กรุงเทพฯ 21 ก.พ. – สมาคมค้าทองคำ เตรียมปรับขึ้นค่ากำเหน็จทองรูปพรรณ จาก 500 บาท เป็น 800 บาท เริ่ม 1 มี.ค.68 หลังไม่ได้ปรับมา 10 ปี ชี้ต้นทุนค้าทองคำสูงขึ้น
เว็บไซต์ของสมาคมค้าทองคำ ระบุข้อมูลว่า เนื่องด้วยในปัจจุบัน ค่าใช้จ่ายในการประกอบธุรกิจปรับตัวสูงขึ้นเป็นอย่างมาก ส่งผลให้สมาชิกสมาคมค้าทองคำได้เรียกร้องมายังสมาคม ให้มีการปรับเปลี่ยนราคากลางค่ากำเหน็จทองรูปพรรณให้เหมาะสมกับต้นทุนของการประกอบธุรกิจค้าทองคำในปัจจุบัน
ดังนั้น คณะกรรมการสมาคมค้าทองคำ จึงได้ร่วมกันพิจารณา และมีมติในที่ประชุมคณะกรรมการสมาคมค้าทองคำ ครั้งที่ 1/2568 เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2568 ให้ปรับเปลี่ยนราคากลางค่ากำเหน็จทองรูปพรรณ จากเดิมกำหนดไว้ที่ 500 บาท ต่อบาท (ทองคำ) ที่ประกาศใช้มาตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2559 ตามประกาศที่ สคท.(ป) 001/2559 ให้ปรับเปลี่ยนเป็น 800 บาท ต่อบาท (ทองคำ) ทั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงในปัจจุบัน โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ วันที่ 1 มีนาคม 2568 เป็นต้นไป
นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ เปิดเผยว่า การปรับขึ้นราคากลางค่ากำเหน็จทองรูปพรรณ จากเดิม 500 บาทต่อบาททองคำ ที่ประกาศใช้มาตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2559 เป็น 800 บาทต่อบาททองคำ หลังไม่ได้ปรับมาเป็นระยะเวลาร่วม 10 ปี เพื่อให้เหมาะสมกับต้นทุนของการประกอบธุรกิจค้าทองคำในปัจจุบันที่ปรับตัวสูงขึ้น เช่น ค่าแรง เป็นต้น ซึ่งการปรับขึ้นค่ากำเหน็จในครั้งนี้ ยังต่ำกว่าที่ซื้อขายในตลาดซึ่งค่ากำเหน็จอยู่ที่ 1,200 บาทต่อบาททองคำ จึงไม่กระทบต่อบรรยากาศการซื้อขายในตลาด เป็นเรื่องเกี่ยวกับปรับฐานภาษีจากที่ต้นทุนสูงขึ้น ลดปัญหาการขายขาดทุน เพราะจากการที่ราคาทองปรับตัวสูงขึ้นมากกกว่า 40,000 บาทต่อบาททองคำ ทำให้กำลังซื้อของประชานลดลงประมาณ 20-30% และให้สอดคล้องกับสถานการณ์ราคาทองคำในตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง.-516-สำนักข่าวไทย