.2522 มาตรา 29/9 ประกอบมาตรา 56/4, (ค้าสังคณะกรรมการว่าด้วยความปลอดภัยของสินค้าและบริการที่ 24/2567 ลงวันที่ 8 กรกฎาคม 2567), ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้โดยประการใด ซึ่งของที่มิได้ผ่านพิธีทางศุลกากร ตาม พ.ร.บ.ศุลกากร ม.246” ในส่วนของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.สำโรงเหนือ จ.สมุทรปราการ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.-419.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้ใหญ่บ้านมอบตัว คดียิงชายใหม่ของเมียเก่า ดับคากระบะ

นนทบุรี 20 พ.ค. – ผู้ใหญ่บ้านหึงโหด บุกยิงกิ๊กของอดีตภรรยา 6 นัด เสียชีวิตคารถกระบะ มอบตัวแล้ว เบื้องต้นถูกแจ้งหลายข้อหาหนัก ขณะที่เจ้าตัวฝากขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต นายอานนท์ อายุ 40 ปี ผู้ใหญ่บ้านแห่งหนึ่งใน อ.องครักษ์ จ.นครนายก หึงโหด บุกยิงนายพลาธิป อายุ 34 ปี อาชีพขับรถส่งหมู ซึ่งเป็นกิ๊กของอดีตภรรยา เสียชีวิตภายในรถกระบะที่จอดอยู่ในซอยลาดปลาดุก ถนนบางไผ่-หนองเพรางาย ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เหตุเกิดเมื่อเวลา 21.30 น.ที่ผ่านมา (19 พ.ค.) จากภาพจะเห็นว่าเมื่อเวลา 21.02 น. เห็นผู้ตายขับรถกระบะมาจอดริมทาง ก่อนมีรถกระบะสีดำอีกคันตามมาจอดปิดท้าย จากนั้นผู้ก่อเหตุอยู่ในชุดสวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงขาสั้น เดินลงจากรถ ใช้อาวุธปืนยิงใส่ผู้ตายที่ยังนั่งอยู่ในรถ แล้วหลบหนีไป ช่วงสายที่ผ่านมา (20 พ.ค.) พนักงานสอบสวน สภ.บางบัวทอง เบิกตัวนายอานนท์ ผู้ก่อเหตุ มาสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้ง หลังเมื่อราวตี […]

ขุดลึกลงไป 5 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหาย

กทม. 19 พ.ค.-ทีมค้นหาฝังแผ่นเหล็กชีทไพล์ รอบหลุมเสาเข็ม เพื่อขุดค้นหาผู้ประสบเหตุ ซึ่งขุดลึกลงไป 5 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหาย เวลา 17.00 น. เจ้าหน้าที่ทีมค้นหา ทั้ง กรมป้องกัน และบรรเทาสาธารณะภัย (ปภ.) Usar Thailand เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู และบริษัทรับเหมาเจาะเสาเข็ม ได้ใช้แบคโฮ เริ่มฝังแผ่นเหล็กชีทไพล์ ความยาวประมาณ 16 เมตร รอบหลุมเสาเข็ม 4 ด้าน เพื่อป้องกันดินสไลด์ปิดทับปากหลุมที่รถแบ็คโฮจะทำการขุด เพื่อค้นหาผู้ประสบเหตุ โดยการฝั่งแผ่นชีทไพล์ รอบหลุมเสาเข็ม เนื่องจากการประเมินของเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญทางด้านวิศวกรรม พบว่าดินที่สไลด์ลงมาส่งผลกระทบรุนแรงต่อโครงสร้างอาคาร และเสาไฟฟ้า ในบริเวณที่เกิดเหตุ ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันปัญหาอาคารทรุดตัว เอน และ พังถล่ม จึงจำเป็นต้องนำแผ่นชีทไพล์มากั้น ก่อนทำการขุดดิน และเริ่มค้นหาผู้ประสบเหตุ และหลังจากฝังชีทไพล์ เสร็จสิ้นในเวลา 18.30 น. โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้นำเครื่องโซน่า ลงไปในหลุม เพื่อค้นหาร่างผู้ประสบเหตุ ซึ่งจากการใช้ โซน่าสแกน ร่างของผู้ประสบเหตุ ฝังอยู่ในหลุมลึก […]

พบศพ “ดีเจเตเต้” ถูกอุ้มมัดมือไพล่หลังทิ้งกลางไร่อ้อย

กาญจนบุรี 18 พ.ค. – พบแล้วศพ “ดีเจเตเต้” ถูกอุ้มมัดมือไพล่หลัง นำศพทิ้งกลางไร่อ้อย เมืองกาญจน์ หลังครอบครัวแจ้งช่วยตามหาตัวตั้งแต่คืนวันที่ 14 พ.ค. ตั้งปมสังหารเรื่องชู้สาว ความคืบหน้ากรณี “ดีเจเตเต้” ถูกขับรถตามประกบ ก่อนอุ้มขึ้นรถหายตัวไป เหตุเกิดเมื่อเวลา 03.53 น. ของวันที่ 14 พ.ค. ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งริมถนนแสงชูโต ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ซึ่งหลังเกิดเหตุพ่อของดีเจเตเต้ ได้ออกมาอัดคลิปลงเฟซ บุ๊กเพื่อขอความช่วยเหลือในการตามหาตัวลูกชายที่หายตัวไป ก่อนที่ล่าสุดจะพบว่า กลายเป็นศพอยู่กลางไร่อ้อยเชิงเขาบ้านทุ่งนานางหรอก โดยวันนี้เวลาประมาณ 10.30 น. นายธนพล เสือส่าน กำนันบ้านทุ่งนานางหรอก ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบศพอยู่บริเวณไร่อ้อย หมู่ 3 บ้านทุ่งนานางหรอก ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี คนที่ไปเจอ เป็นน้าชายของนายกอล์ฟคนในหมู่บ้าน ที่ออกไปหาของป่าแล้วไปเจอศพ ในสภาพนอนตะแคง ถูกมือถูกมัดไขว้หลัง แล้วมาบอกหลานชายคือนายกอล์ฟไปดูด้วยกัน แล้วนายกอล์ฟจึงแจ้งให้กำนันทราบ ทางกำนันก็แจ้งเรื่องต่อไปยังตำรวจ สภ.ลาดหญ้า ซึ่งเบื้องต้นศพสวมเสื้อผ้าตรงกับที่เป็นข่าว […]

หาความจริง “แก๊งแม่ชีพันล้าน” ยันไม่ใช่เรื่องจริง

สมุทรสาคร 18 พ.ค. – วงการสงฆ์ยังไม่แผ่ว กระแสแก๊งแม่ชีพันล้านโผล่อีก สำนักพุทธลงตรวจสอบแล้ว แม่ชีที่ถูกกล่าวหา ตอบได้ทุกคำถาม ยืนยันไม่ใช่เรื่องจริง จากกระแสเมื่อวานนี้ (17 พ.ค.) มีเพจหนึ่งนำภาพกลุ่มแม่ชีหลายภาพพร้อมกองธนบัตร และภาพแม่ชีที่แอดมินระบุอ้างว่าเป็นการใส่วิกผม มาโพสต์ลงโซเชียล พร้อข้อความเขียนแจงอย่างละเอียดว่า กรณีมีเพจดังโพสต์ภาพแม่ชีพร้อมข้อความระบุข้อความเด็ดว่า ทำนองว่า “แก๊งแม่ชีพันล้านคุมวัดเบ็ดเสร็จไร้เงาพระ! 1. แม่ชี 2 พี่น้องบริหารวัดลำพังไม่มีไวยาวัจกร ไม่มีกรรมการ ไม่มีมัคทายก ครอบครองที่ดินนับพันไร่แต่ชื่อเจ้าของไม่ใช่วัด บางแปลงเป็นชื่อแม่ชี อาจเข้าข่าย “ถือครองแทน” หรือใช้วัดบังหน้า? ยอดกฐินปีละเกือบ 100 ล้าน! รายชื่อผู้บริจาคซ้ำๆ เดิมๆ ส่วนใหญ่เป็นแม่ชี-คนในวัด ไม่มีอาชีพ ไม่มีธุรกิจ แต่ “บริจาคเป็นล้านทุกปี” ระบบโบนัสแม่ชีสาวช่วยหาทุนได้มาก พาเที่ยวรีสอร์ตหรูปีละครั้ง ใส่วิกเต็มยศ นั้น วันนี้ผู้สื่อข่าวพร้อม นส.สวาท แซ่ตัน ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.สมุทรสาคร นายอิทธิธร สีเหลือง นักวิชาการศาสนาปฏิบัติการ เดินทางไปที่วัดที่แม่ชีในภาพบวชอยู่ ต.บางโทรัด […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 23 พ.ค. – กรมอุตุฯ เตือนประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้นและฝนตกหนักถึงหนักมาก ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ขอให้ประชาชนในบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และเส้นทางที่มีปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมขังในระยะสั้นได้ สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกัน โดยการปรับปรุงระบบทางระบายน้ำในแปลงเพาะปลูก เพื่อลดผลกระทบและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับผลผลิตทางการเกษตรและสัตว์เลี้ยง เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย จะมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับร่องมรสุมพาดผ่านประเทศไทยตอนบนและภาคใต้ตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังแรงขึ้น โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามัน เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบน ควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันดังกล่าวไว้ด้วย กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด […]

นายกฯ หารือภาคท่องเที่ยวอังกฤษ เปิดตลาดใหม่ ดึง นทท.เข้าไทย

ลอนดอน 22 พ.ค. – นายกฯ หารือภาคท่องเที่ยวอังกฤษ เปิดตลาดท่องเที่ยวใหม่ ดึงนักท่องเที่ยวเข้าไทย ตั้งเป้าปี Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025 ทำให้เป็น Tourism Hub ระดับโลก ชี้ 4 เดือนแรก นักท่องเที่ยวยุโรปเข้าไทยแล้วกว่า 3.5 ล้านคน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หารือร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) บริษัทท่องเที่ยวของสหราชอาณาจักร ผู้บริหารสายบิน เป็นต้น เพื่อผลักดันการท่องเที่ยวของไทย จากนั้น น.ส.แพทองธาร โพสต์ข้อความทางโซเชียลมีเดียว่า ปีนี้ไทยตั้งเป้าเป็นปี Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025 ทำให้ไทยเป็น Tourism Hub ระดับโลก ที่ผ่านมารัฐบาลทำแคมเปญหลายอย่าง โดยเฉพาะการมุ่งเป้าทำให้การใช้จ่ายจากนักท่องเที่ยวต่างชาติต่อคนต่อทริป (Spending […]

ปลาติดเชื้อจากสารเคมีปนเปื้อนในแม่น้ำกก

เชียงราย 22 พ.ค. – วิกฤติน้ำกก หลังพบสารหนู-สารเคมีปนเปื้อนจากการทำเหมืองแร่ ลุกลามไปแม่น้ำสายและแม่น้ำโขงแล้ว ล่าสุดตรวจพบปลาในแม่น้ำมีอาการผิดปกติที่ผิวหนัง ส่วนช้างอาบน้ำในน้ำกกมีผื่นและตุ่มใส ติดเชื้อจนเกิดแผล หลังจากมีการตรวจสอบหาสารหนู และสารเคมีอื่นๆ ในแม่น้ำกก แม่น้ำสาย และแม่น้ำโขง ทำให้พบว่ามีปริมาณเกินกว่ามาตรฐานหมายเท่าตัว จากการทำเหมืองแร่ในรัฐฉาน ประเทศเมียนมา และตรวจพบปลาในแม่น้ำมีอาการผิดปกติที่ผิวหนัง ซึ่งทางกรมประมงได้ติดตามการติดเชื้อของปลาในแม่น้ำทั้ง 3 สาย โดยนำปลาที่ชาวประมงพื้นบ้านจับได้จากแม่น้ำกก แม่น้ำสาย และแม่น้ำโขง นำมาตวรจสอบหาสารตกค้าง และเชื้อโรคที่ปลาได้รับ เพื่อป้องกันการติดเชื้อสู่มนุษย์ หากนำไปบริโภค นายสมเกียรติ เขื่อนเชียงสา นายกสมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิต เปิดเผยว่าสมาคมพยายามจะมอนิเตอร์ปลาในแม่น้ำกก แม่น้ำรวก แม่น้ำโขง เพื่อติดตามว่ามีการติดเชื้อแพร่กระจายไปถึงไหนบ้าง เพื่อจะเก็บตัวอย่างรีบส่งให้กับทางกรมประมง ในการตรวจหาสาเหตุภายในของปลาว่ามีเชื้ออะไรบ้าง ซึ่งต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ ป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อผู้ใช้น้ำ ซึ่งขณะนี้เกิดความวิตก และกังวลใจของชาวประมงที่ได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก ที่ต้องหาปลาในแมน้ำ เมื่อเกิดสถานการณ์ขึ้นการค้าขายปลาเกิดผลกระทบ ทางเศรษฐกิจในชุมชน คนไม่นิยมปลาจากแม่น้ำ ทำให้ขาดรายได้เลี้ยงชีพ นอกจากนี้ที่บ้านรวมมิตร ตำบลแม่ยาว อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย พบว่าน้ำในแม่น้ำกกมีลักษณะขุ่นจัด เมื่อเทียบกับลำห้วยสาขาที่ไหลลงสู่แม่น้ำ ซึ่งมีน้ำใสกว่ามาก เทศบาลตำบลแม่ยาวได้เร่งติดตั้งป้ายเตือนประชาชน […]

“ยิ่งลักษณ์” โพสต์ตัดพ้อ ต้องชดใช้หนี้ที่ไม่ได้ก่อ

กรุงเทพฯ 22 พ.ค.-“ยิ่งลักษณ์” โพสต์หลังศาลปกครองสูงสุด สั่งชดใช้ 10,028 ล้านคดีจำนำข้าว ตัดพ้อ ต้องชดใช้หนี้ที่ไม่ได้ก่อ รับภาระหนี้จากฝ่ายปฏิบัติ ลั่นหนี้หมื่นล้านชดใช้ทั้งชีวิตยังไงก็ไม่มีวันหมด ทำเพื่อชาวนากลับมีบทสรุปที่เจ็บปวด นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความภายหลัง ศาลปกครองสูงสุด มีคำพิพากษาให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตฐานะประธานกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติต้องชดใช้ค่าเสียหายส่วนระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือจีทูจี 10,028 ล้านบาท ว่า “เรียน พี่น้องประชาชนที่เคารพ วันที่ 22 พฤษภาคมปีนี้ เป็นวันครบรอบ 11 ปี รัฐประหาร ซึ่งถือเป็นการยึดอำนาจอธิปไตยของประชาชนทั้งประเทศ และเป็นวันที่ศาลปกครองสูงสุด อ่านคำวินิจฉัยให้ดิฉันต้องชดใช้หนี้กว่า 10,000 ล้านบาท จากคดีระบายข้าว ทั้งที่ดิฉันไม่ได้เป็นจำเลยในคดีนี้ และศาลปกครองกลางได้เคยวินิจฉัยว่าดิฉันไม่ต้องชดใช้ค่าเสียหายในกรณีดังกล่าวมาแล้ว จากคำตัดสินของศาลปกครองสูงสุดในวันนี้ ทำให้ดิฉันต้องชดใช้หนี้ที่ตัวเองไม่ได้ก่อ ความเป็นหัวหน้าฝ่ายบริหารที่ต้องมารับภาระหนี้ที่เกิดจากการระบายข้าวของฝ่ายปฏิบัติ โดยที่ตัวเองไม่ได้เกี่ยวข้องกับกระบวนการเหล่านั้นแต่อย่างใด และศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ก็พิพากษาในคดีของดิฉันว่า ปล่อยปละละเลยในการบริหารโครงการรับจำนำข้าวเท่านั้น นโยบายรับจำนำข้าว เป็นนโยบายของพรรคเพื่อไทย และเป็นนโยบายที่คณะรัฐมนตรีแถลงต่อรัฐสภา ซึ่งรัฐธรรมนูญกำหนดให้ต้องปฏิบัติ มีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศจากฐานราก […]