ซิดนีย์ 24 ม.ค. – นักท่องเที่ยวจำนวนมาก พากันไปชมดอกซากศพบานครั้งแรกในรอบ 15 ปี ที่สวนพฤกษศาสตร์หลวงในนครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย
ดอกบุกยักษ์ หรือ ดอกซากศพ ซึ่งมีกลิ่นเหม็นเหมือนเนื้อเน่า ผลิดอกบานสะพรั่งเป็นครั้งแรกในรอบ 15 ปี ภายในเรือนกระจกที่สวนพฤกษศาสตร์หลวง (Royal Botanic Gardens) ในซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลียเมื่อวานนี้ ดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมากแห่เข้าชม บางคนต้องรอในคิวแถวยาวนานถึง 2 ชั่วโมง เพื่อที่จะได้ชมและถ่ายเซลฟี่กับดอกไม้ที่บานยากนี้ และถือโอกาสอลองดมกลิ่นที่อยู่รอบ ๆ ดอกไม้ขณะที่มันบานด้วยเช่นกัน ซึ่งหลายคนก็ยอมรับว่า กลิ่นของดอกซากศพนี้มันสมชื่อจริงๆ กลิ่นของมันเหม็นเหมือนกับถุงเท้าเก่า บ้างก็ว่ากลิ่นเหมือนหนูเน่าตาย หรือไม่ก็เศษอาหารบูด
หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ของสวนพฤกษศาสตร์กล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า สิ่งที่ดอกไม้ซากศพชนิดนี้พยายามทำ คือส่งกลิ่นเหม็นเน่าโชยออกมาเพื่อล่อแมลง ไม่ว่าจะเป็นแมลงวัน ด้วง เต่าทอง หรือแมลงอะไรก็ตาม ให้เข้ามาช่วยนำพาเกสรออกไปผสมกับดอกอื่น
ดอกไม้ชนิดนี้มีช่อดอกที่ใหญ่ที่สุดและมีกลิ่นเหม็นมากที่สุดในโลก เมื่อผลิบานก็จะบานเพียงแค่ 24 ชั่วโมงเท่านั้น ผู้มาเยี่ยมชมต่างรู้สึกตื่นเต้นที่ได้เห็นและได้กลิ่นดอกไม้ซากศพ กล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่าคุ้มค่ากับการรอคอย แม้ว่าจะมีคิวยาวก็ตาม
ครั่้งนี้นับเป็นครั้งที่ 5 แล้ว ที่ดอกศพบานที่สวนพฤกษศาสตร์หลวงซิดนีย์ ก่อนหน้านี้ เคยบานมาแล้วในปี 2553, 2551, 2547 และบานพร้อมกันสองดอกในปี 2549 ปกติแล้ว ดอกซากศพมีถิ่นกำเนิดในเกาะสุมาตราของอินโดนีเซีย และอยู่ในบัญชีรายชื่อพืชที่ใกล้สูญพันธุ์ โดยในป่าธรรมชาติเหลืออยู่ไม่ถึง 1,000 ต้นเท่านั้น.-815.-สำนักข่าวไทย