ทำเนียบ 31 ม.ค.- “ขมิ้นชัน” ตลาดโลกนิยม ราคาดีขึ้นต่อเนื่อง โอกาสทองของเกษตรกร-ผู้ประกอบการ ดันสู่ตลาดความงามโลกคาดอีก 2 ปีมูลค่าตลาดโลกทะลุหมื่นล้านบาท
นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผย ว่า รัฐบาลโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กระทรวงพาณิชย์และส่วนราชการอื่นๆ ร่วมกันขับเคลื่อนมาตรการสร้างรายได้และขยายโอกาสภาคการเกษตรผ่านมาตรการเชื่อมโยงประสานผู้ประกอบการสมุนไพร “ขมิ้นชัน” สู่การพัฒนาต่อยอดส่งออกผลิตภัณฑ์สมุนไพรเสริมความงาม
ขมิ้นชันถือเป็นพืชสมุนไพรอีกชนิดหนึ่งที่มีสรรพคุณทางด้านการแพทย์ และมีสรรพคุณในด้านความงามและผิวพรรณเนื่องด้วยสารเคอร์คิวมินอยด์ (Curcuminoids) โดยเฉพาะ สารเคอร์คิวมิน (Curcumin) ช่วยลดการอักเสบของผิว บรรเทาอาการระคายเคือง ลดเลือนจุดด่างดำ ต้านเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา ซึ่งเป็นสาเหตุการเกิดสิว จึงสามารถนำมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ด้านความงามและผิวพรรณได้เป็นอย่างดี ขมิ้นชันจึงเป็นสมุนไพรที่ได้นิยมและแพร่หลายในตลาดโลกในด้านการดูแลผิวพรรณจากธรรมชาติ ซึ่งจะเห็นได้จากผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง แบรนด์ชั้นนำบางแบรนด์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ที่มักจะนำเอาขมิ้นชันไปทำเป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ด้วยความนิยมและแพร่หลายในตลาดโลกโดย ในปี 2567 มีมูลค่าถึง 7,977.82 ล้านบาท ซึ่งประเทศไทย มีส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 5.6 มีมูลค่าตลาด 450.24 ล้านบาท และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจนถึง ปี 2570 คาดว่าจะมีมูลค่าทั่วโลกทะลุหมื่นกว่าล้านบาท ขณะที่ประเทศไทยคาดว่าจะมีมูลค่าถึง 550 ล้านบาท หรือ เติบโตเฉลี่ยปีละร้อยละ 11.4
นายอนุกูล กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีเครื่องสำอางที่มีขมิ้นชันเป็นส่วนประกอบ ขึ้นทะเบียนแล้ว จำนวน 5,954 ผลิตภัณฑ์ หรือคิดเป็นร้อยละ 2.06 ของเครื่องสำอางที่จำหน่ายอยู่ในประเทศไทยทั้งหมด แสดงถึงช่องว่างและโอกาสที่ขมิ้นชันจะสามารถเติบโตได้อีกมาก รัฐบาลเล็งเห็นโอกาสที่ขมิ้นชันจะสามารถเติบโตได้อีกมาก จากระยะเวลาที่ผ่านมา โดยมีการประกาศให้ขมิ้นชัน เป็น 1 ใน 15 สมุนไพร Herbal Champions ที่มีความพร้อมเพื่อการพัฒนาต่อยอดทางเศรษฐกิจของประเทศ และการพัฒนาต่อยอดศักยภาพให้ขมิ้นชันเป็นผลิตภัณฑ์สมุนไพรให้อยู่ในระดับสากล มีรูปแบบที่หลากหลายเหมาะสมต่อการใช้งาน เพื่อเพิ่มมูลค่าให้ขมิ้นชันในระยะยาวต่อไป .314.-สำนักข่าวไทย