กรุงเทพฯ 5 ต.ค. – ม.หอการค้าไทยเผยความเชื่อมันผู้บริโภคดีขึ้นต่อเนื่อง หลังการส่งออกและท่องเที่ยวฟื้นตัวชัด แต่ราคาสินค้าเกษตรสำคัญยังต่ำ ฉุดผู้บริโภคไม่รู้สึกว่าเศรษฐกิจดีขึ้น
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการ ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนกันยายนที่ผ่านมาอยู่ที่ระดับ 75 ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่2 เนื่องจากผู้บริโภคมีความหวังว่าเศรษฐกิจไทยในอนาคตจะปรับตัวดีขึ้นจากการส่งออกและการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวครึ่งปีหลัง ขณะเดียวกันการลงทุนของภาครัฐที่กำลังจะเกิดในช่วงครึ่งปีหลังเป็นปัจจัยช่วยกระตุ้นความเชื่อมั่นมากขึ้น แต่ผู้บริโภคยังกังวลราคาพืชผลทางการเกษตรที่ยังต่ำ ทั้งข้าว ยางพารา มันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมัน และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ทำให้กำลังซื้อหลายจังหวัดทั่วประเทศไม่คล่องตัว
นายธนวรรธน์ กล่าวว่า ราคาน้ำมันขายปลีก ราคาแอลพีจีที่สูงขึ้น และการปรับขึ้นภาษีสรรพสามิต ทำให้ราคาสินค้าบางชนิด เช่น สุรา บุหรี่ สูงขึ้น ส่งผลให้ผู้บริโภครู้สึกว่าของแพงขึ้น แม้ภาครัฐจะดูแลควบคุมราคาสินค้าจำเป็นไม่ให้สูงขึ้น ทำให้ผู้บริโภครู้สึกว่าเศรษฐกิจปัจจุบันยังฟื้นตัวไม่ดี แม้จะเห็นว่าเศรษฐกิจในอนาคตอาจจะปรับตัวดีขึ้นก็ตาม ทำให้ความเชื่อมั่นผู้บริโภคฟื้นตัวไม่มาก
นอกจากนี้ ทางศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจฯ ได้ประเมินว่าความเชื่อมั่นและเศรษฐกิจจะฟื้นตัวดีขึ้นในช่วงไตรมาส 4 เพราะคาดว่าโครงการสวัสดิการแห่งรัฐจะทำให้เกิดเงินสะพัดเดือนละกว่า 3,000-4,000 ล้านบาท และทำให้เกิดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจกว่า 10,000 ล้านบาท ช่วยพยุงเศรษฐกิจท้ายปีให้ดีขึ้น เมื่อรวมกับการส่งออกและการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวดีขึ้น และภาครัฐจะมีการลงทุนเพิ่มขึ้น ทำให้คาดว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้จะขยายตัวในกรอบร้อยละ 3.7-4 จากเดิมประเมินว่าน่าจะขยายตัวร้อยละ 3.6.-สำนักข่าวไทย