ตำรวจไซเบอร์ เปิดปฏิบัติการ ทลายรังโลกีย์ อบายมุขออนไลน์

บช.สอท. 27 ก.พ.-ตำรวจไซเบอร์ เปิดปฏิบัติการ ทลายรังโลกีย์ อบายมุขออนไลน์ มอมเมาชาวกรุง จับผู้ต้องหา 9 คน ยึดของกลางอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ 40 ชุด เครื่องสำอางเลี่ยงภาษีกว่า 112,000 ชิ้น ตู้คีบตุ๊กตา บุหรี่ไฟฟ้าพร้อมน้ำยา และอาวุธปืน

บช.สอท. 27 ก.พ.2568 พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ผบช.สอท. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผบก.สอท.1 พล.ต.ต.ศรายุทธ จุณวัตต์ ผบก.สอท.2 พ.ต.อ.ชัยรัตน์ วรุณโณ รองผบก.สอท.2 และตำรวจไซเบอร์เปิดปฏิบัติการทลายรังโลกีย์ อบายมุขออนไลน์ มอมเมา ชาวกรุง สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้รวม 9 คน เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ 5 ราย และความผิดซึ่งหน้า 4 ราย ในความผิดประเภทต่างๆ พร้อมของกลางอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ 40 ชุด, เครื่องสำอางเลี่ยงภาษีกว่า 112,000 ชิ้น, ตู้คีบตุ๊กตา 15 ตู้, ตุ๊กตาของกลาง 255 ชิ้น, บุหรี่ไฟฟ้าพร้อมน้ำยา จำนวน 20 ชุด และ อาวุธปืน จำนวน 4 กระบอก


พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวว่า วันนี้เป็นการแถลงผลระดมกวาดล้างอาชญากรรมของตำรวจไซเบอร์ 1 และตำรวจไซเบอร์ 2 โดยได้มีการระดมสรรพกำลังเพื่อกวาดล้างการกระทำความผิดออนไลน์ทุกประเภท เช่น การจำหน่ายสินค้าไม่ได้คุณภาพ หรือสินค้าหนีภาษี การเล่นเกมละเมิดลิขสิทธิ์และการเผยแพร่สื่อลามกอนาจารโดยนำเครื่องเกมนินเทนโด้มาดัดแปลงเพื่อให้สามารถเล่นเกมละเมิดลิขสิทธิ์ได้ การกวาดล้างจับกุมกลุ่มคนยิงปืนขึ้นฟ้าแล้วโพสต์ลงโซเชียล และจับกุมการลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า ทั้งนี้ตำรวจ ทั้ง 5 กองบังคับการ ต้องออกแผนกวาดล้างอาชญากรรมในพื้นที่อย่างน้อยเดือนละ 2 ครั้ง ยืนยันตำรวจไซเบอร์จะมุ่งมั่นทุ่มเทขับเคลื่อนในการทำงานเพื่อปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ อย่างจริงจัง

พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ กล่าวว่า ได้ปล่อยแถวเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สอท.1 จำนวนกว่า 100 นาย เพื่อระดมกวาดล้างอาชญากรรม ในห้วงวันที่ 28 ก.พ.68 เวลา 06.00 น. บริเวณหน้า บช.สอท. โดยเน้นการปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายที่ได้มีการสั่งการให้เจ้าหน้าที่ ตำรวจไซเบอร์ 1 ทุกกองกำกับการ ร่วมสืบสวนปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกระทำความผิดในลักษณะที่เกี่ยวข้องกับอบายมุขในโลกออนไลน์ที่มอมเมาประชาชน โดยได้เข้าตรวจค้นเแ้าหมาย 7 จุด จากปฏิบัติการดังกล่าวมีผลการปฏิบัติที่สำคัญ


พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ กล่าวว่า ได้จับกุมร้านเกมชื่อดังมีผู้ติดตาม 1.2 แสนราย โดยเปิดเพจรับจ้างแฮกเครื่องเกมนินเทนโด้ เพื่อติดตั้งเกมเถื่อน พร้อมพ่วงโปรแกรมรับชมสื่อ ลามกออนไลน์ผ่านระบบสตรีมมิ่ง โดยขายแพ็คเกจเริ่มต้นตั้งแต่ 1,000-7,900 บาท โดยตำรวจชุดจับกุมนำโดย พ.ต.อ.ศุภรฐโชติ จำหงษ์ ผกก.3 บก.สอท.1 ได้ร่วมทำการสืบสวนเพจเฟซบุ๊กบัญชีหนึ่งทราบว่ามีการจัดจำหน่ายและเผยแพร่สื่อลามกอนาจารในรูปแบบต่างๆ เช่น แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งสื่อลามกอนาจาร, เกมลามกอนาจาร และดัดแปลงเครื่องเล่นเกมเพื่อรับชมสื่อลามก อนาจาร และยังมีการรับจ้างแฮกเครื่องเกมเพื่อติดตั้งเกมเถื่อนอีกด้วย กระทั่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจพบเส้นเงินที่เชื่อมโยงไปยัง ผู้รับผลประโยชน์ที่แท้จริง นำมาสู่การขออำนาจศาลเพื่อออกหมายจับ

ต่อมาวันที่ 27 ก.พ.68 เวลา 08.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.สอท.1 ได้นำกำลังเข้าตรวจค้นเป้าหมายจำนวน 4 จุด ในพื้นที่ กทม. และ จ.นนทบุรี แบ่งเป็นบ้านพัก 3 จุด และบริษัทรับฝากเซิร์ฟเวอร์ 1 จุด ผลการปฏิบัติ สามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้ 2 ราย คือ น.ส.สุพิชฌาย์ และนายปรีติ ในความผิดฐาน “เพื่อความประสงค์แห่งการค้า หรือโดยการค้า เพื่อการแจกจ่ายหรือเพื่อการแสดงอวดแก่ประชาชน ทำ ผลิต มีไว้ นำเข้า หรือยังให้นำเข้าในราชอาณาจักร ส่งออกหรือยังให้ส่งออกไปนอกราชอาณาจักร พาไปหรือยังให้พาไปหรือทำให้ แพร่หลายโดยประการใดๆ ซึ่งเอกสาร ภาพเขียน ภาพพิมพ์ ภาพระบายสี สิ่งพิมพ์ เครื่องหมาย รูปถ่าย ภาพยนตร์ แถบ บันทึกเสียง แถบบันทึกภาพหรือสิ่งอื่นใดอันลามก, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มี ลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้และเผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดย รู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีลักษณะลามก ทั้งนี้ได้ตรวจยึดสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด ได้แก่ คอมพิวเตอร์13 เครื่อง, เครื่องคอมพิวเตอร์ แบบพกพา (NOTEBOOK) 1 เครื่อง, เครื่องเกม NINTENDO SWITCH 1 เครื่อง, โทรศัพท์มือถือและแท็บเลต 4 เครื่อง, อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ 11 รายการ และ สมุดบัญชีแสดงรายรับรายจ่าย 1 เล่ม นำส่งพนักงานสอบสวน กก.3 บก.สอท.1 เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ กล่าวว่า อีกกรณีได้จับกุมหนุ่มระยองโชว์เก๋าลั่นปืนขึ้นฟ้าหน้าบ้าน โพสต์อวดปืนลงโซเชียลแถมลอบขายอาวุธปืนออนไลน์ พบประวัติ เคยถูกจับกุมมาแล้ว 8 ครั้ง คดีนี้พ.ต.อ.กฤติน ตปสีโล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.1 และเจ้าหน้าที่ ตำรวจในสังกัด กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ ได้ร่วมกันสืบสวนทราบว่า นายวัชระ มีพฤติกรรมลักลอบทำอาวุธปืน ดัดแปลงสภาพอาวุธปืน แล้วนำมาจำหน่ายให้แก่กลุ่มวัยรุ่น และยังมีอาวุธปืนซึ่งเป็นของบุคคลอื่นนำมาฝากขายอยู่ด้วย และทราบอีกว่า นายวัชระ มีพฤติการณ์ชอบยิงปืนที่หน้าบ้านตนเองอยู่เป็นประจำจนสร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนในชุมชนเป็นจำนวนมาก จากการตรวจสอบประวัติของ นายวัชระ พบว่า มีประวัติเคยถูกดำเนินคดี เกี่ยวกับอาวุธปืนและยาเสพติดจำนวน 8 ครั้ง จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอหมายค้น ต่อศาลจังหวัดระยอง


ต่อมาวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา เวลาประมาณ 07.30 น. ตำรวจ กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.1 ได้เข้าตรวจค้นบริเวณบ้านพักแห่งหนึ่ง ซ.ทางเข้าเรือนจำ ถ.จันทอุดม ต.เชิงเนิน อ.เมืองระยอง จ.ระยอง เมื่อไปถึงพบ นายวัชระ แสดงตัวเป็นผู้ครอบครองบ้านหลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่ชุดตรวจค้นจับกุมจึงได้แสดงตัวเป็นตำรวจ พร้อมกับแสดงหมายค้น ผลการตรวจค้นพบอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน ตรวจยึดไว้เป็นของกลางเพื่อตรวจสอบ ดังนี้ อาวุธปืนสั้นชนิดลูกโม่ ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก, กระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 5 นัด, อาวุธปืนสั้น ขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก, อาวุธปืนลูกซองยาวขนาด 12 จำนวน 1 กระบอก, ซองบรรจุกระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 1 อัน, กระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 10 นัด และกระสุนปืนลูกซอง เบอร์ 12 จำนวน 3 นัด ทั้งนี้ได้แจ้งข้อกล่าวหาแก่ นายวัชระ ว่า มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนาย ทะเบียน นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองระยอง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ กล่าวว่า นอกจากนี้ยังได้ตรวจค้นโกดังสินค้าประเภทผลิตภัณฑ์สุขภาพเลี่ยงภาษี ของกลาง 22 รายการ จำนวนกว่า 112,000 ชิ้น รวมมูลค่ากว่า 2,600,000 บาท โดยพ.ต.อ.พิเชียรยศ อรุณพันธกุล ผกก.1 บก.สอท.1 พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดได้ร่วมกันสืบสวนพบการลักลอบนำเข้าสินค้าประเภทผลิตภัณฑ์สุขภาพโดยมิได้มีการชำระภาษีอากร โดยถูกซุกซ่อนไว้บริเวณโกดังแห่งหนึ่ง ภายในซอยนวมินทร์ 70 แยก 6 แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กรุงเทพฯ และโกดังสินค้าแห่งหนึ่งภายในซอยสินสมบูรณ์ แขวงบางบอนเหนือ เขตบางบอน กรุงเทพฯ จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอหมายค้น

ต่อมาวันที่ 27 ก.พ.68 ตำรวจ กก.1 บก.สอท.1 ได้นำกำลังเข้าตรวจค้นโกดังทั้ง 2 แห่งพบสินค้า ประเภทผลิตภัณฑ์สุขภาพที่มีการแสดงฉลากที่ไม่ถูกต้อง จึงได้สอบถามถึงเอกสารหลักฐานการได้มาซึ่งสินค้า และเอกสาร เกี่ยวกับการชำระภาษีอากรของสินค้า ปรากฏว่าเจ้าของสินค้าไม่สามารถนำมาแสดงได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดตรวจค้น จึงทำการตรวจยึดและอายัดสินค้าทั้งหมด 22 รายการ จำนวนกว่า 112,000 ชิ้น รวมมูลค่ากว่า 2,600,000 บาท ทั้งนี้เจ้าของสินค้าดังกล่าวต้องนำเอกสารเกี่ยวกับการชำระภาษีอากรของสินค้า มาแสดงภายใน 7 วัน นับแต่ วันที่ตรวจค้น โดยตำรวจไซเบอร์ได้นำสินค้าที่ตรวจยึดเอามาเก็บรักษาไว้ที่ กก.1 บก.สอท.1 เพื่อตรวจสอบรายละเอียด และดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

อีกคดีตำรวจไซเบอร์ 2 ได้ตรวจค้นแหล่งจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า ย่านตลาดสำโรง ตรวจยึด น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า, หัวเติมบุหรี่ไฟฟ้า และอะไหล่อุปกรณ์บุหรี่ไฟฟ้า กว่า 1200 ชิ้น

พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวว่า ตามนโยบายรัฐบาลที่เร่งรัดสั่งการให้ทุกหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายคุมเข้มและปราบปรามการจำหน่ายนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า โดยเฉพาะในเด็กและเยาวชน กำชับให้ทุกฝ่ายดูแลอย่างเข้มงวด พื้นที่ใกล้โรงเรียน-สถานศึกษาต้องไม่มีการขายให้เยาวชน ทางตำรวจไซเบอร์จึงได้สืบสวนหาข่าวเกี่ยวกับการจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าทางในรูปแบบร้านค้าและผ่านทางช่องทางออนไลน์ กระทั่งพบว่ามีร้านค้าไม่มีเลขที่ ในตลาดสำโรง ต.สำโรงเหนือ อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ ลักลอบจำหน่าย บุหรี่ไฟฟ้าให้กับเด็กและเยาวชน จึงรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอศาลออกหมายค้น

ก่อนนำหมายค้นของศาลจังหวัดสมุทรปราการ ที่ 129 /2568 ลง 27 ก.พ.2568 เข้าตรวจสอบร้านจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าแต่ปรากฏว่าร้านดังกล่าวได้มีการปิดจำหน่าย จึงได้ประสานผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบก่อนตรวจยึดของกลางได้จำนวน 1200 รายการ อย่างไรก็ตามหลังจากนี้จะทำการสืบสวนเพื่อขยายผลหาผู้เช่าร้านดังกล่าวก่อนแจ้งข้อหา ในความผิดฐาน “ขายสินค้าที่คณะกรรมการว่าด้วยความปลอดภัยของสินค้าและบริการสังห้ามขาย เพราะสินค้านั้นเป็นอันตรายแก่ผู้บริโภค(อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.2522 มาตรา 29/9 ประกอบมาตรา 56/4, (ค้าสังคณะกรรมการว่าด้วยความปลอดภัยของสินค้าและบริการที่ 24/2567 ลงวันที่ 8 กรกฎาคม 2567), ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้โดยประการใด ซึ่งของที่มิได้ผ่านพิธีทางศุลกากร ตาม พ.ร.บ.ศุลกากร ม.246” ในส่วนของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.สำโรงเหนือ จ.สมุทรปราการ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.-419.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีต ผกก.ขับรถปาดหน้า-ชัก M16 ขู่อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง

สงขลา 11 พ.ค. – การเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล และนายกเทศมนตรี เดือด ลูกชาย สส.สงขลา ทำร้ายตำรวจคุมหน่วย ส่วน จ.นครศรีธรรมราช อดีตผู้กำกับขับรถปาดหน้าและชักปืน M16 ขู่อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง การเลือกตั้งนายกเทศมนตรีที่วัง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เดือด นายชวลิต เจริญพงษ์ อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง และปัจจุบันเป็นผู้สมัครรองนายกเทศมนตรีที่วัง เบอร์ 2 เข้าแจ้งความที่ สภ.กะปาง ว่าถูก พ.ต.อ.พิรุณ อดีต ผกก.ที่ปรึกษาผู้สมัครนายกเทศมนตรีอีกทีม ขับรถไล่ตามและใช้ปืน M16 ข่มขู่ โดยก่อนเกิดเหตุได้ไปกินข้าวที่ร้านอาหารกับผู้ใหญ่บ้าน ม.1 ต.ที่วัง ได้เจ้อกับลูกน้องคนสนิทของ พ.ต.อ.พิรุณ พร้อมพวก เข้ามาพูดจาข่มขู่ พวกตนจึงหนีขึ้นรถเพื่อตัดปัญหา แต่ปรากฏว่าเมื่ออกจากร้านได้เพียง 10 เมตร พ.ต.อ.พิรุณ ได้ขับรถแวนเชฟโรเลตสีขาวปาดหน้า และลงจากรถพร้อมปืน M16 วิ่งมาที่รถของตน เห็นท่าไม่ดี จึงหักพวงมาลัยขับรถหนีและเข้ามาแจ้งความ ระหว่างนั้น พ.ต.อ.พิรุณ พร้อมพวก […]

เร่งล่ามือฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์ม

ตรัง 11 พ.ค. – เร่งล่าคนร้ายโหดฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์มใน อ.สิเกา จ.ตรัง ล่าสุดตำรวจรู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้ว วันนี้ (11 พ.ค. 68) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สิเกา จ.ตรัง เข้าตรวจสอบภายในสวนปาล์มน้ำมันแห่งหนึ่ง พื้นที่หมู่ 1 หลังได้รับแจ้งมีเหตุฆ่าเผานั่งยาง ที่เกิดเหตุเป็นสวนปาล์มน้ำมัน สภาพรกทึบ ห่างจากถนนสายตรัง-สิเกา ไปตามถนนลูกรังกว่า 5 กม. พบเศษยางรถยนต์นับสิบเส้น และพบชิ้นส่วนคล้ายเศษเนื้อและอวัยวะของมนุษย์ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และหน่วยกู้ภัย เข้าเก็บชิ้นส่วน พบร่างมนุษย์ในกองเถ้าถ่าน 3 ร่าง จึงส่งชันสูตรหาร่องรอยหลักฐานที่เกี่ยวข้อง หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ คีตโมทนียกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง พร้อมเจ้าหน้าที่กองปราบฯ เจ้าหน้าที่ สภ.สิเกา ฝ่ายสืบสวน และฝ่ายปกครอง ร่วมตรวจพื้นที่คลี่คลายคดีและเก็บพยานหลักฐาน โดยในที่เกิดเหตุเป็นร่องสวนปาล์มติดกับขนำร้างคอนกรีตมุงกระเบื้อง ซึ่งเจ้าของสวนสร้างเอาไว้ให้คนงานหลบแดด แต่ไม่มีผู้พักอาศัย พบร่องรอยกองเลือด ปลอกกระสุน แกลลอนน้ำมัน จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เดินตรวจสอบบริเวณโดยรอบ […]

ผบ.ตร. สั่งกองวินัยเตรียมสอบ ปมมติแพทยสภาลงโทษหมอ

ผบ.ตร. รับทราบกรณีแพทยสภาลงโทษหมอ ปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 สั่งกองวินัยเตรียมสอบ หากเป็นแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ

คณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษ 3 แพทย์ เซ่นปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14

คณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษแพทย์ 3 ท่าน เซ่นปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ โดยว่ากล่าวตักเตือน 1 ท่าน พักใช้ใบประกอบวิชาชีพ 2 ท่าน เผยมติที่ประชุมมีความเห็น “เป็นเสียงส่วนใหญ่มาก มาก มาก”

ข่าวแนะนำ

ตร.ตรัง เร่งขอศาลออกหมายจับ มือฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ

ตรัง 12 พ.ค.- ตร.ตรัง เร่งขอศาลออกหมายจับมือฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ ขณะที่ญาตินิมนต์พระทำพิธีอัญเชิญดวงวิญญาณกลับบ้าน วันที่ 12 พฤษภาคม 2568 เมื่อเวลา 13.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดตรัง ลงพื้นที่สวนปาล์มน้ำมัน เนื้อที่ 170 ไร่ จุดเกิดเหตุกลุ่มคนร้ายยิงและเผานั่งยางผู้จัดการสวน เพื่อนร่วมงาน และลูกน้องรวม 3 ศพ และจุดพบศพปริศนาถูกเผาและฝังดินอีก 1 ศพ ในพื้นใกล้กัน รวมทั้งหมดเป็น 4 ศพ โดยเป็นการลงพื้นที่ซ้ำ เพื่อตรวจหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมในบริเวณที่เกิดเหตุ โดยเฉพาะบริเวณขนำจุดยิงผู้ตายทั้ง 3 ราย ก่อนนำไปจุดไฟเผา โดยตำรวจพบหัวกระสุนปืนขนาด 11 มม.เพิ่มเติมอีก 1 หัว แต่ทั้งนี้ พบอุปสรรคสำคัญในการทำงานเก็บพยานหลักฐาน เนื่องจากในพื้นที่ได้เกิดฝนตกลงมาเป็นระยะ ๆ ทำให้ร่องรอยพยานหลักฐานบางอย่างถูกทำลาย ซึ่งขณะนี้ทำให้ทราบว่าขณะเกิดเหตุมีการใช้อาวุธปืนหลายขนาด เพราะพบหัวกระสุนปืนในที่เกิดเหตุ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดียังคงกระจายกำลังกันลงพื้นที่เพื่อสืบสวนหาข่าวในพื้นที่ อ.สิเกา อ.วังวิเศษ จ.ตรัง และต.ทรายขาว […]

ออกหมายจับ สจ.คนดังพร้อมพวก รุมทำร้าย ตร.คาหน่วยเลือกตั้ง

สงขลา 12 พ.ค.- ศาลจังหวัดสงขลาออกหมายจับ สจ.คนดัง พร้อมพวกรวม 7 คน หลังก่อเหตุรุมทำร้าย ‘ด.ต.’ คาหน่วยเลือกตั้ง จ.สงขลา ขณะที่ ผบ.ตร.สั่งเอาผิด พวกทำตัวเหนือกฎหมาย จากกรณีสมาชิกสภา อบจ.สงขลา บุตรชาย สส.สงขลา ก่อเหตุสั่งให้ลูกน้อง 6 คน รุมทำร้ายร่างกาย ด.ต.นิสาธิต สังกัด ตชด.43 ปฏิบัติหน้าที่เจ้าพนักงานรักษาความสงบเรียบร้อยหน่วยเลือกตั้ง บริเวณหน้าหน่วยเลือกตั้งที่ 7 หมู่ 2 ต.พะวง อ.เมือง จ.สงขลาหลัง ส.อบจ.คนดังกล่าว เข้ามาใช้สิทธิที่หน่วย และให้ลูกน้องถ่ายรูป ซึ่งผิดกฎหมายเลือกตั้ง ด.ต.นิสาธิต จึงได้เข้าไปตักเตือน สร้างความไม่พอใจ ก่อนขับรถออกจากหน่วยเลือกตั้ง จากนั้นมีกลุ่มชายชกรรจ์ 5-7 คน เข้ามาที่หน่วยเลือกตั้ง และรุมทำร้าย ด.ต.นิสาธิต บาดเจ็บ ต่อหน้าต่อตาชาวบ้านที่มาใช้สิทธิเลือกตั้ง อ้างว่าลูกพี่ใหญ่ ไม่มีใครกล้าทำอะไร ล่าสุด ศาลจังหวัดสงขลาอนุมัติหมายจับผู้ก่อเหตุทั้งหมด 7 […]

เพลิงไหม้มาราธอน โหมโรงงานเฟอร์นิเจอร์ ยังคุมไม่ได้

12 พ.ค.- ยังไม่ดับ! ไฟไหม้โรงงานเฟอร์นิเจอร์ ย่านลาดกระบัง ต้นเพลิงอยู่ที่ชั้นใต้ดิน ยังไม่สามารถลงไปได้ ผู้ว่าฯ ชัชชาติ รุดลงพื้นที่ สั่งอพยพชาวบ้านใกล้เคียง เร่งช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ ยืนยันสถานการณ์จะคลี่คลายภายในวันนี้ เพลิงไหม้โรงงานเฟอร์นิเจอร์ ซอยฉลองกรุง 55 แขวงลำปลาทิว เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ ลุกโหมมาตั้งแต่ช่วงเย็นวานนี้ ก่อนเจ้าหน้าที่ระดมรถดับเพลิงเข้าควบคุมสถานการณ์ ตลอดทั้งคืน ยังมีไฟปะทุออกจากชั้นใต้ดินของโครงสร้างอาคาร     ล่าสุดเช้าวันนี้ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมทีมวิศวกรผู้ เชี่ยวชาญด้านอาคารโรงงานอุตสาหกรรม ตำรวจ และทีมกู้ภัย เร่งเข้าตรวจสอบความเสียหายรอบพื้นที่โรงงาน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เผยว่า มอบหมายให้ ดร.สุรจิตต์ พงษ์สิงห์วิทยา(ดร.จอร์น) ประธานสภากรุงเทพมหานคร และนายธราพงษ์ เพ็ชรคง ผู้อำนวยการสำนักงานเขตลาดกระบัง ลงพื้นที่ตั้งศูนย์บัญชาการเหตุยังจุดเกิดเหตุ ส่วนแนวทางปฏิบัติการ เตรียมใช้โฟมประกอบน้ำ ฉีดเข้าจุดที่ยังคงมีเพลิงปะทุคาดว่าจะควบคุมสถานการณ์ให้อยู่ในวงจำกัดได้ภายในช่วงเที่ยงวันนี้   ขณะที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงระบุว่า ต้นเพลิงอยู่ที่ชั้นใต้ดิน แต่ยังไม่สามารถลงไปได้ เนื่องจากมีกลุ่มควันและความร้อนสูง จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์พิเศษ หน้ากากออกซิเจน […]

กทม.ประกาศยุติค้นหาผู้สูญหายใต้ซากตึก สตง.

กรุงเทพฯ 12 พ.ค. – กทม. ประกาศยุติการค้นหาผู้สูญหายใต้ซากตึก สตง. ด้านรองผู้ว่าฯ กทม. สั่งลดระดับกองปูนซากตึกข้างศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง จาก 9 เมตร เหลือ 6 เมตร ป้องกันอันตรายและง่ายต่อการค้นหาหากมีชิ้นส่วนที่เหลือติดค้างอยู่ เมื่อเวลา 10.30 น.ที่ผ่านมา (12 พ.ค. 68) ที่กองอำนวยกาารร่วม สน.บางซื่อ ห้างสรรพสินค้าเจเจมอลล์ ถ.กำแพงเพชร 2 แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ประกาศยุติค้นหาผู้สูญหายจากเหตุอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ถล่ม รศ.ทวิดา เปิดเผยว่า วันนี้การค้นหาผู้ติดค้างภายในซากอาคารดังกล่าวยุติทั้งหมดแล้ว และเวลา 17.00 น. วันนี้ ทีมสุนัข K9 จะเข้าสำรวจความชัดเจนบริเวณกองซากวัสดุอาคาร สตง. หลังศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง เพื่อให้เเน่ใจว่าจะไม่มีชิ้นส่วนมนุษย์หลงเหลืออยู่แล้ว ส่วนด้านเครื่องจักรในพื้นที่จะยังคงทำงานอยู่ เนื่องจากจะมีการขนซากเศษปูนที่อยู่ตรงโซน A ทั้งหมด ย้ายออกไปหลังศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง โดยในเวลา […]