กำชับต้องรู้ทันขบวนการค้ายา สั่งกวดขันแหล่งท่องเที่ยว

ทำเนียบ 26 ก.พ.- รัฐบาล กำชับทุกหน่วย ต้องรู้ทันขบวนการค้ายาเสพติด หลังจับ “ยาบ้าคลุกไอซ์ รุ่นฟรุ้ง ฟริ้ง” กว่า 1 แสนเม็ดชายแดน สั่งให้กวดขันทั้งต้นทางและปลายทางแหล่งท่องเที่ยว


นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลเดินหน้าคุมเข้มปราบปรามการลักลอบนำเข้า – ส่งออก นำผ่าน และการลักลอบจำหน่ายสินค้ายาเสพติด และสินค้าอื่น ๆ ที่ผิดกฎหมาย เพื่อให้ประเทศมีความมั่นคง ปลอดภัยจากยาเสพติดและสินค้าผิดกฎหมาย ซึ่งตลอดระยะเวลาทุกภาคส่วนได้ร่วมกันดำเนินมาตรการอย่างเคร่งครัดและอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้สามารถจับกุมกลุ่มผู้กระทำความผิดแอบลักลอบนำเข้ายาเสพติดที่มีชื่อว่า “ยาบ้ารุ่นฟรุ้งฟริ้ง” หรือ ยาบ้าคลุกไอซ์ บริเวณเขตพื้นที่ชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน จำนวนถึง 106,000 เม็ด

“ด้วยลักษณะยาบ้ารุ่นฟรุ้งฟริ้ง หรือ ยาบ้าคลุกไอซ์ มีสีสวยสดใส โดยตัวยาจะเรืองแสง ระยิบระยับเป็นประกายเมื่ออยู่ในความมืด และตัวยามีการผสมเมทแอมเฟตามีนเพิ่มขึ้น ทำให้เป็นยาเสพติดที่เป็นที่นิยมในหมู่ผู้เสพเนื่องจากออกฤทธิ์รุนแรงกว่าปกติ ประกอบกับ “ยาบ้ารุ่นฟรุ้งฟริ้ง” มีมูลค่าก่อนนำเข้าจะมีราคาอยู่ที่เม็ดละ 9 บาท หากเข้ามายังฝั่งประเทศไทย จะมีราคาเพิ่มถึงเม็ดละ 30 บาท ทำให้เป็นปัจจัยสำคัญดึงดูดกลุ่มเอเยนต์ผู้ค้ายาเสพติด”รองโฆษกรัฐบาล ระบุ


นายอนุกูล กล่าวว่า เพื่อเป็นการเฝ้าระวังและเร่งปราบปรามการลักลอบนำเข้ายาเสพติดเข้ามาในประเทศไทย รัฐบาลได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะฝ่ายความมั่นคงคุมเข้ม บริเวณเขตชายแดน ตรวจสอบการเดินทางเข้าออกอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันไม่เกิดการลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาในประเทศไทย ซึ่งการนำเข้ายาเสพติดครอบครองและจำหน่ายถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย โดย “ยาบ้าหรือแอมเฟตามีน” เป็นยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 การผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่ายหรือมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 มีความผิดทางกฎหมายจำคุกไม่เกิน 15 ปี และปรับไม่เกิน 1,500,000 บาท อีกทั้ง การผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่ายหรือมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 โดยไม่ได้รับอนุญาต ที่เป็นการกระทำดังต่อไปนี้ (1) การกระทำเพื่อการค้า (2) การก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน (3) การจำหน่ายแก่บุคคลอายุไม่เกิน18 ปี (4) การจำหน่ายในบริเวณสถานศึกษา อันเป็นที่เคารพในทางศาสนาของหมู่ชนใด หรือสถานที่ราชการ (5) การกระทำโดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือ ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย (6) การกระทำโดยมีอาวุธหรือใช้อาวุธ มีโทษตั้งแต่ จำคุกตั้งแต่ 2 ปี ถึง 20 ปี และปรับตั้งแต่ 200,000 บาท – 2,000,000 บาท

“สำหรับสถานการณ์ปัจจุบันขบวนการค้ายาเสพติด ได้เริ่มปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานให้มีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้นด้วยวิธีการลักลอบนำเข้าและส่งออกจำหน่ายอย่างต่อเนื่อง รัฐบาลโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งปราบปรามยาเสพติดอย่างเด็ดขาด หากพบเจ้าหน้าที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องจะต้องถูกดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ทั้งนี้ หากประชาชนพบเห็นการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่โทรสายด่วน สำนักงาน ป.ป.ส. 1386 ตลอด 24 ชม.” นายอนุกูล กล่าว .-316 -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สั่งย้ายครูแบทแมน

สั่งเด้ง “ครูแบทแมน” ถ่ายคลิปไม่เหมาะสมในโรงเรียน

กัน จอมพลัง บุก ก.ศึกษาธิการ ร้องเอาผิดครูชายสวมหน้ากากแบทแมน ถ่ายคลิปไม่เหมาะสมในโรงเรียน จ.อุทัยธานี ล่าสุดสั่งย้าย “ผอ.โรงเรียน-ครูแบทแมน” เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง ด้าน “สส.ชาดา-กัน จอมพลัง” ลงพื้นที่ ขีดเส้นตายสอบเอาผิด

แม่อดีตครูสาว ยังติดใจสาเหตุ หลังพบศพในรถลานจอด รพ.

“น้องกิ๊ฟ” อดีตครูหายตัวไปเกือบ 1 เดือน พบอีกทีเป็นร่างไร้วิญญาณในรถยนต์บนลานจอดของโรงพยาบาล ญาติยังติดใจสาเหตุวอนตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิด ไขข้อสงสัย

สั่งจำคุก “อัจฉริยะ” 2 เดือน ไม่รอลงอาญา คดีละเมิดอำนาจศาล

ศาลอาญาสั่งจำคุก “อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์” 2 เดือน ไม่รอลงอาญา ฐานละเมิดอำนาจศาล เผยแพร่เอกสารสรุปย่อคำพิพากษาต่อสื่อมวลชนโดยไม่ได้รับอนุญาต

ข่าวแนะนำ

เคลื่อน 18 ศพเหยื่อบัสมรณะ ถึงบ้านเกิด ญาติร่ำไห้อาลัย

เจ้าหน้าที่กู้ภัยเคลื่อนร่างผู้เสียชีวิต 18 ราย จากเหตุรถบัสพลิกคว่ำ ถึงวัดป่าวิเวกธรรมคุณ อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของญาติที่รอรับศพ

สำรวจจุดเกิดเหตุรถบัสมรณะ 18 ศพ

ทีมข่าวลงพื้นที่จุดเกิดเหตุรถบัสมรณะ 18 ศพ พบว่ารถคันดังกล่าวฝ่าฝืนคำสั่งไม่ยอมจอดพักรถและลงชื่อก่อนจุดเกิดเหตุ 1 กิโลเมตร ทำให้รถเกิดเบรกแตกไหลลงเขาจนเกิดโศกนาฏกรรม

นายกฯ เรียก “รมต.จิราพร-ผบ.ตร.” ถกปราบบุหรี่ไฟฟ้า

“แพทองธาร” นายกฯ เรียก “รมต.จิราพร-ผบ.ตร.” ประชุมปราบปราม “บุหรี่ไฟฟ้า” ขีดเส้น 30 วัน ดำเนินการให้เด็ดขาด สั่งเข้มห้ามขายใกล้สถานศึกษา ต้องจัดการผู้นำเข้า

รถบัสดูงานคว่ำ

เร่งหาสาเหตุรถบัสคณะดูงานบึงกาฬ พลิกคว่ำทางลงเขาศาลปู่โทน

เจ้าหน้าที่เร่งกู้ซากรถบัสคณะดูงานเทศบาลบึงกาฬ เสียหลักพลิกคว่ำบริเวณทางลงเขาศาลปู่โทน จ.ปราจีนบุรี ทำให้มีผู้เสียชีวิต 18 คน บาดเจ็บอีกจำนวนมาก พร้อมเร่งหาสาเหตุของอุบัติเหตุ หลังมีรายงานว่าตอนลงเขารถบัสใช้ความเร็วเกิน 100 กม./ชม.