ตลาดหลักทรัพย์ฯ เร่งหารือ ก.คลัง ออกมาตรการกระตุ้นตลาดหุ้นไทย

กรุงเทพฯ 10 ก.พ. – “อัสสเดช” รับหุ้นไทยผันผวน-ร่วงแรง เร่งหารือกระทรวงการคลัง-สมาคมที่เกี่ยวข้อง ออกมาตรการกระตุ้นตลาดหุ้นไทย


นายอัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวถึง หุ้นไทยที่ร่วงอย่างต่อเนื่อง ว่า ยอมรับว่าช่วงนี้ตลาดหุ้นผันผวน หุ้นไทยร่วงหนักเป็นอันดับต้นๆ ของอาเซียน โดยตลาดหุ้นไทยปรับลดลงมามีปัจจัยที่เข้ามาหลายอย่าง หากสามารถสร้างพื้นฐานให้แข็งแกร่ง และเติบโตได้สูงกว่าปัจจุบันน่าจะเป็นประโยชน์ ทั้งนี้ตลาดหลักทรัพย์ฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจ อยู่ระหว่างหาแนวทางกระตุ้น โดยระยะกลาง และระยะยาวก็ได้มีการดำเนินการตามแผน ส่วนระยะเร่งด่วนขณะนี้อยู่ระหว่างหารือกับกระทรวงการคลัง และสมาคมที่เกี่ยวข้องกับตลาดทุน ว่าจะสามารถทำอะไรได้บ้าง เพื่อกระตุ้นตลาดหุ้นเป็นการเร่งด่วน โดยยอมรับว่ากระทรวงการคลังได้สอบถามถึงกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) เข้ามา ว่าตลาดหลักทรัพย์ฯ และรวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีความคิดเห็นอย่างไร ซึ่งทางตลาดหลักทรัพย์ และสมาคมต่าง ๆ ได้วิเคราะห์และหารือกันเพื่อช่วยตลาดหุ้นไทยเต็มที่ แต่ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจน เนื่องจากมีหลายมุมมอง ซึ่งต้องหารือให้รอบคอบ เพื่อให้ได้มาตรการที่เหมาะสม ขณะที่กองทุน Thai ESG เมื่อปลายปีที่แล้วมีเงินเข้ามาเยอะ แต่ส่วนใหญ่ไปยู่ในตราสารหนี้ ไม่ได้เข้าตลาดทุน ดังนั้นจึงต้องมีมาตรการที่เหมาะสม เพื่อให้เงินเข้ามายังตลาดทุน

นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า นโยบายของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ สร้างแรงสั่นสะเทือนต่อสหรัฐฯ และทั่วโลก โดย IMF มีมุมมองว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะมีความแข็งแกร่งมากขึ้น แต่มีความเสี่ยงด้านลบในประเทศอื่นๆ จากความไม่แน่นอนของนโยบายที่เปลี่ยนแปลง จะทำให้ธนาคารกลางต่างๆ ใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายได้ยากขึ้น ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้น และค่าเงินดอลลาร์มีแนวโน้มแข็งค่า ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่เงินลงทุนกระจุกตัวอยู่ในหุ้น AI เพียงไม่กี่ตัว หรือ หุ้นกลุ่มนางฟ้า มีโอกาสเกิดปรับฐานครั้งใหญ่ อีกทั้งความไม่แน่นอนเชิงนโยบาย มีโอกาสที่ FED อาจต้องปรับมาใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเร็วกว่าคาด ส่งผลต่อทิศทางฟันด์โฟลว์เคลื่อนย้ายออกจากสหรัฐฯ กลับมายัง Emerging Market รวมถึงตลาดหุ้นไทย


ตลาดหุ้นไทยยังมีความน่าสนใจจากการที่เป็นตลาดที่มีความผันผวนต่ำ โดยพิจารณาจากค่า End of day volatility ของ SET Index สาเหตุหนึ่งมาจากบริษัทจดทะเบียน และเป็นตลาดหุ้นที่มีอัตราผลตอบแทน dividend yield สูงอย่างต่อเนื่อง โดยค่าเฉลี่ยย้อนหลังตั้งแต่ปี 2000 ถึงปัจจุบันอยู่ที่ 3.14% นอกจากนี้นับแต่ต้นปี 2568 ดัชนี SETHD และ SET50FF มีผลตอบแทนสูงกว่า SET Index ประกอบกับอัตราเงินเฟ้อของไทยอยู่ในระดับค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาค เมื่อนำผลกระทบจากอัตราเงินเฟ้อออกไป จะทำให้ dividend yield ที่แท้จริงของไทยมีความน่าสนใจยิ่งขึ้น ดังนั้น จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการกระจายการลงทุนไปในสินทรัพย์ที่มีลักษณะ Defensive Stock

ส่วนภาวะตลาดหลักทรัพย์ไทยเดือนมกราคม 2568 ณ สิ้นเดือนมกราคม 2568 SET Index ปิดที่ 1,314.50 จุด ทำให้ SET Index ปรับลดลง 6.1% / กลุ่มอุตสาหกรรมที่ปรับตัวดีกว่า SET Index เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2567 ได้แก่ กลุ่มการเงิน และกลุ่มพลังงาน /มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันใน SET และ mai อยู่ที่ 39,006 ล้านบาท ลดลง 17.2% จากเดือนมกราคม 2567 อย่างไรก็ตาม เห็นสัญญาณเกี่ยวกับมูลค่าการซื้อขายผู้ลงทุนสถาบันในประเทศเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับสูงกว่า 10% ของมูลค่าซื้อขายทั้งหมด สี่เดือนต่อเนื่อง ขณะเดียวกันผู้ลงทุนต่างประเทศยังคงมีสัดส่วนซื้อขายสูงสุดที่ระดับ 49.67% ของมูลค่าซ้อขายรวม โดยเป็นการขายสุทธิ 11,504 ล้านบาท นับเป็นการขายสุทธิต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 เดือนมกราคม 2568 มีบริษัทเข้าจดทะเบียนใหม่ซื้อขายใน mai 1 หลักทรัพย์ ได้แก่ บมจ. โปร อินไซด์ (PIS) / Forward P/E ของตลาดหลักทรัพย์ไทย ณ สิ้นเดือนมกราคม 2568 อยู่ที่ระดับ 15.0 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ระดับ 12.6 เท่า และ Historical P/E อยู่ที่ระดับ 17.7 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ระดับ 14.2 เท่า อัตราเงินปันผลตอบแทน ณ สิ้นเดือนมกราคม 2568 อยู่ที่ระดับ 3.64% สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ 3.28%

สำหรับภาวะตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (TFEX) เดือนมกราคม 2568 มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 391,493 สัญญา ลดลง 27.3% จากเดือนก่อน ที่สำคัญจากการลดลงของ Single Stock Futures และ SET50 Index Futures ทำให้ในปี 2568 มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 391,493 สัญญา ลดลง 27.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่สำคัญจากการลดลงของ Single Stock Futures และ SET50 Index Futures. -517-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เครื่องบินภูเก็ตมุ่งหน้ามอสโก ขอลงจอดฉุกเฉินที่สุวรรณภูมิ

เที่ยวบิน 777-300ER สายการบิน Aeroflot ขึ้นจากภูเก็ตไปมอสโก เตรียมลงสุวรรณภูมิ หลังบินวนกลางทะเลอันดามันหลายชั่วโมง จากปัญหาระบบลงจอดขัดข้อง

ไข้หวัดใหญ่ระบาด

ไข้หวัดใหญ่ระบาดในสหรัฐ-เสียชีวิตแล้ว 13,000 ราย

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ หรือซีดีซี รายงานว่า พบผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ในฤดูกาลนี้อย่างน้อย 24 ล้านคนแล้วทั่วสหรัฐ

ตัดไฟเมียนมา

มาตรการตัดไฟเมียนมาได้ผล กลุ่มเว็บพนันปลดพนักงานแล้วกว่าร้อยคน

มาตรการตัดไฟเมียนมาได้ผล กลุ่มเว็บพนันออนไลน์และกลุ่มสแกมเมอร์ที่จังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ปลดพนักงานแล้วกว่า 100 คน เนื่องจากขาดแคลนกระแสไฟฟ้า ทำให้พนักงานทยอยเดินทางออกจากท่าขี้เหล็ก กลับมาทางด่าน อ.แม่สาย จ.เชียงราย อย่างต่อเนื่อง

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ลั่นพร้อมแจงศึกซักฟอก เป็นนายกฯ ต้องตอบทุกเรื่อง

นายกฯ ขอคุยพรรคร่วมก่อนประชุมร่วมรัฐสภาแก้ รธน. หลัง “ชูศักดิ์” บอกอาจมีการยื่นศาล รธน.ตีความต้องทำประชามติก่อน ลั่นพร้อมแจงศึกซักฟอก เป็นนายกฯ ต้องตอบทุกเรื่อง

ราคาทองคำ

ทองไทยนิวไฮรายวัน 1 ชม.แรกวันนี้ ราคาเปลี่ยน 7 รอบ

ราคาทองคำนิวไฮต่อเนื่องวันนี้แพงสุดในประวัติศาสตร์ ตามตลาดโลก และบาทอ่อนค่า โดย 1 ชม.แรกวันนี้ราคาเปลี่ยน 7 รอบ ตั้งแต่ต้นปี ขึ้นราคามาแล้ว 4,900 บาทต่อบาททองคำ

รถเมล์ยกล้อ

รถเมล์เสียหลักเกี่ยวสลิงยึดสายไฟฟ้าแรงสูง

รถเมล์สาย 167 วิ่งระหว่างเคหะพระรามที่ 2 ถึงสวนลุมพินี เจอคราบน้ำมันบริเวณแยกมไหสวรรค์ ลื่นเสียหลักเกี่ยวสลิงยึดสายไฟฟ้าแรงสูง โชคดีไม่มีผู้บาดเจ็บ

อุตุฯ เผยภาคเหนือ-อีสาน อากาศหนาวในตอนเช้า

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า ส่วนภาคกลาง กทม.-ปริมณฑล ภาคตะวันออก ภาคใต้ มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง