ตำรวจไซเบอร์ เปิดปฏิบัติการ ทลายรังโลกีย์ อบายมุขออนไลน์

บช.สอท. 27 ก.พ.-ตำรวจไซเบอร์ เปิดปฏิบัติการ ทลายรังโลกีย์ อบายมุขออนไลน์ มอมเมาชาวกรุง จับผู้ต้องหา 9 คน ยึดของกลางอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ 40 ชุด เครื่องสำอางเลี่ยงภาษีกว่า 112,000 ชิ้น ตู้คีบตุ๊กตา บุหรี่ไฟฟ้าพร้อมน้ำยา และอาวุธปืน

บช.สอท. 27 ก.พ.2568 พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ผบช.สอท. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผบก.สอท.1 พล.ต.ต.ศรายุทธ จุณวัตต์ ผบก.สอท.2 พ.ต.อ.ชัยรัตน์ วรุณโณ รองผบก.สอท.2 และตำรวจไซเบอร์เปิดปฏิบัติการทลายรังโลกีย์ อบายมุขออนไลน์ มอมเมา ชาวกรุง สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้รวม 9 คน เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ 5 ราย และความผิดซึ่งหน้า 4 ราย ในความผิดประเภทต่างๆ พร้อมของกลางอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ 40 ชุด, เครื่องสำอางเลี่ยงภาษีกว่า 112,000 ชิ้น, ตู้คีบตุ๊กตา 15 ตู้, ตุ๊กตาของกลาง 255 ชิ้น, บุหรี่ไฟฟ้าพร้อมน้ำยา จำนวน 20 ชุด และ อาวุธปืน จำนวน 4 กระบอก


พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวว่า วันนี้เป็นการแถลงผลระดมกวาดล้างอาชญากรรมของตำรวจไซเบอร์ 1 และตำรวจไซเบอร์ 2 โดยได้มีการระดมสรรพกำลังเพื่อกวาดล้างการกระทำความผิดออนไลน์ทุกประเภท เช่น การจำหน่ายสินค้าไม่ได้คุณภาพ หรือสินค้าหนีภาษี การเล่นเกมละเมิดลิขสิทธิ์และการเผยแพร่สื่อลามกอนาจารโดยนำเครื่องเกมนินเทนโด้มาดัดแปลงเพื่อให้สามารถเล่นเกมละเมิดลิขสิทธิ์ได้ การกวาดล้างจับกุมกลุ่มคนยิงปืนขึ้นฟ้าแล้วโพสต์ลงโซเชียล และจับกุมการลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า ทั้งนี้ตำรวจ ทั้ง 5 กองบังคับการ ต้องออกแผนกวาดล้างอาชญากรรมในพื้นที่อย่างน้อยเดือนละ 2 ครั้ง ยืนยันตำรวจไซเบอร์จะมุ่งมั่นทุ่มเทขับเคลื่อนในการทำงานเพื่อปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ อย่างจริงจัง

พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ กล่าวว่า ได้ปล่อยแถวเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สอท.1 จำนวนกว่า 100 นาย เพื่อระดมกวาดล้างอาชญากรรม ในห้วงวันที่ 28 ก.พ.68 เวลา 06.00 น. บริเวณหน้า บช.สอท. โดยเน้นการปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายที่ได้มีการสั่งการให้เจ้าหน้าที่ ตำรวจไซเบอร์ 1 ทุกกองกำกับการ ร่วมสืบสวนปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกระทำความผิดในลักษณะที่เกี่ยวข้องกับอบายมุขในโลกออนไลน์ที่มอมเมาประชาชน โดยได้เข้าตรวจค้นเแ้าหมาย 7 จุด จากปฏิบัติการดังกล่าวมีผลการปฏิบัติที่สำคัญ


พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ กล่าวว่า ได้จับกุมร้านเกมชื่อดังมีผู้ติดตาม 1.2 แสนราย โดยเปิดเพจรับจ้างแฮกเครื่องเกมนินเทนโด้ เพื่อติดตั้งเกมเถื่อน พร้อมพ่วงโปรแกรมรับชมสื่อ ลามกออนไลน์ผ่านระบบสตรีมมิ่ง โดยขายแพ็คเกจเริ่มต้นตั้งแต่ 1,000-7,900 บาท โดยตำรวจชุดจับกุมนำโดย พ.ต.อ.ศุภรฐโชติ จำหงษ์ ผกก.3 บก.สอท.1 ได้ร่วมทำการสืบสวนเพจเฟซบุ๊กบัญชีหนึ่งทราบว่ามีการจัดจำหน่ายและเผยแพร่สื่อลามกอนาจารในรูปแบบต่างๆ เช่น แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งสื่อลามกอนาจาร, เกมลามกอนาจาร และดัดแปลงเครื่องเล่นเกมเพื่อรับชมสื่อลามก อนาจาร และยังมีการรับจ้างแฮกเครื่องเกมเพื่อติดตั้งเกมเถื่อนอีกด้วย กระทั่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจพบเส้นเงินที่เชื่อมโยงไปยัง ผู้รับผลประโยชน์ที่แท้จริง นำมาสู่การขออำนาจศาลเพื่อออกหมายจับ

ต่อมาวันที่ 27 ก.พ.68 เวลา 08.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.สอท.1 ได้นำกำลังเข้าตรวจค้นเป้าหมายจำนวน 4 จุด ในพื้นที่ กทม. และ จ.นนทบุรี แบ่งเป็นบ้านพัก 3 จุด และบริษัทรับฝากเซิร์ฟเวอร์ 1 จุด ผลการปฏิบัติ สามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้ 2 ราย คือ น.ส.สุพิชฌาย์ และนายปรีติ ในความผิดฐาน “เพื่อความประสงค์แห่งการค้า หรือโดยการค้า เพื่อการแจกจ่ายหรือเพื่อการแสดงอวดแก่ประชาชน ทำ ผลิต มีไว้ นำเข้า หรือยังให้นำเข้าในราชอาณาจักร ส่งออกหรือยังให้ส่งออกไปนอกราชอาณาจักร พาไปหรือยังให้พาไปหรือทำให้ แพร่หลายโดยประการใดๆ ซึ่งเอกสาร ภาพเขียน ภาพพิมพ์ ภาพระบายสี สิ่งพิมพ์ เครื่องหมาย รูปถ่าย ภาพยนตร์ แถบ บันทึกเสียง แถบบันทึกภาพหรือสิ่งอื่นใดอันลามก, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มี ลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้และเผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดย รู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีลักษณะลามก ทั้งนี้ได้ตรวจยึดสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด ได้แก่ คอมพิวเตอร์13 เครื่อง, เครื่องคอมพิวเตอร์ แบบพกพา (NOTEBOOK) 1 เครื่อง, เครื่องเกม NINTENDO SWITCH 1 เครื่อง, โทรศัพท์มือถือและแท็บเลต 4 เครื่อง, อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ 11 รายการ และ สมุดบัญชีแสดงรายรับรายจ่าย 1 เล่ม นำส่งพนักงานสอบสวน กก.3 บก.สอท.1 เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ กล่าวว่า อีกกรณีได้จับกุมหนุ่มระยองโชว์เก๋าลั่นปืนขึ้นฟ้าหน้าบ้าน โพสต์อวดปืนลงโซเชียลแถมลอบขายอาวุธปืนออนไลน์ พบประวัติ เคยถูกจับกุมมาแล้ว 8 ครั้ง คดีนี้พ.ต.อ.กฤติน ตปสีโล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.1 และเจ้าหน้าที่ ตำรวจในสังกัด กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ ได้ร่วมกันสืบสวนทราบว่า นายวัชระ มีพฤติกรรมลักลอบทำอาวุธปืน ดัดแปลงสภาพอาวุธปืน แล้วนำมาจำหน่ายให้แก่กลุ่มวัยรุ่น และยังมีอาวุธปืนซึ่งเป็นของบุคคลอื่นนำมาฝากขายอยู่ด้วย และทราบอีกว่า นายวัชระ มีพฤติการณ์ชอบยิงปืนที่หน้าบ้านตนเองอยู่เป็นประจำจนสร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนในชุมชนเป็นจำนวนมาก จากการตรวจสอบประวัติของ นายวัชระ พบว่า มีประวัติเคยถูกดำเนินคดี เกี่ยวกับอาวุธปืนและยาเสพติดจำนวน 8 ครั้ง จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอหมายค้น ต่อศาลจังหวัดระยอง


ต่อมาวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา เวลาประมาณ 07.30 น. ตำรวจ กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.1 ได้เข้าตรวจค้นบริเวณบ้านพักแห่งหนึ่ง ซ.ทางเข้าเรือนจำ ถ.จันทอุดม ต.เชิงเนิน อ.เมืองระยอง จ.ระยอง เมื่อไปถึงพบ นายวัชระ แสดงตัวเป็นผู้ครอบครองบ้านหลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่ชุดตรวจค้นจับกุมจึงได้แสดงตัวเป็นตำรวจ พร้อมกับแสดงหมายค้น ผลการตรวจค้นพบอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน ตรวจยึดไว้เป็นของกลางเพื่อตรวจสอบ ดังนี้ อาวุธปืนสั้นชนิดลูกโม่ ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก, กระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 5 นัด, อาวุธปืนสั้น ขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก, อาวุธปืนลูกซองยาวขนาด 12 จำนวน 1 กระบอก, ซองบรรจุกระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 1 อัน, กระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 10 นัด และกระสุนปืนลูกซอง เบอร์ 12 จำนวน 3 นัด ทั้งนี้ได้แจ้งข้อกล่าวหาแก่ นายวัชระ ว่า มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนาย ทะเบียน นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองระยอง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ กล่าวว่า นอกจากนี้ยังได้ตรวจค้นโกดังสินค้าประเภทผลิตภัณฑ์สุขภาพเลี่ยงภาษี ของกลาง 22 รายการ จำนวนกว่า 112,000 ชิ้น รวมมูลค่ากว่า 2,600,000 บาท โดยพ.ต.อ.พิเชียรยศ อรุณพันธกุล ผกก.1 บก.สอท.1 พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดได้ร่วมกันสืบสวนพบการลักลอบนำเข้าสินค้าประเภทผลิตภัณฑ์สุขภาพโดยมิได้มีการชำระภาษีอากร โดยถูกซุกซ่อนไว้บริเวณโกดังแห่งหนึ่ง ภายในซอยนวมินทร์ 70 แยก 6 แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กรุงเทพฯ และโกดังสินค้าแห่งหนึ่งภายในซอยสินสมบูรณ์ แขวงบางบอนเหนือ เขตบางบอน กรุงเทพฯ จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอหมายค้น

ต่อมาวันที่ 27 ก.พ.68 ตำรวจ กก.1 บก.สอท.1 ได้นำกำลังเข้าตรวจค้นโกดังทั้ง 2 แห่งพบสินค้า ประเภทผลิตภัณฑ์สุขภาพที่มีการแสดงฉลากที่ไม่ถูกต้อง จึงได้สอบถามถึงเอกสารหลักฐานการได้มาซึ่งสินค้า และเอกสาร เกี่ยวกับการชำระภาษีอากรของสินค้า ปรากฏว่าเจ้าของสินค้าไม่สามารถนำมาแสดงได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดตรวจค้น จึงทำการตรวจยึดและอายัดสินค้าทั้งหมด 22 รายการ จำนวนกว่า 112,000 ชิ้น รวมมูลค่ากว่า 2,600,000 บาท ทั้งนี้เจ้าของสินค้าดังกล่าวต้องนำเอกสารเกี่ยวกับการชำระภาษีอากรของสินค้า มาแสดงภายใน 7 วัน นับแต่ วันที่ตรวจค้น โดยตำรวจไซเบอร์ได้นำสินค้าที่ตรวจยึดเอามาเก็บรักษาไว้ที่ กก.1 บก.สอท.1 เพื่อตรวจสอบรายละเอียด และดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

อีกคดีตำรวจไซเบอร์ 2 ได้ตรวจค้นแหล่งจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า ย่านตลาดสำโรง ตรวจยึด น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า, หัวเติมบุหรี่ไฟฟ้า และอะไหล่อุปกรณ์บุหรี่ไฟฟ้า กว่า 1200 ชิ้น

พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวว่า ตามนโยบายรัฐบาลที่เร่งรัดสั่งการให้ทุกหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายคุมเข้มและปราบปรามการจำหน่ายนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า โดยเฉพาะในเด็กและเยาวชน กำชับให้ทุกฝ่ายดูแลอย่างเข้มงวด พื้นที่ใกล้โรงเรียน-สถานศึกษาต้องไม่มีการขายให้เยาวชน ทางตำรวจไซเบอร์จึงได้สืบสวนหาข่าวเกี่ยวกับการจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าทางในรูปแบบร้านค้าและผ่านทางช่องทางออนไลน์ กระทั่งพบว่ามีร้านค้าไม่มีเลขที่ ในตลาดสำโรง ต.สำโรงเหนือ อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ ลักลอบจำหน่าย บุหรี่ไฟฟ้าให้กับเด็กและเยาวชน จึงรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอศาลออกหมายค้น

ก่อนนำหมายค้นของศาลจังหวัดสมุทรปราการ ที่ 129 /2568 ลง 27 ก.พ.2568 เข้าตรวจสอบร้านจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าแต่ปรากฏว่าร้านดังกล่าวได้มีการปิดจำหน่าย จึงได้ประสานผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบก่อนตรวจยึดของกลางได้จำนวน 1200 รายการ อย่างไรก็ตามหลังจากนี้จะทำการสืบสวนเพื่อขยายผลหาผู้เช่าร้านดังกล่าวก่อนแจ้งข้อหา ในความผิดฐาน “ขายสินค้าที่คณะกรรมการว่าด้วยความปลอดภัยของสินค้าและบริการสังห้ามขาย เพราะสินค้านั้นเป็นอันตรายแก่ผู้บริโภค(อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.2522 มาตรา 29/9 ประกอบมาตรา 56/4, (ค้าสังคณะกรรมการว่าด้วยความปลอดภัยของสินค้าและบริการที่ 24/2567 ลงวันที่ 8 กรกฎาคม 2567), ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้โดยประการใด ซึ่งของที่มิได้ผ่านพิธีทางศุลกากร ตาม พ.ร.บ.ศุลกากร ม.246” ในส่วนของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.สำโรงเหนือ จ.สมุทรปราการ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.-419.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทบ.​ เชิญ​ผู้ช่วยทูตทหาร รับฟังข้อเท็จจริง​ปมทุ่นระเบิดช่องบก

กองทัพบก 22 ก.ค.- ทบ.​ เชิญ​ผู้ช่วยทูตทหาร​ 47 ประเทศ​ รับฟังคำชี้แจง​สถานการณ์​ชายแดน​ไทย​-กัมพูชา​ หลังกำลังพลเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บ​ 3 นาย​ พบ เป็นทุ่นระเบิดสังหารบุคคล​วางใหม่​ โดยมีหลายชาติ สนใจรับฟังขณะ​ พลจัตวา​ ฮอม​ คิม ผู้ช่วยทูตทหารดัมพูชา ร่วมด้วย กองบัญชาการ​กองทัพ​บก​ เชิญผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศประจำประเทศไทย​ รับฟังการชี้แจงสถานการณ์​ชายแดนไทย​-กัมพูชา​ ถึงข้อเท็จจริงกรณีไทยโดนรุกล้ำอธิปไตย​ และมีการวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล​ ทำให้ทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย​ และมีการตรวจสอบว่าเป็นการวางทุ่นระเบิดใหม่​ ที่วางในเขตไทย​ ซึ่งขัดต่ออนุสัญญา​ออตตาวา​ ที่ทั้งไทยและกัมพูชาเป็นประเทศภาคี​ที่ให้สัตยาบัน​​ บรรดาทูต​ทหาร​ ทยอยเดินทางมายังห้อง ศรีสิทธิสงคราม​ ภายในกองทัพบก ตั้งแต่เวลา​ 13.20 น.​ อาทิทูตทหารจากเวียดนาม เมียนมา อินเดีย ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ อังกฤษ บูรไน ออสเตเรีย สหรัฐอเมริกา อินโดนิเซีย จีน กัมพูชา เยอรมันนี แคนนาดา […]

พายุวิภากระหน่ำจันทบุรี ซัดหลังคาร้านอาหารถล่ม

จันทบุรี 22 ก.ค. – พายุกระหน่ำจันทบุรี ซัดหลังคาร้านข้าวมันไก่ถล่ม กระแทกหลังแม่เจ้าของร้านได้รับบาดเจ็บ ส่วนที่ภูเก็ตพายุถล่มภูเก็ต ป้ายล้ม-ต้นไม้ทับสาวจีนเสียชีวิต หลังคาร้านข้าวมันไก่ บริเวณตลาดศิริการ อ.เมือง จ.จันทบุรี ถูกพายุพัดร่วงลงมาทั้งแผง ท่ามกลางความตื่นตระหนกของลูกค้าและพนักงานในร้าน เหตุดังกล่าวเกิดช่วงเที่ยงพอดี จึงมีลูกค้ามานั่งกินข้าวเต็มร้าน กระทั่งมีฝนเทลงมา ทางร้านและลูกค้าจึงช่วยกันขนย้ายโต๊ะเก้าอี้เข้าข้างในเพื่อหลบฝน ก่อนพายุจะซัดเข้ามาอย่างรุนแรง จนหลังคาถล่ม เบื้องต้นไม่มีลูกค้าได้รับบาดเจ็บ มีเพียงแม่เจ้าของร้านข้าวมันไก่อีกร้าน ที่อยู่ติดกัน ถูกหลังคากระแทกหลังได้รับบาดเจ็บ นำส่งโรงพยาบาลแล้ว พนักงานร้านข้าวมันไก่ บอกว่า ปกติบริเวณนี้มีฝนตกบ่อย หลังคาแข็งแรงดี ไม่ได้ชำรุดอะไร แต่วันนี้ ลมแรงมาก มาแบบวูบเดียว พัดหลังคาลอยขึ้นก่อนพังลงมา ทั้งนี้ลมพายุได้พัดหลังคาของตึกที่อยู่ในละแวกร้านข้าวมันไก่พังเสียหายจำนวน 15 คูหา เบื้องต้นกำลังทหารและตำรวจ ได้เข้าตรวจสอบ พร้อมให้การช่วยเหลือ ขนย้ายเศษซากหลังคาเคลียร์พื้นที่เพื่อความปลอดภัยแล้ว พายุโซนร้อนวิภาถล่มภูเก็ต ป้ายล้ม-ต้นไม้ทับสาวจีนเสียชีวิต ที่หน้าหาดเกาะเฮ จังหวัดภูเก็ต นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ หอบข้าวของวิ่งหนีลมพายุ จังหวะนั้นต้นไม้ขนาดใหญ่ถูกลมพัดโค่นลงมา ในคลิปจะได้ยินเสียงคนพูดว่า “เห็นไหม คน ๆ อยู่ใต้นั้น” หลังเหตุการณ์สงบ […]

รถบรรทุกพุ่งชน จยย.พ่วงข้างรับส่ง นร. ตาย 3 เจ็บ 6

พระนครศรีอยุธยา 22 ก.ค. – สลด รถบรรทุก 6 ล้อ พุ่งชนรถจักรยานยนต์พ่วงข้างรับส่งนักเรียน มีผู้เสียชีวิต 3 คน บาดเจ็บ 6 คน เกิดอุบัติเหตุรถบรรทุก 6 ล้อ ทะเบียนพระนครศรีอยุธยา พุ่งชนรถจักรยานยนต์พ่วงข้างรับส่งนักเรียน โรงเรียนวัดมณฑลประสิทธิ์ ก่อนตกลงไปในร่องน้ำ บนถนนชนบทเลียบคลองระพีพัฒน์ หมู่ 5 ตำบลวังน้อย อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และอัดกับรั้วบ้านจนรถพังยับ มีผู้ติดอยู่ในรถ 2 คน เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้อุปกรณ์ตัดช่วยเหลือผู้บาดเจ็บทั้ง 2 คนออกมา แต่ผู้โดยสารเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนคนขับบาดเจ็บสาหัส ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง สภาพรถเสียหายยับเยิน คนบนรถ 7 คน เป็นนักเรียนโรงเรียนวัดมณฑลประสิทธิ์ 6 คน ผู้ปกครอง 1 คน บาดเจ็บทั้งหมด เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงช่วยกันนำตัวส่งโรงพยาบาลวังน้อย และมีนักเรียน 2 คนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่มูลนิธิพุทไธสวรรย์ จุดกิตติวังน้อย […]

โฆษก ทบ. เผยนานาชาติเข้าใจไทยเคลียร์ปมทุ่นระเบิด

กองทัพบก 22 ก.ค.- โฆษก ทบ. เผยเคลียร์ปมทุ่นระเบิด นานาชาติเข้าใจไทย ขณะผู้ช่วยทูตทหารกัมพูชานั่งนิ่งไม่โต้แย้ง – ให้กองทัพภาคที่ 2 ประเมินสถานการณ์หลังคนไทยนัดรวมตัวปราสาทตาเมือนธม ปลายเดือนนี้ พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวภายหลังการเชิญผู้ช่วยทูตทหาร รับฟังคำชี้แจง​สถานการณ์​ชายแดน​ไทย​- กัมพูชา​ หลังกำลังพลเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บ​ 3 นาย​ ว่า บรรยากาศเป็นไปด้วยดี ส่วนใหญ่เป็นการรับฟังและมีคำถามบ้าง ถือว่าน้อย เนื่องจากทุกท่านอาจจะได้รับข่าวสารจากช่องทางอื่นมาบ้างแล้ว ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก ที่พยายามบอกกล่าวและชี้แจงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ในเรื่องข้อเท็จจริง พลตรีวินธัย เปิดเผยว่า ทูตทหารของกัมพูชา ไม่ได้ชี้แจงหรือมีคำถามอะไร คำถามส่วนใหญ่มาจากท่านอื่นมากกว่า ที่ถามเรื่องของความมั่นใจและยืนยันใช่หรือไม่ ซึ่งทางเรา ก็ให้เหตุผลไป และจะให้เอกสารชี้แจง ส่วนท่าทีของประเทศมหาอำนาจ ก็ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ ซึ่งการเชิญมาในวันนี้เราก็ทำตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก คือทำให้เป็นทางการ ส่วนการหารือได้ชี้แจงเรื่องของการละเมิด บูรณภาพดินแดน และเอ็มโอยู 2543 และอนุสัญญาออตตาวา ด้วยหรือไม่ พลตรีวินธัย ระบุว่า มีการพูดถึงประเด็นดังกล่าว และได้อธิบายตามหลักอนุสัญญา ที่ทั้งสองประเทศเป็นสมาชิก และเล่าถึงกลไกการแก้ไขปัญหา […]

ข่าวแนะนำ

น้ำท่วมตัวเมืองน่าน-เขตเศรษฐกิจขยายวงกว้าง

น่าน 23 ก.ค. – ตอนนี้น้ำท่วมตัวเมืองน่าน รวมทั้งเขตเศรษฐกิจ ยังเพิ่มสูงขึ้นและแผ่ขยายวงกว้างออกไปเรื่อยๆ หลังระดับน้ำท่วมสูงเกิน 9 เมตร และทะลักเข้าท่วม .-สำนักข่าวไทย

ผบ.ทบ.นำคณะลงช่องอานม้า พรุ่งนี้ จ่อใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ

23 ก.ค.- “ผบ.ทบ.” สั่ง ทภ.2-ทภ.1 เตรียมพร้อม “แผนจักรพงษ์ภูวนาถ” รับมือชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมยกคณะลงพื้นที่บัญชาการ วันที่ 23 ก.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผข.ทบ.) ได้สั่งการไปยังกองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่1 รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา เตรียมใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ แก้ไขปัญหาพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาหลัง กำลังพลของกองทัพบกไทยจากชุดลาดตระเวน พัน.ร.14 ประสบเหตุเหยียบกับระเบิดบริเวณห้วยบอน ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี พิกัด VA 950911 ซึ่งเป็นพื้นที่ปฏิบัติการตามแนวชายแดน โดยส่งผลให้ จ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญโคราช ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการสูญเสียขาขวา และอยู่ระหว่างการส่งตัวรักษาต่อ ณ โรงพยาบาลน้ำยืน โดยให้พร้อมปฏิบัติหน้าที่ทันที เมื่อสั่งการ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พลโท ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสธ ทบ. พลโทบุญสินพาดกลาง มทภ.2 […]

ตอบโต้เขมร! ปิด 4 ด่าน หลังทหารเหยียบกับระเบิดขาขาดอีก 1 ราย

23 ก.ค.- ศบ.ทก. เห็นชอบให้ทัพภาค 2 ปิดด่านชายแดน-สถานที่ท่องเที่ยว 4 จังหวัดอีสานใต้ ตั้งแต่พรุ่งนี้ (24 ก.ค.) หลังล่าสุดทหารไทยเหยียบกับระเบิดขาขาดอีกราย จากกระแสข่าวมีทหารไทยเหยียบกับระเบิดขาขาดบริเวณแนวชายแดนไทยกัมพูชาเมื่อเวลา 16.55 น. นั้น ล่าสุด แหล่งข่าวจากศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ยอมรับว่าเป็นเรื่องจริงโดยกองทัพภาคที่ 2 ได้ปรึกษามาที่ ศบ.ทก. เพื่อขออนุญาตปิดด่านในพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 2 ได้แก่ อุบลราชธานี ศรีษะเกษ สุรินทร์ และบุรีรัมย์ รวมทั้งสถานที่ท่องเที่ยวตามแนวชายแดน เพื่อเป็นการประท้วงกัมพูชา จากการลักลอบวางทุ่นระเบิดที่เกิดขึ้น ซึ่ง ศบ.ทก. เห็นชอบ ขณะเดียวกันจะส่งหนังสือประท้วงโดยใช้กลไก RBC และรายงานกระทรวงต่างประเทศ เพื่อประท้วงต่อไป ดังนั้นตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) จะปิดด่านชายแดนทั้งหมดในพื้นที่ 4 จังหวัดอีสานใต้ของไทย หลังจากที่ฝั่งไทยมีการกำหนดเวลาเปิด-ปิด และในส่วนสถานที่ท่องเที่ยวอย่าง 3 ปราสาท คือ ตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด และตาควาย […]

พายุวิภาทำเชียงรายอ่วม-รพ.เทิง งดรับผู้ป่วยชั่วคราว

เชียงราย 23 ก.ค. – พายุวิภาทำ อ.เทิง จ.เชียงราย อ่วม น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือน พื้นที่การเกษตร โรงพยาบาลเทิง ประกาศงดให้บริการผู้ป่วยทั่วไปชั่วคราว รับเฉพาะผู้ป่วยฉุกเฉินเท่านั้น ด้านนายอำเภอสั่งการเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือชาวบ้านขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง อพยพผู้ป่วยและผู้สูงอายุไปยังที่ปลอดภัย ฝนตกหนักจากอิทธิพลพายุวิภา ทำให้น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรหลายอำเภอใน จ.เชียงราย โดยเฉพาะ อ.เทิง สถานที่ราชการ ได้แก่ สภ.เทิง ศาลจังหวัด และโรงพยาบาลเทิง เกิดน้ำท่วมขัง โรงพยาบาลต้องงดให้บริการผู้ป่วยทั่วไป รับเฉพาะผู้ป่วยฉุกเฉินเท่านั้น ขณะที่สถานการณ์โดยทั่วไปยังมีฝนตกหนัก นายอำเภอเทิงลงพื้นที่ สั่งเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือชาวบ้านขนย้ายของขึ้นที่สูง อพยพผู้ป่วยและผู้สูงอายุไปยังที่ปลอดภัย ส่วนถนนพหลโยธิน ต.นางแล อ.เมืองเชียงราย น้ำป่าจากดอยโป่งพระบาทไหล่เอ่อท่วมถนนด้านขาขึ้น การสัญจรเป็นไปอย่างยากลำบาก ภาพรวมสถานการณ์ จ.เชียงราย เบื้องต้นมีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 5 อำเภอ ประชาชนเดือดร้อนประมาณ 100 ครัวเรือน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย