กรุงเทพฯ 5 ก.พ.- กรมศุลกากรจับสินค้าผิดกฎหมาย ช่วง 4 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2568 มูลค่ากว่า 780 ล้านบาท ”จุลพันธ์“ ชี้ยังไม่มีสินค้าจีนทะลักเข้าไทยผิดปกติ แต่จับตาใกล้ชิด หลังสหรัฐประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานในการแถลงข่าว “กรมศุลกากรแถลงผลการจับกุมสินค้าผิดกฎหมายในช่วง 4 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2568 โดยเปิดเผยว่า ตามที่ นายกรัฐมนตรี มีนโยบายให้เพิ่มมาตรการสกัดกั้นการลักลอบนำเข้า – ส่งออกสินค้าผิดกฎหมายที่ส่งผลต่อสุขภาพ และความปลอดภัยของประชาชน รวมถึงส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศอย่างจริงจัง
ทั้งนี้ กระทรวงการคลัง ได้ขานรับนโยบายและสั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพิ่มความเข้มงวดเพื่อตอบสนองนโยบายอย่างเคร่งครัด กรมศุลกากร จึงกำชับให้เจ้าหน้าที่เพิ่มการเฝ้าระวังการลักลอบนำเข้าและส่งออกสินค้าผิดกฎหมายทุกช่องทาง รวมถึงการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด ซึ่งในช่วง 4 เดือนแรกที่ผ่านมาของปีงบประมาณ 2568 กรมศุลกากรสามารถจับกุมสินค้าผิดกฎหมายเติบโต 25% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน หรือมีมูลค่ากว่า 780 ล้านบาท โดยมีสินค้าที่น่าสนใจดังนี้
- บุหรี่ต่างประเทศ มีสถิติการจับกุมบุหรี่ต่างประเทศ ในปีงบประมาณ 2568 (ตุลาคม 2567 – มกราคม 2568) จับกุมได้ 667 คดี ปริมาณ 17.39 ล้านมวน มูลค่า 90.32 ล้านบาท
- บุหรี่ไฟฟ้า มีสถิติการจับกุมบุหรี่ไฟฟ้า ในปีงบประมาณ 2568 (ตุลาคม 2567 – มกราคม 2568) จับกุมได้ 234 คดี มูลค่า 28.95 ล้านบาท
- ยาเสพติด สำหรับสถิติในการจับกุมยาเสพติด ในปีงบประมาณ 2568 (ตุลาคม 2567 – มกราคม 2568) จับกุมได้ 85 คดี มูลค่า 637.10 ล้านบาท
- ช่อดอกกัญชา มีสถิติในการจับกุมกัญชา ในปีงบประมาณ 2568 (ตุลาคม 2567 – มกราคม 2568) จับกุมได้ 361 คดี มูลค่า 24.75 ล้านบาท
- ของอุปโภคที่ไม่ผ่านพิธีการศุลกากร เช่น โลชั่นบำรุงผิว และทิชชูเปียก จำนวน 300,000 ชิ้น มูลค่า 7 ล้านบาท โดยเป็นสินค้าที่มีเมืองกำเนิดต่างประเทศ และไม่มีเอกสารหลักฐาน การผ่านพิธีการศุลกากร , กระดาษเช็ดหน้า จำนวน 223,440 ชิ้น มูลค่า 167,203.35 บาท โดยมีประเทศกำเนิด CHINA แต่บรรจุภัณฑ์ของสินค้าดังกล่าว ระบุ “Made in Thailand” จึงเป็นการแสดงกำเนิดเป็นเท็จ
- ขยะอิเล็กทรอนิกส์และเศษพลาสติก มีสถิติการจับกุมของที่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม ในปีงบประมาณ 2568 (ตุลาคม 2567 – มกราคม 2568) ได้แก่ ขยะอิเล็กทรอนิกส์ จำนวน 19 คดี น้ำหนัก 256.64 ตัน เศษพลาสติก จำนวน 8 คดี น้ำหนัก 367.20 ตัน
- เครื่องเล่นเกมส์ ประเภทตู้คีบตุ๊กตา กรมศุลกากร โดยสำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง ตรวจสอบตู้สินค้าขาเข้า พบของไม่ได้แสดงข้อมูลในใบขนสินค้าเป็นเครื่องเล่นเกมส์ (ตู้คีบตุ๊กตา) โดยนำเข้าในลักษณะแยกชิ้นส่วน ซึ่งสามารถนำมาประกอบเป็นตู้คีบตุ๊กตาครบชุดสมบูรณ์ จำนวน 132 ตู้ มูลค่า 1.6 ล้านบาท นอกจากนั้น ยังตรวจสอบพบสินค้านำเข้าจากประเทศจีน แสดงข้อมูลในใบขนสินค้าเป็นตู้ แต่เมื่อตรวจสอบ พบเป็นเครื่องเล่นเกมส์ (ตู้คีบตุ๊กตา) จำนวน 48 ตู้ มูลค่า 480,000 บาท
นายจุลพันธ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การจับกุมสินค้าผิดกฎหมายดังกล่าว ไม่มีการเลือกปฏิบัติว่าสินค้าต้นทางมาจากประเทศใด โดยเฉพาะประเทศที่ได้รับผลกระทบการตั้งกำแพงภาษีจากสหรัฐฯ แต่ยึดกฎหมายในประเทศเป็นหลัก รวมทั้งข้อตกลงทางการค้า ระหว่างประเทศ ในฐานะกระทรวงการคลังจะตั้งหน่วยงานขึ้นมาศึกษาและติดตามอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้คนไทยและสินค้าไทยได้รับผลกระทบ โดยศึกษาจากกรณีประเทศเม็กซิโกและแคนาดที่ได้เข้าไปเจรจาต่อรอง จนได้รับการผ่อนปรนยืดเวลาการขึ้นภาษีไปอีก 1 เดือน
ส่วนสินค้านำเข้าจากจีน ยังไม่เห็นตัวเลขเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะ แต่จะติดตามอย่างใกล้ชิด โดยพิจารณาจากซัพพลายจากจีน ประเทศที่ได้รับผลกระทบจากโยบายสหรัฐฯ และความต้องการสินค้าของคนไทย ซึ่งหากมีตัวเลขการนำเข้าสินค้าที่เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยยะก็จะต้องหามาตรการเข้ามาควบคุมต่อไป
สำหรับการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับสิบค้านำเข้าต่ำกว่า 1,500 บาท ซึ่งหลังจากที่ได้มีมติเห็นชอบจาก ครม. ไปแล้ว กรมศุลกากรได้จัดเก็บแทนกรมสรรพากรจนถึงสิ้นปีนี้ เนื่องจากกรมสรรพากรอยู่ในขั้นตอนพัฒนาแพลตฟอร์มให้มีความพร้อม หากแล้วเสร็จจะสามารถจัดเก็บภาษีผ่านแพลตฟอร์มได้โดยตรง ซึ่งปัจจุบันกรมศุลการสามารถจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับสิบค้านำเข้าต่ำกว่า 1,500 บาท ได้ราวเดือนละ 220 ล้านบาท.-516-สำนักข่าวไทย