กรุงเทพฯ 5 ก.พ. – “ทีมสุดซอย” กระทรวงอุตสาหกรรม บุกทลายโกดังสินค้าไม่มีมาตรฐาน มอก. ที่ขายเกลื่อนแพลตฟอร์มออนไลน์ ยึดของกลางกว่า 11.8 ล้านบาท ชี้เคยถูกยึดไปแล้วเมื่อต้นปี แต่มีการลักลอบนำออกมาขายอีก เร่งขยายผลถึงต้นตอ วอน ปชช.ช่วยชี้เป้า “แจ้งอุต
นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ชุดตรวจการสุดซอย กระทรวงอุตสาหกรรม เข้าตรวจสอบคลังสินค้าขนาดใหญ่ ของบริษัทแห่งหนึ่งตั้งอยู่ใน ต.แพรกษา อ.เมือง จ.สมุทรปราการ หลังจากพบการโฆษณาขายสินค้าไม่มีเครื่องหมายมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ชื่อดัง จึงขยายผลไปยังคลังสินค้าดังกล่าวและตรวจยึดสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน มอก. หลายรายการ อาทิ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์, พาวเวอร์แบงค์, อะแดปเตอร์, ไดร์เป่าผม, หม้อหุงข้าว, หม้ออบลมร้อน, ของเล่น, หมวกกันน็อก และภาชนะพลาสติก เป็นต้น รวมมูลค่ากว่า 11.8 ล้านบาท
การลักลอบจำหน่ายสินค้าไม่มีคุณภาพ ลักลอบนำเข้าสินค้าควบคุมที่ไม่มี มอก. มาหลอกขายประชาชนในราคาถูกเช่นนี้ต้องทำเป็นขบวนการ เบื้องต้นได้ทำการยึดอายัดสินค้าที่ไม่มี มอก.ทั้งหมด ตามมาตรการปราบปรามสินค้าไม่ได้มาตรฐาน เพื่อป้องกันอันตรายร้ายแรงที่อาจเกิดกับประชาชนผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็นไฟช็อต หรือไฟไหม้จากเครื่องใช้ไฟฟ้า รวมถึงสารปนเปื้อนในของเล่น และภาชนะพลาสติก นอกจากนี้ขบวนการนี้ยังมีพฤติกรรมทุ่มตลาดที่นำเข้าสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานลักลอบจำหน่ายในราคาถูก ซึ่งเป็นการเอารัดเอาเปรียบผู้ประกอบการไทยที่ผลิตและจำหน่ายสินค้าที่ได้มาตรฐาน และปฏิบัติตามกฎหมาย
นางสาวฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า บริษัท วินไทย เทรดดิ้ง จำกัด เคยถูกตรวจสอบและยึดอายัดสินค้าไม่ได้มาตรฐานมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อวันที่ 14 ม.ค.68 แต่ก็ถูกลักลอบนำไปจำหน่ายในแพลตฟอร์มออนไลน์ ซึ่งจากการตรวจสอบพบของกลางซึ่งส่วนใหญ่เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่มีมาตรฐานจำนวนมากหายไป และแถบป้ายยึดอายัดของ สมอ.ถูกรื้อออก ซึ่งเป็นความผิดทางอาญาร้ายแรง จึงได้ประสานอุตสาหกรรมจังหวัด (สอจ.) สมุทรปราการ และตำรวจ สภ.บางปู สั่งหยุดการบรรจุและส่งสินค้า พร้อมยึดอายัดสินค้าที่ไม่มี มอก. ในคลังสินค้าไว้ทั้งหมด
ทั้งนี้บริษัทแห่งนี้ได้จดทะเบียนนิติบุคคลเมื่อวันที่ 21 พ.ค.64 ระบุชื่อ นายตง เริ่น สัญชาติจีน เป็นกรรมการบริษัท โดยบริษัทฯ ทำหน้าที่เป็นทั้งคลังเก็บสินค้าและเป็นผู้จำหน่ายเองด้วย จึงมีความผิดฐานจำหน่ายสินค้าไม่ได้มาตรฐาน มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ความผิดฐานทำลายของกลาง มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6 พันบาท และความผิดฐานทำลายแถบป้ายยึดอายัด มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 4 พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
“หลังจากนี้จะทำการขยายผลไปถึงต้นตอว่า สินค้าที่ยึดอายัดเป็นของผู้นำเข้ารายใด โดย สมอ.จะดำเนินคดีอาญากับผู้นำเข้ารายนั้นอย่างถึงที่สุด ซึ่งบทลงโทษสำหรับผู้นำเข้าสินค้าไม่ได้มาตรฐาน มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 2 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนแพลตฟอร์มออนไลน์และเจ้าของโกดัง ที่ให้เช่าก็ถือว่ามีความผิดด้วยในฐานะผู้โฆษณา และร่วมจำหน่ายสินค้าไม่ได้มาตรฐาน มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” น.ส.ฐิติภัสร์ ระบุ. -517-สำนักข่าวไทย